ผบ.ตร.สั่งดำเนินคดีแก๊งลูกตำรวจรุมทำร้ายเหยื่อพื้นที่ สน.ลาดพร้าว ตรวจค้นบ้านพบปืน 3 กระบอก ย้ำเป็นลูกตำรวจก็ต้องเคารพกฎหมาย และควรทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม หากทำผิดต้องถูกดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาด้วยเช่นกัน

วันนี้ (23 มกราคม 2568) พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึง กรณีมีผู้ร้องพาผู้เสียหายเดินทางมาพบตำรวจ สน.ลาดพร้าว ติดตามคดีที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นที่มีข่าวว่าเป็นแก๊งลูกตำรวจ รุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดกลางดึกวันที่ 21 มกราคม ที่ผ่านมา ภายในซอยลาดพร้าว 101

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับรายงาน และสั่งการให้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เร่งติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี พร้อมดูแลให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย
ล่าสุดตำรวจชุดสืบสวนได้ติดตามจับกุมผู้กระทำผิดแล้ว โดยในรายของนายมาตี้ ซึ่งเป็นลูกของตำรวจนั้น จากการตรวจสอบพบว่าเป็นของลูกตำรวจจริง แต่พ่อแม่แยกทางกัน โดยนายมาตี้ได้อาศัยอยู่กับทางแม่ ซึ่งตำรวจได้นำกำลังไปตรวจค้นที่บ้านพักในพื้นที่ สน.บางชัน พบปืนไทยประดิษฐ์ 3 กระบอก บนฝ้าเพดานภายในบ้านพัก ได้ทำการตรวจยึด และดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
ส่วนผู้ต้องหารายอื่นๆ ตำรวจได้ดำเนินอย่างเต็มที่ทุกรายในแนวทางเดียวกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มแก๊งวัยรุ่น เป็นเยาวชนที่จะต้องดำเนินการภายในกรอบของกฎหมายที่ให้อำนาจดำเนินการ
นอกจากนี้ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผบ.ตร.สั่งการให้ดำเนินคดีนี้อย่างเด็ดขาด ตรงไปตรงมา ไม่มีการช่วยเหลือกัน ไม่ว่าจะเป็นลูกตำรวจ หรือลูกใคร หากทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่มียกเว้น ยิ่งเป็นลูกตำรวจ ยิ่งควรทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีในสังคมมากกว่าเด็กทั่วไป ซึ่งเรื่องนี้ ผบ.ตร.ได้กำชับไปยังข้าราชการตำรวจในการสอดส่องดูแลบุตรหลาน รวมทั้งให้ผู้บังคับบัญชาลงไปสอดส่องดูแลอีกส่วนหนึ่งแล้ว
ผบ.ตร.สั่ง น.1 ดำเนินคดีแก๊ง 13 วัยรุ่น ”ลูกตำรวจ“ ไม่ละเว้นถูกแจ้งข้อหาแล้ว ย้ำทำผิดต้องได้รับโทษตามกฎหมายเท่าเทียมกัน

ด้าน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. เปิดเผยว่า พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. มีการดำเนินคดีให้ถึงที่สุดกับแก๊งวัยรุ่นทั้ง 13 ราย แม้ว่า 1 รายจะเป็นลูกตำรวจก็ไม่ละเว้น ทุกอย่างต้องดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมาย ผู้กระทำความผิดต้องได้รับโทษตามขั้นตอน เบื้องต้นสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด 13 รายแล้ว อยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบสวนเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป
.
สำหรับ นายตี้ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นลูกตำรวจนั้น ได้มีการควบคุมตัวและนำตัวไปตรวจค้นบ้านพัก พบอาวุธปืน 3 กระบอก คือ ปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ แบบแมกกาซีน ขนาดเบอร์ .38 มม. จำนวน 1 กระบอก / อาวุธปืนสั้น แบบลูกโม่ ขนาด .38 มม. จำนวน 1 กระบอก / อาวุธปืนปากกา ขนาด .38 มม.จำนวน 1 กระบอก / เครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 มม.จำนวน 2 นัด และ กล่องใส่ อาวุธปืน สีดำ จำนวน 1 กล่อง เบื้องต้นแจ้งข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง

พล.ต.ต.นพศิลป์ ระบุว่า โดยหลังจากนี้จะต้องรอผลตรวจร่างกายจากแพทย์ของผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งจะส่งมายังตำรวจภายในวันจันทร์ที่ 27 มกราคม ขณะที่ตำรวจมีการนัดสอบปากคำผู้ก่อเหตุทั้งหมดพร้อมสหวิชาชีพ ในวันอังคารที่ 28 มกราคม เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติกลุ่มผู้ก่อเหตุพบว่าส่วนใหญ่ไม่ได้เรียนหนังสือ และ มักจะจับกลุ่มรวมตัวกันอยู่บ่อยครั้ง อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าไม่ว่าผู้ก่อเหตุจะเป็นลูกตำรวจหรือไม่ทุกอย่างดำเนินตามกฎหมาย ไม่มีการช่วยเหลือหรือละเว้นอย่างเด็ดขาด