“ทนายผู้กำกับโจ้ ” แจงผลชันสูตรรอบ 2 ยังไม่ออก รอผลตรวจเลือด-ชิ้นเนื้อ พร้อมรวบรวมข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้ง คาดใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ชัดเจน เผยเห็นแล้วเอกสารชี้แจงจากกรมราชทัณฑ์และคำสั่งย้ายผู้คุม มองคงทำตามกระบวนการ ส่วนวันก่อนเกิดเหตุมีเพียงแฟนสาวและเพื่อนตำรวจเข้าเยี่ยม
นายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ เปิดเผยภายหลังเข้าฟังผลการชันสูตรพลิกศพ ว่า ขณะนี้ผลชันสูตรเบื้องต้นยังไม่ออกและยังไม่สามารถตอบได้ เพราะทางสถาบันยังต้องส่งเลือดและชิ้นเนื้อไปตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน และจะทำรายงานแจ้งไปยังพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนที่ สน.ประชาชื่น ซึ่งยังอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล
ส่วนจะมีความคล้ายคลึงกับผลชันสูตรจากที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม จ.ปทุมธานีหรือไม่นั้น ย้ำว่าทางนิติเวชฯ ต้องทำรายงานและจะส่งข้อมูลทั้งหมดให้กับพนักงานสอบสวนก่อน ยังพูดอะไรไม่ได้ โดยวันนี้ทางครอบครัวมาฟังข้อมูลเพิ่มเติม และแพทย์ก็ได้อธิบายว่าจะมีการตรวจอย่างไร รวมถึงก่อนหน้านี้มีการตรวจอย่างไรมาแล้วบ้าง ซึ่งทางแพทย์ก็จะดูรายละเอียดหลังจากนี้ให้ต่อ เบื้องต้นครอบครัว ก็ไม่ได้เน้นย้ำอะไร คาดว่าจะต้องใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ถึงจะทราบผล โดยทางครอบครัวจะเก็บร่างของอดีตผู้กำกับโจ้เอาไว้ก่อน หากมีรายงานออกมาแล้วว่ามีอะไรบ่งชี้หรือน่าสงสัย ก็จะสอบถามอีกครั้ง โดยจะส่งร่างไปชันสูตรที่ไหนแล้ว
ส่วนประเด็นที่ทางกรมราชทัณฑ์ออกเอกสารชี้แจงเมื่อช่วงค่ำวานนี้ ทางครอบครัวและตัวเองเห็นแล้ว แต่ยังไม่ได้อ่านรายละเอียด
เมื่อถามว่าผู้กำกับโจ้ป่วยจิตเวชตามที่กรมราชทัณฑ์ออกเอกสารชี้แจงมาหรือไม่นั้น นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า ญาติก็ยังเข้าไปเยี่ยมและพูดคุยกันตลอดด้วยดี โดยในช่วงวันเกิดเหตุมีเพียงแฟนสาวและเพื่อนที่เป็นตำรวจเข้าไปพูดคุยกับอดีตผู้กำกับโจ้เท่านั้น แต่ไม่ทราบรายละเอียดว่าไปคุยเรื่องอะไรกัน หรือมีเรื่องอะไรที่สะกิดใจอดีตผู้กำกับโจ้หรือไม่ เพราะตัวเองไม่ได้เข้าไปด้วย ส่วนตัวได้พูดคุยกับอดีตผู้กำกับโจ้เพียงแค่เรื่องคดีที่จะเดินหน้าต่อ ซึ่งเจ้าตัวก็มีสติสัมปชัญญะครบถ้วน และยังพูดคุยกันเรื่องว่าจะให้อุทธรณ์ต่อ ส่วนเรื่องทรัพย์สิน ยืนยันว่าไม่มีการพูดคุยกัน จะเน้นเป็นเรื่องคดีทั้งหมด
เมื่อถามถึงเรื่องที่อดีตผู้กำกับโจ้ มีพฤติกรรมเอากล้องของทางเรือนจำไปใช้ถ่ายภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงเรื่องที่อดีตผู้กำกับโจ้ไม่ประสงค์จะให้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงตามคำร้องเรียน จึงขอยุติเรื่อง พร้อมลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งไม่ได้เกิดจากการบังคับ ทางทนายหรือครอบครัวทราบหรือไม่นั้น นายวีรศักดิ์ ตอบว่า “เรื่องนี้ก็ต้องถามทางญาติ พร้อมยืนยันว่าผู้กำกับโจ้ถูกย้ายไปขังเดี่ยวจริง แต่เรื่องอะไรก็ไม่แน่ใจ” ส่วนประเด็นที่ผู้คุมคู่กรณีถูกย้ายออกมาจากแดนแล้วนั้นไม่สามารถให้ความเห็นอะไรได้มาก เพราะคิดว่าทางเรือนจำเขาก็คงทำตามกระบวนการให้ดีที่สุด

