วันนี้ (7 ก.พ.68) พันเอก ฐิต์รัชช์ สมบัติศิริ รองเลขานุการกองทัพบก/โฆษกกองทัพบก พร้อมทีมโฆษกกองทัพบก นำคณะสื่อมวลชนสายทหาร รวมกว่า 40 ราย เดินทางไปติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี มีกำหนดการ 3 วัน ในระหว่างวันที่ 7-9 ก.พ.68 โดยมี พลตรี อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่9/ผู้บัญชาการกองกำลังสุรสีห์ ให้การต้อนรับ ซึ่งการนำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก/ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ที่ต้องการให้สื่อมวลชนได้รับทราบข้อมูลและติดตามการปฏิบัติงานของกองกำลังป้องกันชายแดน ในการปฏิบัติภารกิจสกัดกั้นและปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบตลอดแนวชายแดน ตามนโยบายของรัฐบาล และพันธกิจ 5 ประการของกองทัพบก รวมทั้งเพื่อให้สื่อมวลชนมีความเข้าใจ สามารถขยายผล สร้างการรับรู้ข้อเท็จจริงในแนวทางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่และสถานการณ์ในพื้นที่ โดยคณะได้เข้ารับฟังบรรยายสรุปภาพรวมการปฏิบัติภารกิจที่สำคัญของกำลังสุรสีห์ และหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า โดยมี พันเอก นพดล ภาคาผล เสนาธิการกองพลทหารราบที่ 9/เสนาธิการกองกำลังสุรสีห์ และ พันเอก พรรณศักดิ์ เพรียวพานิช ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 29/ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า เป็นผู้บรรยาย

สำหรับกองกำลังสุรสีห์ จัดกำลังพลจากกองพลทหารราบที่ 9 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนระหว่างประเทศไทยและเมียนมาในด้านทิศตะวันตก ตั้งแต่ จ.กาญจนบุรี ถึง จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมระยะทาง 840 กิโลเมตร โดยมีหน่วยขึ้นตรงหลัก 3 หน่วยเฉพาะกิจ ได้แก่ หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า รับผิดชอบพื้นที่ จ.กาญจนบุรี, หน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ รับผิดชอบพื้นที่ จ.ราชบุรี และ จ.เพชรบุรี และหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก รับผิดชอบพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งในส่วนของหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้าได้จัดกำลังจากกรมทหารราบที่ 29 รับผิดชอบภารกิจป้องกันชายแดน ในพื้นที่ 5 อำเภอ ของ จ.กาญจนบุรี รวมระยะทาง 365 กิโลเมตร ซึ่งมีช่องทางผ่าน-เข้าออกประเทศ จำนวน 43 ช่องทาง โดยช่องทางที่สำคัญ ได้แก่ ช่องทางพระเจดีย์สามองค์ ซึ่งเป็นจุดผ่อนปรนทางการค้า และช่องทางพุน้ำร้อน ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนถาวร

โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้าได้จัดกำลังพลลาดตระเวนเฝ้าตรวจ พร้อมนำเครื่องมือและยุทโธปกรณ์พิเศษต่างๆ ที่กองทัพบกได้เสริมประสิทธิภาพให้กับกองกำลังป้องกันชายแดน อาทิ โดรนบินลาดตระเวน, กล้องตรวจจับความร้อน, กล้องตรวจการณ์ในเวลากลางคืน, ชุดตรวจจับแรงสั่นสะเทือนทางยุทธวิธี, กล้องวงจรปิด, กล้อง Borescope รวมทั้งรถ UTV และ ATV บูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครองในพื้นที่ สกัดกั้นและปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบตลอดแนวชายแดน ซึ่งมีผลการปฏิบัติตั้งแต่ ต.ค.67 ถึงปัจจุบัน สามารถจับกุมผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด จำนวน 53 ครั้ง ได้ผู้ต้องหา 59 ราย ยึดของกลางเป็นยาบ้า 262,430 เม็ด และเฮโรอีน 25 กิโลกรัม โดยส่วนใหญ่ยังคงพบความพยายามลักลอบลำเลียงในลักษณะซุกซ่อนมากับยานพาหนะเพื่อนำเข้าสู่พื้นที่ตอนใน, การจับกุมผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง จำนวน 79 ครั้ง สามารถควบคุมตัวผู้หลบหนีเข้าเมือง, ผู้ติดตาม และผู้นำพา รวม 940 ราย ส่วนใหญ่พบในพื้นที่ อ.สังขละบุรี และ อ.ทองผาภูมิ, การจับกุมผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ. อื่นๆ ได้แก่ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ 18 ครั้ง, พ.ร.บ.สรรพสามิตฯ 6 ครั้ง, พ.ร.ก.การประมง 1 ครั้ง, พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฯ 3 ครั้ง, พ.ร.บ.ป่าไม้ฯ 7 ครั้ง และ พ.ร.บ.ศุลกากรฯ 5 ครั้ง รวมทั้งสามารถตรวจยึดยานพาหนะต้องสงสัย ที่คาดว่าจะมีการลักลอบส่งออกนอกราชอาณาจักร รวม 11 ครั้ง ตลอดจนการตรวจยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ส่งสัญญาณต่างๆ ที่คาดว่าจะนำไปสู่การดำเนินการที่ผิดกฎหมาย เป็นเครื่องมือในการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของแก๊งคอลเซนเตอร์
และจากนโยบายล่าสุด “ซีลชายแดน 2 ชั้น Seal Stop Safe” ของรัฐบาล หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า ได้รับการสนับสนุนกำลังเพิ่มเติมจากกองกำลังสุรสีห์ ทำการลาดตระเวนจรยุทธ์ในพื้นที่เป้าหมายตามแนวชายแดน และตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.68 หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้าจะได้รับการสนับสนุนกำลังหมวดสกัดกั้นยาเสพติดเพิ่มเติมจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติต่างๆ ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

พร้อมกันนี้ กองกำลังสุรสีห์ได้ร่วมกับศูนย์สั่งการชายแดนฯ จ.กาญจนบุรี จัดทำมาตรการสกัดกั้นและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี แบ่งพื้นที่เป็น 2 ชั้น 4 พื้นที่ ได้แก่ ชั้นที่ 1 แบ่งเป็น 2 พื้นที่ คือ พื้นที่เฝ้าระวัง และพื้นที่ต้นน้ำ และในชั้นที่ 2 แบ่ง 2 พื้นที่ คือ พื้นที่กลางน้ำ และพื้นที่ปลายน้ำ โดยได้กำหนดมาตรการการปฏิบัติรวม 9 มาตรการหลัก ประกอบด้วย การเพิ่มประสิทธิภาพและการบูรณาการงานด้านการข่าว, การป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย, การสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมาย, การคัดกรองการผ่านเข้า – ออก ของบุคคล สิ่งของและสิ่งอำนวยความสะดวกในการกระทำผิด, การปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย, การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน, การเพิ่มประสิทธิภาพของจุดตรวจ, การเสริมสร้างความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน และการสื่อสารทางยุทธศาสตร์อย่างมีประสิทธิภาพ

จากนั้นคณะได้เดินทางไปตรวจภูมิประเทศ ณ เนินตรวจการณ์ (เขาครอนโด) บ้านพระเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี ซึ่งมีชุมชนฝั่งตรงข้ามของประเทศเพื่อนบ้าน คือ อ.พญาตองซู จ.จะอินเซ็กจี และปิดท้ายภารกิจในวันแรก ที่จุดตรวจร่วมน้ำเกริ๊ก อ.สังขละบุรี ปมคมนาคมไปสู่ช่องทางพระเจดีย์สามองค์ โดยหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า ได้ร่วมกับ อ.สังขละบุรี, ตำรวจภูธรสังขละบุรี และกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 134 ดำเนินการจัดตั้งจุดตรวจร่วม เพื่อดูแลป้องกันพื้นที่ ตั้งแต่ พ.ศ.2552 รวมทั้งได้มีการเสริมกำลังเพิ่มเติมจากหมวดสุนัขทหาร กองกำลังสุรสีห์ และเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้า-ส่งออก สินค้าเกษตร เพิ่มประสิทธิภาพการสกัดกั้นและปราบปรามสิ่งผิดกฎหมายตลอดแนวชายแดน