
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.)
ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง.ผบก.ป ช่วยราชการ รอง ผบก.ทล.,
พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.ธัช โพธิ์สุวรรณ ผกก.1 บก.ทล., พ.ต.ท.นาวิน คงสว่าง
รอง ผกก.1 บก.ทล., พ.ต.ท.มีเดีย ปฐมพรวิวัฒน์ รอง ผกก.1 บก.ทล., ว่าที่ พ.ต.ต.วิศวนนท์ ศรีงาม สว.ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล., ร.ต.อ.นิพันธ์ อำพันดี รอง สว.ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย เจ้าพนักงานตำรวจ ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล. ประกอบด้วย ด.ต.ถนอม ทองเพชร ,ด.ต.สยาม เผือกดี , ด.ต.ต่อวุฒิ เกตุแก้ว , จ.ส.ต.ภานุพงษ์ ต่วนชะเอม ผบ.หมู่ ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล.ร่วมกันจับกุม นายอนุสรณ์ฯ อายุ 44 ปี

พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง ยี่ห้อ ISUZU รุ่น D MAX ปี ค.ศ.2017 สี น้ำเงิน-ดำ จำนวน 1 คัน, กุญแจรถยนต์ จำนวน 1 ดอก, แผ่นป้ายทะเบียน (ป้ายดำปลอม) กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 แผ่น ติดอยู่ที่ด้านหน้าและหลังรถ,แผ่นป้ายแสดงการเสียภาษี ปี พ.ศ. 2569 ระบุยี่ห้อ ISUZU จำนวน 1 แผ่น (ป้ายภาษีปลอม)อยู่ภายในเก๊ะด้านในรถ, สำเนารายการจดทะเบียนของรถยนต์ ISUZU D-MAX รุ่นปี ค.ศ.2017 สีน้ำเงิน จำนวน 1 ฉบับ อยู่ภายในเก๊ะด้านในรถและสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ชื่อสกุล นายกิตติฯ ระบุวันที่ออกบัตร 11 ก.ค.63 จำนวน 1 ฉบับ อยู่ภายในเก๊ะด้านในรถ
โดยกล่าวหาว่า “มีและใช้เอกสารราชการปลอม และ ใช้รถที่ยังไม่ได้เสียภาษีประจำปีตามระยะเวลาที่กำหนด” สถานที่จับกุม บริเวณ ทล.205 กม.23-24 ต.โคกสำโรง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี
พฤติการณ์ ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุดจับกุมออกกวดขันปราบปรามรถสวมทะเบียนและใช้เอกสารปลอม ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ออกตรวจมาถึงบริเวณ ทล.205 ระหว่าง กม.23-24 ต.โคกสำโรง อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี พบรถนั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง ยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำเงิน-ดำ กรุงเทพมหานคร ซึ่งทะเบียนรถยนต์ดังกล่าวตรงกับฐานข้อมูลที่ผู้เสียหายเคยแจ้งไว้ว่ามีรถต้องสงสัยสวมทะเบียนของตนไปกระทำความผิดจราจรตามท้องที่ต่างๆ

ชุดจับกุมจึงได้ให้สัญญาณหยุดรถ เพื่อขอตรวจสอบ จากการตรวจสอบทราบชื่อผู้ขับขี่ นายอนุสรณ์ฯ เมื่อได้ตรวจสอบป้ายทะเบียนทั้งด้านหน้าและหลังรถพบว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอมที่ทำเลียนแบบเหมือนป้ายทะเบียนจริง และได้ตรวจสอบป้ายภาษีรถที่ติดอยู่ที่กระจกหน้ารถก็พบว่าเป็นป้ายภาษีปลอมทำเลียนแบบขึ้นมาเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอตรวจสอบหลักฐานสำเนารถก็พบว่ามีการปลอมแปลงโดยตัดต่อข้อความเอาข้อมูลของรถคันอื่นมาใส่ และพบว่าสำเนาบัตรประชาชนที่ผู้ต้องหานำมาแสดงนั้นมีการตัดต่อเอาใบหน้าของบุคคลอื่นมาใส่ลงในสำเนาบัตร เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดก็พบว่าข้อมูลไม่ตรงกับฐานระบบข้อมูลทะเบียนราษฎร์

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้สอบถามนายอนุสรณ์ฯ รับว่าได้ซื้อรถยนต์คันดังกล่าวมาจากชายไทยไม่ทราบชื่อ โดยติดต่อซื้อขายผ่านทาง Facebook โดยซื้อมาในราคา 90,000 บาท และเดินทางไปรับรถที่จังหวัดแถวภาคอีสาน ก่อนที่จะนำรถยนต์คันดังกล่าวมาใช้งาน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ตรวจยึดรถยนต์คันดังกล่าวและแผ่นป้ายทะเบียน ป้ายภาษีและเอกสารต่างๆ ไว้เป็นของกลาง พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า “มีและใช้เอกสารราชการปลอม, ใช้รถที่ยังไม่ได้เสียภาษีประจำปีตามระยะเวลาที่กำหนด” จะต้องถูกจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.โคกสำโรง ภ.จว.ลพบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ถูกจับกุมให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

