วันนี้ (12 เมษายน 2568) กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ส่งทีม SEhRT ปฏิบัติภารกิจด้านสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อม ร่วมกับทีม EMT Thailand เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา โดยมี นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน
นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการส่งทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุข ให้การสนับสนุนช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติในประเทศพม่า และได้มอบหมายกรมอนามัย เข้าร่วมปฏิบัติการร่วมกับทีม EMT Thailand โดยส่งทีม SEhRT ปฏิบัติภารกิจสนับสนุนด้านการจัดการสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหว ทั้งหมด 4 ทีม ทีมละ 2 คน โดยทีมแรก ประกอบด้วย
ว่าที่ ร.ต.กิตติบดี โลกนุเคราะห์ จากสำนักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ พร้อมด้วย นางสาวสัจมาน ตรันเจริญ
จากสำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม ร่วมลงปฏิบัติการในพื้นที่ประสบภัย เช้าวันนี้
ว่าที่ ร.ต.กิตติบดี โลกนุเคราะห์ นักวิเคราะนโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ กล่าวว่า การลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ ทีม SEhRT กรมอนามัย จะทำหน้าที่ให้การสนับสนุนแก่ทีมด้านการแพทย์และสาธารณสุขในภาพรวม การเฝ้าระวังการปนเปื้อนในอาหารและน้ำ ด้วยชุดทดสอบภาคสนาม ได้แก่ ชุดทดสอบการปนเปื้อนเชื้อโคลิฟอร์มแบคทีเรีย ชุดทดสอบคลอรีนอิสระคงเหลือในน้ำ เพื่อให้มีน้ำที่สะอาดและความปลอดภัยสำหรับใช้ในพื้นที่ นอกจากนี้ การดูแลเรื่องการจัดการสุขาภิบาลอาหารเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะในช่วงเกิดภัยพิบัติมักเกิดการปนเปื้อนของเชื้อโรคปนในอาหารและทำให้เกิดภาวะท้องเสีย ท้องร่วงได้ ดังนั้นจึงต้องมีการตรวจประเมินเฝ้าระวังการปนเปื้อนในอาหารและให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่และประชาชนในการกินอาหารปรุงสุกใหม่อยู่เสมอเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดปัญหาโรคที่มาจากอาหารและน้ำเป็นสื่อต่อไป
นางสาวสัจมาน ตรันเจริญ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ กล่าวว่า ทีม SEhRT กรมอนามัย ร่วมลงพื้นที่ประเมินเฝ้าระวังความเสี่ยงด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมที่อาจมีการปนเปื้อนของเชื้อโรคกระทบต่อสุขภาพ รวมทั้งการจัดเตรียมถุงขยะสีดำและถุงขยะสีแดง ใช้เก็บรวบรวมขยะและสิ่งปฏิกูล รวมถึงขยะติดเชื้อที่เกิดจากการปฏิบัติทางการแพทย์ นอกจากนี้มีการสาธิตการใช้ชุดเราสะอาด หรือชุด V-Clean ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ประสบภัย เพื่อสื่อสารและสร้างความรอบรู้ให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ให้สามารถส่งต่อความรู้ไปยังประชาชนในพื้นที่ให้สามารถดูแลตนเองได้อย่างปลอดภัยในช่วงหลังประสบภัยแผ่นดินไหว รวมถึงการดูแลสุขวิทยาส่วนที่ดี
