กรุงเทพฯ วันที่ 5 มี.ค. นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการรับนโยบายของรัฐบาลในการเสริมพลังสร้างสรรค์พัฒนาคนให้มีศักยภาพ ทักษะสูงที่พร้อมรับต่อการขับเคลื่อนงานด้านศาสนา วัฒนธรรมเพื่อสังคมยั่งยืน กรมการศาสนา โดยกองทุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ได้จัดโครงการส่งเสริมพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนไปประกอบศาสนกิจ ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ประเทศอินเดีย-เนปาล ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยคัดเลือกพระสงฆ์ ผู้บริหารกระทรวง กรรมการบริหารเงินทุนหมุนเวียน กองทุนส่งเสริมการเผยแผ่ฯ และเครือข่ายทางศาสนาที่บำเพ็ญประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา เดินทางไปประกอบศาสนกิจ ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ประเทศอินเดีย-เนปาล

โดยสังเวชนียสถาน 4 ตำบล ได้แก่ สถานที่ประสูติ ณ สวนลุมพินี เมืองกบิลพัสดุ์ รัฐลุมพินี สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล สถานที่ตรัสรู้ ณ บริเวณต้นพระศรีมหาโพธิ์ ตำบล อุรุเวลาเสนานิคม ปัจจุบันเรียกว่า “พุทธคยา” เมืองคยา รัฐพิหาร สาธารณรัฐอินเดีย สถานที่แสดงปฐมเทศนา “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ปัจจุบันเรียกว่า “สารนาถ” เมืองพาราณสี รัฐอุตตรประเทศสาธารณรัฐอินเดีย สถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพาน ณ สาลวโนทยาน เมืองกุสินารา ปัจจุบันเรียกว่า “กุสินาคาร์” เมืองกาเซีย รัฐอุตตรประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย เพื่อส่งเสริมให้พระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนให้เข้าถึงหลักธรรมในต้นกำเนิดพระพุทธศาสนา ได้รับประสบการณ์ตรงจากการศึกษาสถานที่สำคัญๆ ที่เกี่ยวข้องกับพุทธประวัติ ทำให้เกิดความซาบซึ้งและพัฒนาต่อยอดงานด้านศาสนา นำความรู้และประสบการณ์ไปถ่ายทอดสู่เยาวชนและประชาชน ทั้งในด้านการเรียนการสอนและด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างมีประสิทธิภาพ

โครงการดังกล่าวแบ่งเป็น 3 รุ่น รวมทั้งสิ้น 200 รูป/คน โดยรุ่นที่ ๑ เดินทางระหว่างวันที่ ๑๑ – ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๘ จำนวน ๖๘ รูป/คน รุ่นที่ ๒ เดินทางระหว่างวันที่ 14 – ๒1 มีนาคม ๒๕๖๘ จำนวน ๖๖ รูป/คน และรุ่นที่ ๓ เดินทางระหว่างวันที่ ๒๐ – ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๘ จำนวน ๖๖ รูป/คน
รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า กองทุนส่งเสริมการเผยแผ่ฯ ได้สนับสนุนการดำเนินการของศูนย์อำนวยความสะดวกผู้เดินทางไปประกอบศาสนกิจ ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ประเทศอินเดีย-เนปาล จำนวน 9 แห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกและให้ข้อมูลการเดินทางที่ถูกต้องแก่คณะพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนได้ปฏิบัติศาสนกิจตามหลักศาสนา โดยมีขยายผลความร่วมมือส่งเสริมศูนย์อำนวยความสะดวกที่มีศักยภาพและความพร้อมในการให้บริการคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนที่เดินทางไปปฏิบัติศาสนกิจ ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล เพิ่มเติม ประกอบด้วย วัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล 1 แห่ง และประเทศอินเดีย อีก 8 แห่ง ได้แก่ วัดไทย กุสินาราเฉลิมราชย์ วัดไทยพุทธคยา วัดสิทธารถราชมณเฑียร วัดไทยสารนาถ วัดไทยเชตะวันมหาวิหาร วัดไทยนวราชรัตนาราม วัดไทยนวมินทร์ธัมมิกราช และวัดไทยพระรามอโยธยา

สำหรับพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนที่เป็นเป้าหมายในการร่วมเดินทางจาริกแสวงบุญในครั้งนี้ เป็นเครือข่ายที่ปฏิบัติงานในโครงการต่าง ๆ ของกรมการศาสนา อาทิ พระธรรมวิทยากร พระสงฆ์ที่ปฏิบัติงานในศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ผู้ทรงคุณวุฒิ วัฒนธรรมจังหวัด และผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา เมื่อได้ศึกษาเรียนรู้ สัมผัสกับบรรยากาศที่เป็นจริงในแดนพุทธภูมิแล้ว จะทำให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธามากยิ่งขึ้น พระสงฆ์จะได้นำหลักธรรมมาถ่ายทอด อบรม และพัฒนาประชาชนให้มีคุณธรรมจริยธรรม เป็นพลังในการอุทิศตนในการเผยแผ่พระพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น ส่วนพุทธศาสนิกชนที่ไปจะได้น้อมนำหลักธรรมคำสอนไปประพฤติปฏิบัติในวิถีชีวิต ทั้งนี้ยังเป็นการสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่ง “ส่งเสริมสถาบันศาสนาให้มีบทบาท ในการเผยแผ่หลักคำสอนที่ดีงาม ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และเสริมสร้างความร่วมมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิต จิตใจ และพัฒนาสังคมให้มีความสามัคคี ปรองดอง