ที่สงขลา วันที่ 18 กุมภาพันธ์ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาชนออกมาระบุว่า มีการใช้งบประมาณของกองทุนประกันสังคมไม่ตรงเป้า ในการนำไปดูงานต่างประเทศ และนำไปทำปฏิทิน ว่า หลักปฏิบัติของแต่ละกระทรวงมีอยู่แล้ว ว่าผู้บริหารระดับไหนโดยสารเครื่องบินในชั้นอะไรบ้าง เป็นเรื่องที่ถือปฏิบัติกันมาปกติ และในฐานะเจ้ากระทรวงคือรัฐมนตรีเดินทางไกล แน่นอนว่าสามารถนั่งชั้นเฟิร์สคลาสได้ ส่วนระดับปลัดกระทรวงและอธิบดีก็จัดอยู่ในชั้นบิซิเนสคลาส คิดว่าเป็นเรื่องปกติ การที่จะเอาเรื่องหยุมหยิมพวกนี้ มาโจมตีผ่านสื่อตนก็เฉยๆ ไม่ได้เดือดร้อน และไม่ได้กังวล เพราะสามารถอธิบายได้
ส่วนบอร์ดประกันสังคมที่เดินทางก็ต้องดูว่าสามารถที่จะนั่งในคลาสไหนได้ ฉะนั้น ในส่วนที่มีการเดินทาง ไม่ใช่ว่ากรรมการในบอร์ด จะมีพรรคใดพรรคหนึ่ง ตนคิดว่าเมื่ออยู่บอร์ดแล้วก็ต้องมีเกือบทุกพรรค โดยเฉพาะถ้าอยู่ในกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎร ก็จะมีองค์ประกอบของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ขณะที่บอร์ดประกันสังคมคงทราบอยู่แล้วว่ามาจากการเลือกตั้ง ฝ่ายนายจ้าง 7 คน ลูกจ้าง 7 คน และภาครัฐอีก 7 คน
เมื่อถามว่า ขณะนี้ผู้ประกันตนมีความกังวล เรื่องการใช้จ่ายงบประมาณในส่วนนี้เพราะเป็นเงินที่ใหญ่พอสมควร นายพิพัฒน์กล่าวว่า ด้วยหลักเกณฑ์ประกันสังคม สามารถนำเงินประกันสังคม มาเพื่อการบริหารจัดการ เรื่องการประชาสัมพันธ์ ได้ 10 เปอร์เซ็นต์ แต่ในขณะนี้ ใช้อยู่ที่ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ ก็ขอถามว่าเราใช้เต็มเพดานแล้วหรือยัง ฉะนั้นคนที่จะออกมาพูดช่วยกรุณา ดูหลักเกณฑ์ด้วย ตนคิดว่าการที่ประกันสังคมนำมาใช้แค่ 3 เปอร์เซ็นต์ เราคิดว่าเป็นการพยายามประหยัดงบประมาณให้กับผู้ประกันตนแล้ว

นายพิพัฒน์กล่าวต่อว่า ส่วนการจัดทำปฏิทิน 400 กว่าล้านบาทนั้น ถามว่า 400 กว่าล้านนั้นกี่ปี ต้องบอกว่า 8 ปี ไม่ใช่ปีเดียว 400 กว่าล้านบาท การพูดอะไรที่เป็นการเหมารวมและตีขลุม ขอให้มีจรรยาบรรณในการพูด การที่จั่วหัวมาว่า 400 กว่าล้านบาท แต่ไม่ได้ดูว่ากี่ปี ตนคิดว่าเจตนาไม่ดี ตนไม่เคยออกมาตอบโต้ แต่วันนี้ขอพูด ให้ผู้ประกันตนทั้งประเทศได้ทราบว่า ประกันสังคมของเรามีมาตรการ ใช้งบประมาณอย่างประหยัด
เมื่อถามว่า การจัดทำปฏิทินปีละ 50 ล้าน มีความเหมาะสมหรือไม่ นายพิพัฒน์กล่าวว่า คิดว่าเป็นตัวเลขที่เหมาะสมและต้องดูว่าพิมพ์กี่ฉบับ การใช้ปฏิทินในการประชาสัมพันธ์ยังมีคุณค่ากับคนบางกลุ่มซึ่งยังมีความจำเป็น

เมื่อถามถึงสายด่วนประกันสังคมที่โทรไปแล้วไม่ค่อยมีผู้รับสายนั้น นายพิพัฒน์กล่าวว่า โทรไปไม่มีคนรับ ถามว่าโทรกี่ครั้ง เขาอาจจะติดสายอยู่ก็ได้ ช่วงเวลาที่มีความเดือดร้อนทุกคนก็พยายามโทร เมื่อไม่มีการรับสายก็คิดว่าเขาไม่รับสาย แต่อาจจะเป็นเรื่องสายซ้อน ตนคิดว่าอย่าว่าแต่ประกันสังคมเลย แต่คอลเซ็นเตอร์ส่วนอื่นๆ ก็เป็นลักษณะเดียวกันที่จะมีบางช่วงเวลาที่แน่นมาก ถ้าหากโทรแล้วรับทันทีก็ถือว่าวันนั้นเป็นจังหวะว่างหรือผู้นั้นโชคดีที่โทรไปแล้วว่างพอดี
“ขอให้ผู้ประกันตนสบายใจได้ว่าประกันสังคมทำทุกอย่างด้วยความโปร่งใส ที่สำคัญบอร์ดประกันสังคมก็มาจากการเลือกตั้ง ฉะนั้นคนที่ออกมาให้ข่าวกรุณาทบทวนตัวเอง ว่าสิ่งที่พูดออกมามีข้อเท็จจริงขนาดไหน ซึ่งผมไม่มีปัญหาท่านจะมาพบผมที่กระทรวงก็ได้ จะถามในสภาก็พร้อม หรือสุดท้ายท่านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผมก็ยินดีที่จะตอบทุกคำถาม ผมมั่นใจว่ากระทรวงแรงงานโดยเฉพาะประกันสังคมมีความโปร่งใส” นายพิพัฒน์กล่าว