“อัครเดช” ถามนายกฯ แนวทางปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แนะรัฐบาลไม่ควรปิดชายแดน เกรงกระทบชาวบ้าน ให้เร่งจัดการผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังดีกว่า

490

รัฐสภา วันที่ 27 กุมภาพันธ์ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ตั้งกะทู้ถามสดด้วยวาจาต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประเด็นปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ว่า เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ตนพร้อมคณะนักศึกษา วปอ. 67 ได้มีโอกาสสำรวจพื้นที่ในจังหวัดตาก เพื่อดูสภาพปัญหาภัยความมั่นคง คืออาชญากรรมข้ามชาติ หรือ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีเหล่าสแกมเมอร์หลอกลวงเอาทรัพย์สินเงินทองของคนไทยไปมากมายมหาศาล โดยพื้นที่ตรงข้ามอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เป็นพื้นที่ที่เรียกว่าไชน่า วิลล์ (China Village) หรือวังแก้ว เป็นพื้นที่ที่มีกลุ่ม BGF ดูแล โดยเป็นพื้นที่ประมาณ 5,000 ไร่ ปัจจุบันนี้สร้างเป็น Complex โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2560 ใช้เวลาการก่อสร้างเพียง 8 ปี ต้องนับว่าเป็นพื้นที่ที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็วมาก โดยเป็นพื้นที่เช่า 50 ปี ระหว่างกลุ่ม BGF กับกลุ่มทุน โดยปัจจุบันนี้พื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งรวมตัวของอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งหลายทั้งสแกมเมอร์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ และค้ายาเสพติด

ซึ่งจากการลงพื้นที่ คณะนักศึกษา วปอ. มีข้อเสนอแนะว่าจะต้องมีการร่วมมือกับรัฐในพื้นฝั่งตรงข้ามแม่สอดเพื่อบูรณาการการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และก่อนหน้านี้ทราบว่านายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปเยือนประเทศจีนและได้มีการหารือกับประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ของสาธารณรัฐประชาชนจีนถึงปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นที่นายกรัฐมนตรีต้องการจะแก้ไขปัญหานี้อย่างเด็ดขาดให้แก่ประชาชน จึงอยากถามว่ารัฐบาลได้ดำเนินการแก้ไขปัญหานี้อย่างไรแล้วบ้าง

ด้าน น.ส.แพทองธาร ตอบกระทู้ดังกล่าวว่า ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบอย่างเป็นวงกว้างในประเทศไทย และไม่ใช่เพียงในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพื้นที่อื่น ๆ ทั่วโลกอีกด้วย โดยรัฐบาลได้มีการบูรณาการหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ได้แก่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงาน กสทช. ปปง. กรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก่พี่น้องประชาชน

นายอัครเดช กล่าวว่า  สำหรับปัญหาซิมม้ายังมีความหละหลวม เช่น การใช้ชื่อปลอมในการเปิดซิมส์ ขณะที่บัญชีม้า เรามีบัญชีมากกว่า 2.5 ล้านบัญชีที่มีเงินฝากเกิน 500,000 บาท ส่วนนี้เสนอให้รัฐบาลมีมาตรการดูแลในการจำกัดความเสียหาย อย่างไรก็ตามขอชื่นชมที่รัฐบาลได้ใช้ความเด็ดขาดในการตัดน้ำ ตัดไฟ ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตบริเวณชายแดนไทย – เมียนมา รวมถึงระงับการส่งน้ำมันเชื้อเพลิงข้ามแดนไปยังพื้นที่ตรงข้ามอำเภอแม่สอด จึงขอถามว่ามาตรการดังกล่าว ส่งผลกระทบกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างไร

โดยนายกรัฐมนตรี ตอบว่า การดำเนินการดังกล่าวทำให้การเข้าถึงสาธารณูปโภคในพื้นที่ที่เป็นแหล่งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น ทำให้มีการเคลื่อนย้ายทั้งอุปกรณ์และผู้คนออกจากพื้นที่ รวมถึงการก่อสร้างต่าง ๆ ลดลง ซึ่งทำให้เกิดความยากลำบากในการดำเนินการที่ผิดกฎหมายในพื้นที่ดังกล่าว และมีการส่งตัวผู้ถูกหลอกลวงไปกระทำความผิดผ่านที่ประเทศไทยและส่งกลับประเทศต้นทางแล้ว

สส.ราชบุรี เขต 4 กล่าวแสดงความไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญหลากหลายคนที่ให้ปิดด่านชายแดน เพราะเห็นว่าการปิดด้านชายแดนจะกระทบกับวิถีชีวิตของพี่น้องประชาชนตัวเล็กตัวน้อยมากจนเกินไป ควรเป็นมาตรการสุดท้ายที่จะทำ โดยควรไปจัดการกับผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังการดำเนินการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นที่มาของคำถามสุดท้ายว่า รัฐบาลจะดำเนินการกับผู้มีอิทธิพลเหล่านี้อย่างไร

โดยนายกรัฐมนตรีได้ตอบคำถามดังกล่าวว่า “ดิฉันทราบดีว่า มีเรื่องของผู้มีอิทธิพล นักการเมือง นายทุน ข้าราชการที่มีอิทธิพล ขอให้คำมั่นสัญญากับสภาผู้แทนราษฎรอันทรงเกียรติ จะจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง และขอให้มั่นใจ ไม่ว่าใคร ตำแหน่งสูงใหญ่แค่ไหน ถ้าทำผิดเรื่องนี้ ทำให้คนไทยเดือดร้อน จะจัดการอย่างเด็ดขาด มั่นใจว่าจะทำได้อย่างเต็มที่”