“หัวหน้าเท้ง” ชี้ จัดการน้ำพิจิตรมีปัญหา ชาวนาขอแบ่งเขตชลประทานใหม่-เพิ่มอ่างเก็บน้ำ

432

จังหวัดพิจิตร วันที่ 2 มี.ค. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์ข้อความในบัญชีเฟซบุ๊ก ถึงกิจกรรม “ผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชน” ที่ จ.พิจิตร เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า ได้เดินทางไปเพื่อรับฟังปัญหาต่างๆ พบว่าปัญหาที่สำคัญคือความแห้งแล้งซึ่งกระทบต่อการทำเกษตรของประชาชนในพื้นที่ โดยเวทีแรกที่ได้รับฟังปัญหา คือที่วัดสระบอระเพ็ด อำเภอวชิรบารมี ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา ต้องเผชิญปัญหาทั้งราคาข้าวตกต่ำ แต่ต้นทุนการผลิตสูง เกษตรกรขาดเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี หน่วยงานรัฐยังขาดการวิจัยพันธุ์ข้าวในพื้นที่ที่จะช่วยให้สามารถแข่งขันกับภูมิภาคได้ และการจัดการน้ำที่ยังไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อการทำเกษตรในพื้นที่ โดยช่วงหน้าแล้งน้ำถูกกันไว้ใช้ในพื้นที่อื่นทำให้พื้นที่ตรงนี้แห้งแล้ง ไม่เพียงพอต่อการทำเกษตร แต่เมื่อเป็นช่วงน้ำหลาก น้ำก็ถูกปล่อยเข้าพื้นที่จนพืชผลได้รับความเสียหาย

“การบริหารจัดการน้ำที่มีปัญหาเกิดจากการแบ่งเขตชลประทานที่ไม่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่จริง ประชาชนในพื้นที่จึงต้องการให้มีการถ่ายโอนเขตชลประทานของตนเองใหม่ เพื่อให้มีการบริหารจัดการน้ำที่สะดวกมากยิ่งขึ้น พรรคประชาชนเข้าใจปัญหา และความต้องการของพี่น้องประชาชน ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาทีมงานพรรคประชาชนจังหวัดพิจิตร ได้ช่วยประสานกับสำนักงานชลประทานที่ 4 ในการจัดสรรน้ำมาสำหรับการทำนาไปแล้ว” ผู้นำฝ่ายค้านระบุ

ส่วนข้อเสนอของพรรคประชาชน ในระยะสั้นพรรคประชาชนจะเสนอให้มีการทำข้อตกลงระหว่างสำนักงานเขตชลประทานในการจัดสรรน้ำเพิ่มเติม 100 ล้านลูกบาศก์เมตร จากที่ส่งเข้ามาในคลองท่อทองแดง 550 ล้านลูกบาศก์เมตร (จากปริมาณน้ำใช้การได้ 4,000 ล้านลูกบาศก์เมตร)

นายณัฐพงษ์ โพสต์ว่า ในระยะต่อไป จะเสนอให้มีการทำอ่างเก็บน้ำ เพื่อเก็บน้ำที่ผันเข้ามาในทุ่งบางระกำตอนช่วงน้ำหลาก และสามารถส่งมาให้พื้นที่ทำนาในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของจังหวัดพิจิตร โดยข้อเสนอเหล่านี้จะส่งต่อไปยังคณะกรรมาธิการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่มี สส.จากพรรคประชาชน ทำงานอยู่เพื่อผลักดันต่อไป