วันนี้ (30 ม.ค.2568) เวลา 09.30 น. ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ. 3694/2566 คดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 โจทก์ นางทัศนัย สายบัว ที่ 1 นายศิลนา สายบัว ที่ 2 น.ส.เขมินทรา จิรสัจจานุกูล ที่ 3 เด็กหญิง ก. (นามสมมุติ) โดยนางสาวเขมินทรา จิรสัจจานุกูล ผู้แทนโดยชอบธรรม ที่ 4 พ.ต.ท.วศิน พันปี ที่ 5 โจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง นายประวีณ จันทร์คล้ายหรือกำนันนก จำเลย ในความผิดฐานความผิดต่อชีวิต พยายาม โดยขอให้นับโทษของจำเลยต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท. 206/2566 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางด้วย
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อศาลอาญาซึ่งเป็นศาลชั้นต้น พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 60, 80, 84 อันเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 พฤติการณ์แห่งคดีเป็นการกระทำผิดร้ายแรงอย่างอุกอาจ แต่ระหว่างพิจารณาจำเลยบรรเทาผลร้ายชดใช้ค่าเสียหายจนโจทก์ร่วมทั้งห้าถอนคำร้องขอให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีมีเหตุอันควรปรานีเห็นสมควรลงโทษจำเลยเป็นจำคุกตลอดชีวิต และนับโทษจำเลยต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท. 206/2566 ของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
ทั้งนี้ กรณีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2566เวลาประมาณ 18.00 น. จำเลยจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ขึ้นภายในบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 55/1 หมู่ที่ 2 ต.ตาก้อง อำเภอเมืองนครปฐม จ.นครปฐม ของจำเลย โดยมีเจ้าพนักงานตำรวจมาร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์หลายนาย ซึ่งมีพันตำรวจตรีศิวกร สายบัว ผู้ตาย และพันตำรวจโทวศิน พันปี ผู้บาดเจ็บ รวมถึงนายธนัญชัยหรือหน่อง หมั่นมาก คนสนิทใกล้ชิดกับจำเลยอยู่ร่วมงานเลี้ยงด้วย ต่อมาจำเลยกับผู้ตายท้าทายแข่งขันดื่มสุรากัน โดยจำเลยเป็นฝ่ายแพ้ ทำให้จำเลยโมโห เสียหน้า รวมทั้งมีเหตุไม่พอใจด้วยสาเหตุอื่นมาก่อนแล้ว
จำเลยจึงให้นายธนัญชัยใช้อาวุธปืนออโตเมติก มีทะเบียน ยี่ห้อ GLOCK ขนาด 9 มม. ยิงฆ่าผู้ตายซึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารในงานเลี้ยงหลายนัด กระสุนปืนถูกอวัยวะสำคัญของผู้ตายหลายแห่ง และพลาดไปถูกผู้บาดเจ็บที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารเดียวกันเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายสมดังเจตนาฆ่าของจำเลยและนายธนัญชัย และเป็นเหตุให้ผู้บาดเจ็บได้รับอันตรายสาหัสต้องทุพพลภาพหรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน หรือจนประกอบกรณีกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า 20 วัน เหตุเกิดที่ ต.ตาก้อง อำเภอเมืองนครปฐม จ.นครปฐม