กคพ.ยังกั๊กเลื่อนรับ”ฮั้วเลือก สว.” อ้างต้องเชิญ”กกต.”ชี้แจงก่อน.เชื่อแค่ปาหี่-ถ้าเกมต่อรองจบสวย

656


  “     บรรดานักวิจารณ์การเมืองรวมถึงสื่อบางสำนักที่ฟันธงถึงขั้นบอกอัตราส่วนเป็นตัวเลขว่าที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ(กคพ.)ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน เมื่อวันที่ 25 กุมพันธ์ ลงมติรับฮั้วเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)เป็นคดีพิเศษ อย่างแน่นอน ต่างหน้าแหกไปตามๆกัน   เพราะที่ประชุมลงมติเลือนออกไป โดยอ้างว่าต้องรับฟังข้อมูลจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ที่จะเชิญมาในวันที่ 5 มีนาคมก่อน แล้วจะลงมติวันที่ 6 มีนาคมนี้

       ซึ่งการฮั้วเลือกตั้ง สว.เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักมาแล้วหลังรู้ผลแพ้ชนะว่ามีการวางแผนฮั้วกันอย่างเป็นระบบ พร้อมกล่าวหาว่าเป็นฝีมือของแกนนำพรรคภูมิใจไทย แม้นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคฯจะปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้อง แต่สื่อมวลชนและสังคมต่างมองว่าเป็นสว.น้ำเงิน 138 คน และหลังเลือกตั้งผู้สมัครสว.ที่ยึดตามกติกาการเลือกตั้งแต่พ่ายได้รวบรวมหลักฐาน ร้องเรียนไปยัง กกต.และกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) แต่ไร้การตอบสนองทั้งสององค์กร

       แต่ที่กลายมาเป็นประเด็นร้อนอีกคำรบหนึ่งเพราะเกิดจากความไม่พอใจของพรรคเพื่อไทย ที่ถูกบรรดาสว.สีน้ำเงิน เล่นเกมหักหน้าในการประชุมรัฐสภา ประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะทั้ง สว.น้ำเงินและสส.พรรคภูมิใจไทย ต่างร้องเพลงทำนองเดียวกัน  หลังจากนั้นสส.เพื่อไทยและสส.ภูมิใจไทยเกิดวิวาทะกัน มีถึงขั้นออกปากไล่ภูมิใจไทย พ้นจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล สร้างความไม่พอใจให้กับแกนนำพรรคภูมิใจไทยหลายคน


        อาการหมางเมินระหว่างสองพรรคมีอย่างต่อเนื่อง และร้าวลึกจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเพื่อไทยเอาจริง เมื่อ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ออกมายอมรับว่าดีเอสไอ กำลังชงเรื่องฮั้วเลือกตั้งส.ว.เป็นคดีพิเศษ พร้อมยกข้อหาที่กฎหมายระบุว่าเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร ขึ้นมาอธิบายให้สังคมรับทราบ

      ในจังหวะนั้นมีการปล่อยเอกสารลับของดีเอสไอ ลงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ โดยบรรยายถึงผลการสืบสวนว่ามีขบวนการในรูปแบบคณะบุคคล ตั้งเป็นเครือข่ายปกปิดเพื่อฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ การได้มาซึ่ง สว.และพบโพยฮั้วจำนวน 2 ชุด กลุ่มละ 7 คน รวม 140 คน จากโพยผู้สมัคร 140 คนได้รับการเลือกตั้ง 138 คน และสำรอง 2 คน

       ซึ่งข้อมูลดังกล่าวบรรดาผู้สมัครสว.ทั้งที่เข้ารอบระดับอำเภอ ระดับจังหวัดและระดับประเทศ ต่างทราบกันดี และสื่อมวลชนนำเสนออย่างกว้างขวางในรูปแบบกระแสข่าว เมื่อเอกสารลับของดีเอสไอหลุดมาเป็นการการันตีได้ว่าเป็นเรื่องจริง

  หลังจาก พ.ต.อ.ทวี จุดพลุประเด็นดังกล่าว สร้างความเดือดดาลให้ประธานวุฒิฯ รองประธานวุฒิฯและ สว.บางกลุ่มถึงขั้นตั้งโต๊ะแถลงข่าวตอบโต้ พ.ต.อ.ทวี และจะยื่นถอดถอนด้วย

     ขณะที่คอการเมืองต่างมองว่าที่เพื่อไทยเล่นเกมนี้ เพราะอยากสยบความอหังการของภูมิใจไทยที่มากด้วยแต้มต่อ และบรรดา สว.ที่เสมือนหอกข้างแคร่ของเพื่อไทย

      หากมองว่าทำไมเพื่อไทยถึงกล้าเล่นเกมนี้ อาจจะเป็นเพราะถ้าขาดพรรคภูมิใจไทย รัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สามารถไปต่อได้ เพราะมีการวิเคราะห์ว่ารัฐบาลมีเสียงประมาณ 330 เสียง รวมประชาธิปัตย์ 23 เสียง กล้าธรรม 24 เสียง  ไทยสร้างไทย 6 เสียง พลังประชารัฐประมาณ 20 เสียง น่าจะเกิน 330 เสียง หากตัดภูมิใจไทยออก 71 เสียง จะเหลือ 259 เสียง  ครึ่งหนึ่งในสภาฯ 245 เสียง เพราะมีสส.อยู่ 490 เสียง  หาก สส.พรรคประชาชนถูกตัดสิทธิ์อีก 17 เสียง จะเหลือสส.ประมาณ 470 เสียง ครึ่งหนึ่งจะเท่ากับ 235 เสียง ถ้าตัดภูมิใจไทยออกมาไปส.ส.ซีกรัฐบาลยังเกินอยู่ประมาณ 30 เสียง

    เมื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาผูกโยงเหตุการณ์ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ มีการปล่อยข่าวก่อนที่กคพ.ประชุม 1 วัน ว่านายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่ภูมิใจไทย นายอนุทิน นายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.แพทองธาร นัดเคลียร์ใจกันนั้น คอการเมืองน่าจะประเมินออกว่าฝ่ายไหนปล่อยข่าวโดยอีกฝ่ายไม่เดินตามเกม ทำให้สื่อมวลชนไปปักหลักที่โรงแรมพูลแมนฯเก้อ โดยนำเสนอข่าวและถ่ายภาพได้แค่ นายเนวิน และแกนนำภูมิใจไทยบางคนเท่านั้น

    ดังนั้นนับแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 6 มีนาคม อาจจะได้เห็นแกนนำภูมิใจไทยดอดเข้าเคลียร์ใจกับแกนนำเพื่อไทยเพื่อหาจุดที่ลงตัวโดยเพื่อไทยมีแต้มต่อที่สูงกว่า ถ้าเคลียร์กันจบแบบสวยๆ อาจจะส่งผลให้มติกคพ.วันที่ 6 มีนาคมเป็นคุณกับบรรดาสว.ไปด้วย

      หากเป็นตามที่วิเคราะห์ บรรดาผู้สมัคร สว.ที่ยื่นเรื่องให้ ดีเอสไอ สอบสวนต้องทำใจ เพราะเกมที่เล่นเมื่อได้บทสรุปที่สมประโยชน์กันแล้วมันจะเป็นแค่ปาหี่ในทันที !!!