ที่จ.นราธิวาส วันที่ 10 มี.ค. นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ได้เดินทางไปยังวัดชลเฉลิมเขต อ.สุไหงโก-ลก เพื่อเคารพศพ อส.ทศพล ผายพิมพ์ เจ้าหน้าที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน ที่เสียชีวิตจากเหตุลอบวางระเบิดและการยิงปะทะที่ ที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา และได้ให้กำลังใจ แม่และแม่ภรรยาของ อส.ทศพล ซึ่งต่อไปต้องเลี้ยงดูลูกของ อส.ทศพล ทั้ง 4 คน เนื่องจากภรรยา อส.ทศพล เสียชีวิตจากเหตุอุบัติเหตุรถยนต์เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งทั้งคู่อยากเห็นหลานๆ ทุกคนได้เรียนหนังสือจนจบปริญญาตรีในอนาคต
“คนเราเลือกตายไม่ได้ แต่ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เป็นสิ่งที่คุณยายบอกผมว่า อส.ทศพลฯ ได้พูดเสมอตั้งแต่รับราชการเป็นทหารพรานและมาเป็น อส.ที่ อ.สุไหงโก-ลก”
โดยนายกัณวีร์ ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัว หมู่ใหญ่มูฮำหมัดซาบรี นะสะวัน ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย รวมถึง อส.ที่ได้รับบาดเจ็บอีก 9 นาย และประชาชน 4 ราย ด้วย

นอกจากนี้นายกัณวีร์ ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก ได้ดูสภาพที่เกิดเหตุและพูดคุยให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ อส.ทุกนาย โดยกล่าวว่าเหตุการณ์การโจมตีที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ถือเป็นเหตุการณ์อุกฉกรรจ์ในรอบหลายสิบปีในพื้นที่ ที่ผู้ก่อเหตุใช้ทั้งการยิงปะทะ ไปป์บอมบ์ และคาร์บอมบ์ จึงต้องให้กำลังใจญาติผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับผลกระทบและผู้ปฏิบัติหน้าที่ อส.ที่เกิดเหตุในที่ว่าการอำเภอ การใช้ความรุนแรงไม่ควรเกิด ภาครัฐต้องวางมาตรการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน ต้องเรียกร้องการพูดคุยสันติภาพต้องรีบเกิด เราเห็นแล้วในช่วงเดือนรอมฏอน ยังเกิดเหตุ จึงต้องเรียกร้องการพูดคุยให้เกิดขึ้นโดยเร็ว
“ผมเห็นว่าสถานการณ์เกิดขึ้นในหลายจังหวัด ญาติผู้เสียชีวิตได้รับผลกระทบ ยะลามีการยิงอส.เสียชีวิต เกิดเหตุทั้งสามจังหวัด ถือเป็นปฏิกิริยาที่เร่งหาทางในการหยุดชะงักของการพูดคุยเพื่อสันติภาพ จึงต้องเชื่อมั่นการพูดคุย และ ต้องถามประชาชนในพื้นที่ด้วยว่า มีความหวังอะไร รวมถึงการนำกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศมาผลักดันสันติภาพ และสิ่งสำคัญคือการสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน” สส.พรรคเป็นธรรมกล่าว

ทั้งนี้เขายังได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ อส.ทุกคน ยังมีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่เต็มร้อย และไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะกระทบกับประชาชนและเศรษฐกิจ
นายกัณวีร์ กล่าวย้ำว่า ตนมีจุดยืนชัดเจนที่ขอประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ เพราะเราไม่สามารถสร้างสันติภาพจากปลายกระบอกปืน ต้องใช้หลักการสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรม และมองที่รากเหง้าปัญหา คือการกดทับในสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน ไม่สามารถแก้ไขปัญหา “ผมไม่เคยเห็นในสงคราม หรือสันติภาพใดๆที่จะเกิดขึ้นด้วยปลายกระบอกปืน เราต้องหันหน้ามาพูดคุยกัน ถ้าไม่สามารถหาทิศทางแก้ปัญหาร่วมกัน และเน้นย้ำการมีส่วนร่วมของประชาชน สันติภาพจะไม่เกิด ถ้าประชาชนไม่เชื่อถือการสร้างสันติภาพแล้ว ถ้ากลไกดีขนาดไหนก็ไม่เกิด”

สส.พรรคเป็นธรรม ยังได้เดินทางไปที่ บ้านฮูแตกอแล ม.3 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ที่เกิดเหตุระเบิดคืนวันที่ 8 มี.ค ทำให้ร้านค้าของชาวบ้านได้รับความเสียหาย และมีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 3 ราย คือ อาสาสมัครทหารพราน สมัย บุญยงค์ นายอาดิศร ดอเลาะ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ และนายมะรอลี มะยะเด็ง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง ม.3 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี โดยเขาได้เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญเสียซึ่งต่างมีลูกที่ต้องเป็นเด็กกำพร้า โดยเขากล่าวว่า ทางครอบครัวอยากจะให้รัฐช่วยเยียวยาให้ลูกได้เรียนหนังสือส่วนภรรยาของผู้เสียชีวิตก็อยากจะมีอาชีพที่สามารถหาเงินเลี้ยงดูแลครอบครัวได้และไม่อยากให้เหตุความรุนแรงเหล่านี้เกิดขึ้นอีกอยากให้มีการหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาสร้างสันติภาพที่ยังยืน

