เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2568 ทีมข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านในโครงการหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2560 หลังจากซื้อบ้านมา ภายในโครงการมีปัญหาตั้งแต่เรื่องพื้นที่หน้าบ้าน และหลังบ้านทรุดตัว การเก็บค่าส่วนกลางเกินกว่าที่ยื่นคำขอกรมที่ดิน ไม่มีบัญชีรายรับ-รายจ่ายของโครงการ ฯลฯ จึงได้มีการรวมตัวกันสร้างกลุ่มไลน์เพื่อรวมตัวกันกว่า 100 หลังคาเรือน ในการเรียกร้องในโครงการออกมาแสดงความรับผิดชอบ โดยในวันนี้มีเจ้าหน้าที่จากกรมที่ดินเข้ามาเป็นตัวกลางในการเจรจาแต่ก็ไม่เป็นผล ก่อนเจ้าหน้าที่จะเดินทางกลับไป
น.ส.ชนัญชิดา ภักดิ์พลการ อายุ 33 ปี (เสื้อสีแดง) กล่าวว่า ตนซื้อบ้านหลังนี้ตั้งแต่มี.ค. 2561 ผ่านไป 3 เดือน บ้านเริ่มแตกทรุด โครงการแจ้งว่าสาเหตุเป็นเพราะตนต่อเติมบ้าน ทั้งที่ตนทำเรื่องขอต่อเติมกับทางโครงการและได้อนุญาตให้ต่อเติมเหมือนกันเกือบทุกหลัง ทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน แรกๆตนได้มีการติดต่อขอแจ้งซ่อม โครงการก็ส่งช่างมาแก้ไขไม่ตรงจุด ในครัวมีน้ำขังก็มาเจาะข้างบ้านระบายน้ำออกให้ ซึ่งตนมองว่ามันไม่ใช่ ตนเคยเรียกร้องไปจนไม่อยากเรียกร้องแล้ว ตอนนี้ตนพยายามแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง แต่กำแพงหลังบ้านยังทรุดตัวอยู่เรื่อยๆ แถมถนนหน้าบ้านก็ทรุดตัวจนเสารั้วบ้านร้าว ซึ่งบ้านของตนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา ทางโครงการก็มาขุดข้างบ้านเป็นโพรงโดยที่ไม่ได้แจ้ง ตนสอบถามสาเหตุกับทางโครงการก็ไม่มีคำตอบ แต่สังเกตุตามภาพจะเห็นได้ชัดเลยว่าคานแตกแล้ว ตนกังวลว่าบ้านจะทรุดตัวจากโพรงที่ช่างโครงการมาขุดไว้ จึงได้เดินทางไปแจ้งความที่สภ.บางแม่นาง เพื่อดำเนินการทางกฎหมาย ตนอยากให้โครงการออกมารับผิดชอบ สภาพจิตใจตอนนี้แย่มาก เพราะตนตั้งใจเก็บเงินมาซื้อบ้านหลังนี้เป็นหลังแรก ตนไว้ใจในโครงการนี้ ซื้อบ้านราคา 2 ล้านกว่า พอมาเจอแบบนี้รู้สึกเสียใจ หากมีการเยียวยาได้โครงการควรจะเยียวยาให้กับลูกบ้านทุกๆหลังด้วย
นายวุฒิ อายุ 35 ปี (เสื้อสีดำ) ลูกบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า หลังจากที่มีการพูดคุยกับทางโครงการ ปัจจุบันทุกปัญหาไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งถนนที่ชำรุด ขนาดของถนนที่ไม่ตรงกับที่จัดสรรไว้ แม้แต่การต่อเติมบ้านที่ต้องทำเรื่องและยื่นขออนุญาตนิติบุคคลของหมู่บ้าน แต่พอมีปัญหากลับบอกว่าไม่มีส่วนรู้เห็น หรือไม่ได้มีหน้าที่ในการอนุมัติให้ต่อเติม พวกตนต้องมาทนอยู่กับอะไรแบบนี้ตั้งหลายปี รู้สึกผิดหวังกับแบรนด์นี้มาก ตนซื้อเพราะแบรนด์จริงๆ หากบ้านไม่มีการต่อเติมในครัวจะอยู่กันยังไง ตนต้องซ่อมแซมมาหลายรอบมากๆ จะให้นอนอยู่เฉยๆมองดูผนังบ้านแตกได้อย่างไร
นายศุภโชค ยาเจริญ อายุ 53 ปี (เสื้อเชิ๊ตสีขาว) ลูกบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า ตนซื้อบ้านที่นี่ตั้งแต่ปี 60 มีการต่อเติมบ้านโดยจะต้องมาทำเรื่องขออนุญาตกับทางนิติบุคคล ซึ่งมีการแนะนำว่าสามารถต่อเติมอย่างไร ทำอะไรได้บ้าง ตอนนี้ที่บ้านตนมีปัญหาพบรอยร้าวภายในตัวบ้าน แต่ปัญหาที่สำคัญกว่านั้นคือการเก็บค่าส่วนกลาง ทางโครงการยื่นคำขอจัดสรรที่กรมที่ดิน 35 บาท ต่อตารางวา แต่มาเก็บกับลูกบ้าน 50 บาท ต่อตารางวา เริ่มเก็บมาตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา ซึ่งลูกบ้านได้สอบถามถึงส่วนต่างที่เกินมาจำนวน 15 บาท แต่ยังไม่มีคำชี้แจงใดๆ ไม่มีบัญชีรายรับ-รายจ่าย ไม่รู้ว่านำเงินไปทำอะไรบ้าง ก่อนหน้านั้นก็มีปัญหาเรื่องของกองขยะ ลูกบ้านต้องทนอยู่กับปัญหาที่เกิดขึ้น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ได้มีการประชุม 2-3 ครั้ง กับทางกลุ่มผู้บริหารโครงการ แต่ก็ยังไม่มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น วันนี้มีการแจ้งไปยังกรมที่ดินให้เข้ามาตรวจโครงการ ก็มีการปะทะคารมณ์กัน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้แจ้งให้เข้ามาตรวจแล้ว แต่โครงการยังไม่มีการแก้ไข ทำให้ลูกบ้านไม่พอใจ ลูกบ้านที่กำลังเดือดร้อนมีจำนวนเยอะมาก หลักร้อยคน ตอนนี้รวมตัวกันเพื่อจะจ้างทนายเพราะทุกคนตั้งใจซื้อบ้านและจ่ายค่าส่วนกลาง แต่เมื่อไม่ได้ไม่มีบัญชีรายรับ-รายจ่าย ทำให้กลุ่มลูกบ้านทุกๆคนรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
นายโกวิทย์ เรืองอ่อน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 11 ต.บางแม่นาง กล่าวว่า ตนได้เข้ามาร่วมประชุมกับลูกบ้านในโครงการเพื่อสังเกตุการณ์ ประมาณ 3-4 ครั้ง เนื่องจากลูกบ้านภายในโครงการแห่งนี้ได้รับความเดือดร้อนในการส่งมอบโครงการเพื่อจัดตั้งนิติบุคคล ซึ่งได้มีการติดตามทวงถามอยู่มานานหลายปี ทางโครงการติดปัญหาหลายอย่าง ทั้งการตรวจซ่อมและปรับปรุงโครงการ ทำให้ลูกบ้านปฏิเสธการส่งมอบ โดยทางโครงการก็ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนถึงการแก้ไขปัญหา ตนคิดว่าทางโครงการควรที่จะปรับปรุงแก้ไขปัญหาต่างๆให้ลูกบ้านพอรับได้ก่อน โดยทางโครงการมีปัญหาอยู่หลายเรื่อง ทั้งการเก็บค่าส่วนกลางเกิน การไม่แจกแจงงบใช้จ่ายในแต่ละปี ฯลฯ วันนี้ทางลูกบ้านเลยรวมกลุ่มกันเข้ามาทวงถามเพื่อต้องการความชัดเจน
นอกจากนี้ลูกบ้านในโครงการดังกล่าว ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ทางโครงการรับรู้ปัญหาตั้งแต่แรกว่าบ้านเส้นนี้เป็นโพรงทั้งแถบ แต่ไม่รู้ว่ามีการแก้ไขอย่างไร แปลกใจที่ดันทุรังขายบ้าน พอมีคนเข้ามาอยู่จริงๆก็เกิดปัญหาบ้านทรุดตัวหนัก อ้างว่าเป็นเพราะต่อเติมบ้าน แต่เท่าที่สังเกตบางหลังขายไม่ได้ก็ยังทรุดตัว ซึ่งทางโครงการปล่อยปัญหาแบบนี้มาหลายปี ปัจจุบันลูกบ้านในโครงการตั้งไลน์กลุ่มรวมตัวกันกว่า 100 หลังคาเรือน เรียกร้องให้โครงการออกมารับผิดชอบ ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาแต่ยังหาข้อสรุปไม่ได้
เบื้องต้น ทีมข่าวพยายามติดต่อสอบถามถึงสาเหตุของปัญหา และคำชี้แจงจากทางโครงการหมู่บ้านดังกล่าว แต่หนึ่งในทีมบริหารโครงการอ้างว่าไม่สะดวกให้ข้อมูล ตอบเพียงสั้นๆว่า “หากจะทำข่าวก็ขอให้ทำตามข้อเท็จจริง”
หมายเหตุ : เบลอหน้าเสื้อสีน้ำเงิน-ผู้ชายใส่แว่น เจ้าหน้าที่โครงการหมู่บ้าน / เบลอชื่อโครงการและเอกสารโครงการ