รัฐสภา วันที่ 27 ก.พ. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตอบกระทู้ถามสด ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งถามโดย นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี กรณีการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของรัฐบาล โดยระบุว่า ปัญหาคอลเซ็นเตอร์แพร่หลายทุกที่ในประเทศ รวมถึงทั่วโลก ซึ่งได้เร่งสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการแก้ไขปัญหา พร้อมร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ใช้รัฐบาลกับรัฐบาล เพื่อหาทางออกร่วมกัน ที่ผ่านมาได้ตั้งศูนย์ AOC 1441 บูรณาการการดำเนินงาน รับแจ้งเหตุ ตรวจสอบ ระงับบัญชี ปัจจุบันสามารถระงับบัญชีม้าได้แล้วกว่า 1.92 ล้านบัญชี
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า รัฐบาลสั่งเพิ่มมาตรการเปิดบัญชีธนาคาร ให้คุมเข้มบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง พร้อมยกร่าง พ.ร.ก.ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพิ่มอำนาจหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดความผิดผู้ที่นำข้อมูลประชาชนไปขาย และกำหนดให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์ สถาบันการเงินร่วมรับผิดชอบต่อความเสียหายด้วย
นอกจากนี้ยังสั่งคุมเข้มพื้นที่ชายแดน การค้ามนุษย์ ทำลายแหล่งส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่ผิดกฎหมาย ประสานหน่วยงานต่างประเทศเพื่อบูรณาการแก้ปัญหาร่วมกัน ซึ่งมีระบบไตรภาคี ไทย-จีน-เมียนมา สั่งตัดไฟ – หยุดส่งน้ำมัน เห็นผลลัพธ์ชัดเจน มีการใช้ไฟ-ก่อสร้างลดลง พร้อมได้รับรายงานว่ากลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติปิดตัว/ลดขนาดลง รวมทั้งพบการลักลอบนำน้ำมันเข้าประเทศ โดยเจ้าหน้าที่ไทยจับกุม 17 ครั้ง รวม 8,000 ลิตร

และเมื่อมีการจับกุมตัวก็มีการคัดกรองผู้ต้องสงสัย พร้อมส่งตัวไปดำเนินการทางกฎหมาย เก็บข้อมูลเพื่อติตตามเฝ้าระวังต่อไป ทั้งนี้ วันพรุ่งนี้ (28) ตนจะลงพื้นที่จ.สระแก้ว เพื่อติดตามข้อสั่งการต่าง ๆ อาทิ ลดเสาส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ต ปราบปรามซิมบ็อกซ์ จัดระเบียบผู้ซื้อผู้ให้บริการไลน์เซ่นส์โทรคมนาคม มั่นใจหากได้รับความร่วมมืออย่างบูรณาการ จะทำให้ปัญหาหมดไปแน่นอน ส่วนประเด็นผู้มีอิทธิพลเบื้องหลัง ขอให้คำมั่นกับสภาฯ ว่าจะจัดการเรื่องนี้จริงจัง และขอให้มั่นใจ ไม่ว่าใคร ถ้าทำผิดเรื่องดังกล่าว ทำให้คนไทยเดือดร้อน จะจัดการอย่างเด็ดขาด
“ดิฉัน เป็น นายกฯของคนไทย ต้องดูแลคนไทยก่อน นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด เรื่อง คอลเซ็นเตอร์และยาเสพติด ไม่จบ ไม่เลิก แน่นอน” นายกฯ กล่าวย้ำ