ที่รัฐสภา วันที่ 7 มี.ค.68 นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวถึงกรณีที่ทางการจีนนำเครื่องบินมารับคนจีนจากแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ในเมืองเมียวดี ตั้งแต่รอบแรกเมื่อต้นเดือนก.พ.68 จำนวน 621 คน กับรอบสอง จำนวน 1,439 คน จากทั้งหมดที่มีรายชื่อเฉพาะในการดูแลของกองกำลังรักษาชายแดน (BGF) นำโดย พ.ต. หม่อง ชิตตู รวมกว่า 5,500 คน โดยก่อนหน้านี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เคยออกมาเสียงแข็งใส่ตนว่าคนจีนก็ต้องเข้ากลไกการส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanism – NRM) โดยอ้างว่าทำในเมียนมา พอส่งมาไทย ก็มีการทำบันทึกอัตลักษณ์แล้วขึ้น Blacklist ห้ามเข้าประเทศ แล้วก็ปล่อยขึ้นเครื่องไป เพราะไทยเราเลือกจะใช้วิธีปฏิเสธการเข้าเมือง แล้วผลักดันกลับประเทศต้นทาง เมื่อไปถึงจีน คนเหล่านั้นถูกใส่กุญแจมือกลายเป็นผู้ต้องหาในอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ ส่วนไทยเหมือนปล่อยตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปเฉยๆ

นายกัณวีร์ กล่าวว่ากระบวนการในการส่งตัวคนจีนในที่สุดแล้วก็แตกต่างจากชาวต่างชาติอื่นๆ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศแถลงข่าวว่าขั้นตอนสำหรับชาวต่างชาติอื่นที่ไม่ใช่จีน ซึ่งน่าจะมีกว่า 30 ประเทศ จะต้องส่งเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการที่จะรับคนจากฝั่งเมียวดี ผ่านสะพาน 2 ที่แม่สอด แล้ว ชาวต่างชาติอื่นจะต้องผ่าน 4 กระบวนการ ประกอบด้วย การคัดกรองโรค, กระบวนการ NRM แบบเร่งรัด, กระบวนการตรวจคนเข้าเมือง และการสแกนสัมภาระตามพิธีศุลกากรของฝ่ายไทย โดยการดำเนินการทั้งหมดจะต้องเสร็จสิ้นภายใน 1 วัน แล้วจากนั้นจะเอารถยนต์มารับไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินแม่สอด หรือจะไปยังสนามบินดอนเมือง หรือสุวรรณภูมิ แล้วแต่ละประเทศจะดำเนินการ

“แค่นี้ก็เห็นความต่างชัดว่าทำไมชาวจีนไม่ผ่าน NRM แบบชาติอื่นๆ แม้จะทำอย่างเร่งรัด แต่ขั้นตอนมันต่างกัน จะมาอ้างว่าคนจีนทำ NRM ในฝั่งเมียนมา แล้วมันทำได้เหรอครับ ถามจริง ทำตอนไหน ทำกี่โมง เพราะเท่าที่ตรวจสอบในฝั่งเมียวดี การบันทึกประวัติทำโดยตำรวจเมียนมา แต่กลไกการตรวจสอบอาชญากรข้ามชาติ ที่มันหลอกลวงคนไทย มันต้องทำมากกว่านี้ไหม”
นายกัณวีร์ กล่าวว่าไม่นับกระบวนการที่ล่าช้า นี่ชาวเอธิโอเปีย 138 คน ที่ออกมาจากบ้านช่องแคบพื้นที่อิทธิพลของกองกำลังกระเหรี่ยงพุทธ หรือ DKBA ตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ.ยังอยู่บ้านพักที่ อ.เมือง จ.ตาก มาจะ 1 เดือนแล้ว และยังมีทั้งในฝั่ง DKBA และ BGF ถ้ารวมประเทศในแอฟริกา ก็จะมีอีกว่า 1,500 คน จากขั้นตอนว่าไทยจะจัดให้กลับวันละ 300 คน ตั้งแต่วันจันทร์-อังคาร เป็นชาติอื่น ส่วนวันพุธ-ศุกร์ จะเป็นคนจีน ถ้าเป็นอย่างนี้คนจีนจะส่งได้อีก 4 อาทิตย์ หรือ 1 เดือน ส่วนชาติอื่น นับวันและจำนวน กว่า 2,000 คน อาทิตย์ละ 2 วัน 600 คน คงต้องใช้เวลา อีกไม่ต่ำกว่า 1 เดือนเช่นเดียวกัน

“ระหว่างนี้พวกเขายังอยู่ในการดูแลของ DKBA และ BGF ซึ่งแน่นอนว่าการที่กองกำลังชาติพันธุ์ ปล่อยให้อาชญกรคอลเซ็นเตอร์มาใช้พื้นที่ตัวเองก่ออาชญากรรมระดับโลกแบบนี้ ก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบ” นายกัณวีร์ กล่าวและว่า ประเทศไทยที่มีส่วนเกี่ยวข้องปล่อยให้คนนับแสนคนข้ามแดนไปก่ออาชญากรรม จะไม่รับผิดชอบอะไรเลยเหรอ อย่านับแต่เรื่องการปราบปรามอาชญากรรมที่ปล่อยให้อาชญากรคนจีนลอยนวลแล้ว ยังไร้ซึ่งมนุษยธรรม ไม่จริงใจ ทำงานล่าช้า ซึ่งหากคนเหล่านั้นหนีข้ามแดนเข้ามาฝั่งไทย จะรับมือกันไม่ไหว

