“กัณวีร์” มอง บินเยี่ยมอุยกูร์ แค่แก้เกม ชี้พิรุธภาพหญิงมุสลิมกอด “ภูมิธรรม” เผยเตรียมจัดเต็มอภิปรายไม่ไว้วางใจ

92

ที่รัฐสภา วันที่ 20 มีนาคม 2568 นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงกรณีรัฐบาลไทยนำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมคณะ พาสื่อมวลชนเดินทางไปยังเมืองซินเจียง เพื่อดูชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์หลังส่งกลับจีน ว่า ตนเองไม่เห็นชอบตั้งแต่แรกในการผลักดันกลับ เพราะมีปัญหาความสมัครใจของผู้ลี้ภัย 40 ชีวิตที่รัฐบาลไม่สามารถยกหลักฐานมาชี้แจงได้ การส่งผู้บริหารระดับสูงตั้งแต่รองนายกฯ และ รมว.ยุติธรรมไปเยี่ยมเยียน จึงเหมือนการตบหัวแล้วไปลูบหลัง

นายกัณวีร์ กล่าวว่า ทุกฝ่ายทั้งประชาชน สื่อมวลชน และประชาคมระหว่างประเทศทราบดีแน่ ๆ ว่าการกลับไปเยี่ยมเยียนแบบนี้ เป็นรูปแบบอย่างไร ทั้งนี้ชาวอุยกูร์เป็นชาวมุสลิม แต่ภาพที่ผู้หญิงชาวอุยกูร์กอดแขนนายภูมิธรรมน่าตกใจพอสมควร ตอนที่ตนเองไปเจอ ผู้หญิงมุสลิมต้องใส่ฮิญาบ ดังนั้นภาพที่เกิดขึ้นจึงย้อนแย้งกับความเป็นจริง ถ้าบอกว่ามีการพัฒนาขึ้น แต่ชาวมุสลิมทั่วโลกคงบอกว่าสิ่งนี้ไม่ใช่การพัฒนาในเชิงศาสนา แต่เป็นการสร้างภาพหรือไม่ ดังนั้นมีอะไรหลายอย่างที่แสดงให้เห็นว่ามันไม่จริง การไปเยี่ยมต้องแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นใครอยู่ที่ไหน จากการเช็คข้อมูลสามารถบอกได้ว่าเป็น 2 ใน 40 คนที่เดินทางกลับไป แต่กลับแล้วเป็นอย่างไรยังเป็นที่น่าเคลือบแคลง

ต่อข้อถามว่าภาพที่ออกมาจะสามารถยืนยันได้ชัดเจนหรือไม่ว่าพวกเขาปลอดภัย นายกัณวีร์ กล่าวว่า ข้อกังขาในเวทีระหว่างประเทศ ไม่ใช่ว่าเขากลับไปแล้วอยู่ดีมีสุขหรือไม่ แต่คือความสมัครใจของพวกเขา  รัฐบาลควรนำหลักฐานออกมายืนยันว่าเขาสมัครใจ ทั้งกระบวนการการพูดคุยระหว่างสถานทูตจีนในประเทศไทย และ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) มีหลักฐานเป็นภาพนิ่ง หรือวิดีโอหรือไม่  ซึ่งคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ และคณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ ได้ถามขอภาพ CCTV แต่ สตม.บอกว่าไม่มีอัดไว้ทำให้ยังเป็นข้อกังขาใหญ่

เมื่อถามถึงคำสัมภาษณ์ของชาวอุยกูร์ ที่บอกว่าเต็มใจกลับจีน และเมื่อ 10 ปีที่แล้วมีการถูกชักจูงจากกลุ่มหัวรุนแรง รวมถึงไม่มีจดหมายที่เขียนออกมา นายกัณวีร์ กล่าวว่า การอ้างคน 2 คน แล้วเคลมว่าเป็นของบุคคลทั้งหมด 40 คนนั้นไม่ถูก เราเห็นเพียง 4 คนเท่านั้นจากรูปถ่าย และวิดีโอ เราไม่สามารถบอกได้ว่าอีก 30 กว่าคนไปไหน อยู่เมืองไหนต้องแสดงข้อเท็จจริง ขณะนี้มีเพียงข่าวสารที่ออกมาจากฝั่งเดียว ควรมีองค์กรกลางที่สามารถไปเยี่ยมชมได้เพื่อความน่าเชื่อถือ “ผมเสียดายนะ เสียดายในเรื่องภาษีพี่น้องประชาชนที่เอาบินไปประเทศจีน แล้วก็เอาไปหาข้อมูลจดหมายของผม 3 ฉบับ ว่าเป็นจดหมายฉบับจริงหรือไม่อันนี้เป็นสิ่งที่ผมว่ามันไม่ควร ภาษีพี่น้องประชาชนก็ตามไปต่อต้านข่าวกรองในเรื่องที่ผมมี ผมว่าพี่น้องสื่อมวลชนเองก็เหมือนกัน ก็โดนเลือกไปเหมือนกันว่าจะมีใครไปได้บ้าง และหลายคนไม่สามารถเดินทางไปได้ เพราะฉะนั้น อันนี้เป็นสิ่งที่ผมมองว่าไม่ตอบโจทย์”

ส่วนการเดินทางไปในครั้งนี้เพื่อแก้ต่างให้จีนหรือไม่ สส.พรรคเป็นธรรม กล่าวว่า เป็นการแก้เกม ตนเคยอยู่ในแวดวงของความมั่นคงก็รู้ว่า คิดอะไรทำอะไร และจะทำอะไรต่อไป ต่อข้อถามว่าแสดงว่าสื่อที่ถูกเลือกไปก็ถูกปิดปากนั้น ตนไม่ทราบว่าถูกปิดปากหรือไม่ แต่สิ่งที่เราเห็นคือการเบลอหน้าทุกคน มีเพียงเจ้าหน้าที่ไทยที่ไม่ต้องเบลอหน้า เหตุใดเราถึงไม่สามารถมองเห็นได้ ทั้งที่ผู้ลี้ภัยทุกคนปัจจุบันไม่ใช่เหยื่ออีกต่อไป ทุกคนต้องกลับไปคืนสู่สังคม เขาเป็นผู้ใหญ่ไม่ใช่เด็ก นี่เป็นสิ่งที่ยังค้างคาใจ

นายกัณวีร์ กล่าวอีกว่า ตอนแรกเตรียมประเด็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจไว้ 3 เรื่อง คือ เรื่องชายแดนใต้ ชายแดนไทยเมียนมา และเรื่องอุยกูร์ แต่ตอนนี้จะมุ่งเน้นอภิปรายเรื่องอุยกูร์อย่างเดียว 40 นาทีเต็ม จะนำหลักฐานทั้งหมดมาแสดงให้เห็นว่ามันมีข้อกังขาอะไรบ้าง กรณีการโต้ว่าจดหมายที่ออกมาเปิดเผยนั้นไม่มีอยู่จริงนั้น คนที่เขียนจดหมายก็ต้องเป็นคนที่รู้ภาษาอังกฤษ ดังนั้นเมื่อไปถามคนที่ไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ คงจะถามผิดคน”ถ้าบอกผมจดหมายผิดซอง เขาก็ถามผิดคน“ นายกัณวีร์ กล่าว

นายกัณวีร์ กล่าวถึงกรณีที่ผู้นำศาสนาบอกว่ารัฐบาลจีนดูแลเป็นอย่างดี ว่า อันนั้นก็เป็นข้อมูลจากฝั่งของเขา และที่ทางการจีนบอกว่าไม่ได้ปิดกั้นอะไรนั้นก็เป็นเรื่องภายในประเทศเขาซึ่งเราคงไม่ก้าวล่วง แต่สิ่งที่ไทยเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเช่นการส่งกลับต้องตอบคำถามให้ได้ เพราะเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน เรามีกฎหมายภายในประเทศและมีกฎหมายระหว่างประเทศที่เราให้สัตยาบัน แต่เราไม่ปฏิบัติตามจึงเป็นเรื่องผลกระทบ ส่วนเรื่องภายในประเทศของจีนก็เป็นเรื่องขององค์การระหว่างประเทศที่ต้องไปตรวจสอบอีกครั้งนึง

นายกัณวีร์ กล่าวถึงกรณีที่แฟนคลับพรรคการเมืองหนึ่ง ยื่นสอบจริยธรรม ว่า พร้อมรับการตรวจสอบเพราะขณะนี้เป็นผู้แทนประชาชน อยากให้ สส. พร้อมรับการตรวจสอบ เพราะเราก็ตรวจสอบคนอื่นเช่นเดียวกัน อย่างตนก็ตรวจสอบรัฐบาล ฝ่ายบริหาร เพราะฉะนั้นใครอยากตรวจสอบสิ่งที่ตนทำก็เชิญ