“OECD พร้อมจะให้การสนับสนุนรัฐบาลและกระทรวงยุติธรรมของไทย ด้วยการนำประสบการณ์และมุมมองที่หลากหลายในการพัฒนาระบบยุติธรรมของประเทศสมาชิก OECD มาร่วมแลกเปลี่ยนกับประเทศไทยเพื่อเป็นหนึ่งในกระบวนการศึกษาด้านความยุติธรรม (Justice Review) ของไทยด้วย เพราะประสบการณ์เหล่านี้เป็นหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่าจะนำไปสู่การทำให้เกิดแนวทางที่นำไปปรับใช้ได้จริงในอนาคต”

Dr. Tatyana Teplova หัวหน้าที่ปรึกษาอาวุโสด้านความยุติธรรม ในสำนักบริหารกิจการสาธารณะ (Public Governance Directorate) องค์กรเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) กล่าวในระหว่างการเข้าหารือกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการยุติธรรม ในช่วงเช้าวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 จากการประสานงานโดยสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ) โดยมี ดร.พิเศษ สอาดเย็น ผู้อำนวยการ TIJ และ ดร.อณูวรรณ วงศ์พิเชษฐ์ รองผู้อำนวยการ TIJ เข้าร่วมหารือด้วย
ในระหว่างการหารือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวกับผู้แทนจาก OECD ว่า รัฐธรรมนูญของไทยหลายฉบับที่ผ่านมา พูดถึงประเด็นความยุติธรรมในแง่ของเรื่องสิทธิเสรีภาพเป็นส่วนใหญ่ แต่เชื่อมโยงไปถึงประเด็นทางเศรษฐกิจค่อนข้างน้อย ทั้งที่เป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกันโดยตรง โดยยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ประเทศไทยกำลังประสบภาวะขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมืออีกเป็นจำนวนมาก เพราะกระบวนการยุติธรรมของไทยเน้นการใช้โทษทางอาญา คือ เน้นการลงโทษผู้กระทำความผิดด้วยการจำคุกมากจนเกินไป โดยเฉพาะในคดียาเสพติดและคดีอาชญากรรมทางออนไลน์ จนทำให้คนในวัยแรงงานเข้าไปอยู่ในเรือนจำเป็นจำนวนมากและยากที่จะกลับสู่สังคมได้ ทางกระทรวงยุติธรรม จึงต้องการที่จะหารือและขอคำแนะนำจาก OECD ในการนำทางเศรษฐกิจและหลักนิติธรรมเข้ามาปรับใช้กับกระบวนการยุติธรรมทางอาญาของไทยให้มากขึ้น เช่น จะใช้ “กระบวนการยุติธรรมทางเลือก” ที่ไม่เน้นการใช้โทษอาญามาแทนระบบเดิมได้อย่างไร หรือจะใช้กลไกที่ไทยมีอยู่แล้วอย่างระบบ “ยุติธรรมชุมชน” อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

ผู้แทน OECD Dr. Tatyana Teplova ย้ำว่า ขอบคุณรัฐบาลไทยและกระทรวงยุติธรรม ที่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะยกระดับหลักนิติธรรมและกระบวนการยุติธรรมทางอาญา โดย OECD จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในประเด็นต่าง ๆ ที่ไทยขอคำแนะนำมา และจะหารือในรายละเอียดกันต่อไป

