“เท้ง” ถามจุดยืนกระจายอำนาจ “เพื่อไทย” ย้ำ “ประชาชน” หนุนเลือกตั้งเจ้าเมือง ไม่เอาผู้ว่าซีอีโอ 

490

ที่เชียงใหม่ วันที่ 18 มกราคม ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงประเด็นการผลักดันการกระจายอำนาจ ในฐานะตัวแทนพรรคการเมืองระดับชาติ บนเวทีประชันวิสัยทัศน์ เลือกตั้ง อบจ.เชียงใหม่ 2568 จัดโดยคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่าเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพมาก แต่ขณะเดียวกันมีปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไข เช่น การติดอันดับ 3 จังหวัดที่มีความเหลื่อมล้ำมากที่สุดในประเทศ และเป็นอันดับ 3 ในจำนวนสัดส่วนประชากรที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ถ้าวัดตามดัชนีความก้าวหน้าของคน เชียงใหม่มีปัญหาด้านสาธารณสุขรั้งท้าย 10 จังหวัดในประเทศ ดังนั้นการเมืองท้องถิ่นควรเข้ามาตอบโจทย์คุณภาพชีวิตของพี่น้องชาวเชียงใหม่ใน 3 เรื่องคือเศรษฐกิจปากท้อง ทำอย่างไรให้ทั่วถึงเท่าเทียม, สิ่งแวดล้อม เช่นปัญหา PM 2.5 และปัญหาสาธารณสุขการดูแลสุขภาพของชาวเชียงใหม่

ณัฐพงษ์กล่าวว่า ตั้งแต่อนาคตใหม่ ก้าวไกล มาถึงพรรคประชาชน จุดยืนไม่เคยเปลี่ยน เราผลักดันการกระจายอำนาจ และทราบว่าพี่น้องชาวเชียงใหม่ผลักดัน พ.ร.บ.เชียงใหม่มหานครมาเป็นเวลานาน ตนเป็นคนหนึ่งที่ขึ้นปราศรัยที่เชียงใหม่เมื่อปี 2565 ในแคมเปญยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อกท้องถิ่น เพราะเราต้องการสถาปนาอำนาจของท้องถิ่นให้ชาวเชียงใหม่บริหารจัดการงบประมาณ ออกแบบนโยบาย และความเป็นไปในจังหวัดได้เอง ท้องถิ่นมีอำนาจทำได้ทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องศาล ทหาร เงินตรา การต่างประเทศ ทั้งนี้ไม่ใช่แค่ชาวเชียงใหม่ที่ควรเลือกตั้งผู้บริหารสูงสุดของจังหวัดได้แบบกรุงเทพฯ แต่ควรทำให้เกิดขึ้นทุกจังหวัดทั่วประเทศพร้อมๆ กัน

แต่การผลักดันการกระจายอำนาจปลดล็อกท้องถิ่น อบจ.ทำเองไม่ได้ ต้องอาศัยพรรคการเมืองระดับประเทศ ตนจึงต้องตั้งคำถามว่านโยบายผู้ว่า CEO เป็นนโยบายที่ตอบโจทย์การกระจายอำนาจจริงหรือไม่ ปัญหาความทับซ้อนของอำนาจระหว่างผู้ว่าฯ ที่มาจากการแต่งตั้งกับนายก อบจ. ที่ชาวเชียงใหม่เป็นคนเลือกมากับมือ ใครจะสามารถรู้ปัญหา ตอบโจทย์ชาวเชียงใหม่ได้มากกว่า นี่เป็นเรื่องจุดยืน ความชัดเจน ความจริงใจ ที่ชาวเชียงใหม่ควรได้ทราบเพื่อให้ได้คำตอบว่าท่านจะลงคะแนนให้ใครในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ 

“วันนี้เราต้องถามว่าจุดยืนของพรรคการเมือง ต้องการผลักดันการกระจายอำนาจไปถึงจุดไหน  สำหรับผมและพรรคประชาชน นายกหรือผู้บริหารสูงสุดของจังหวัดต้องมาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่ผู้ว่า CEO แน่นอน” ณัฐพงษ์กล่าว และว่า ในรัฐสภาสมัยนี้ ไม่มีทางที่พรรคประชาชนไปร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย แต่ถ้าวันนี้พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าต้องการผลักดันการกระจายอำนาจ มีบางประเด็นที่เราสามารถผลักดันร่วมกันได้ทันทีโดยไม่ต้องบอกว่าประชาชนยังไม่พร้อม คือการผลักดันกฎหมายระดับพระราชบัญญัติในสภาผู้แทนราษฎร เช่นสัดส่วนรายได้ของท้องถิ่นต่อรัฐบาล ช่วงการหาเสียงเลือกตั้งปี 2566 บนเว็บไซต์ของพรรคเพื่อไทยมีนโยบายชัดเจนว่าต้องการผลักดันให้สัดส่วนรายได้ท้องถิ่นต่อรายได้สุทธิของรัฐบาลส่วนกลางถึง 35% โดยเร็วที่สุด คำถามคือโดยเร็วที่สุดคือเมื่อไหร่ เรื่องนี้ถ้าต้องการผลักดันแก้ไข เริ่มได้เลย จะให้พรรคประชาชนหรือพรรคเพื่อไทยเสนอกฎหมายก็ได้ เขียนให้ชัดใน พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจ ขั้นต่ำ 35% ทำให้สำเร็จในสมัยนี้ ตนเชื่อว่าเราโหวตสนับสนุนร่วมกันได้

หัวหน้าพรรคประชาชนกล่าวว่า นอกจากนี้ กลางเดือนกุมภาพันธ์จะมีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อปลดล็อกให้มี สสร. ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เรื่องการกระจายอำนาจของไทย เราต้องสถาปนาไว้ในระดับรัฐธรรมนูญ เพราะปัจจุบันมีกฎหมายที่กำหนดอำนาจของส่วนกลางกับส่วนท้องถิ่นทับซ้อนกันเยอะแยะไปหมด ดังนั้นวันนี้ถามชัดๆ ถ้าพรรคเพื่อไทยยืนยันหลักการเรื่องการกระจายอำนาจ เรื่องการสถาปนาอำนาจท้องถิ่นไว้ในรัฐธรรมนูญ ท่านเห็นด้วยหรือไม่อย่างไร

ณัฐพงษ์ทิ้งท้ายว่าขอเชิญชวนชาวเชียงใหม่ทุกคน 1 กุมภาพันธ์นี้ ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ. ตัดสินอนาคตของเชียงใหม่ สร้างความเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน

#Thaitabloid #ไทยแทบลอยด์ #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #พรรคประชาชน #อบจ.เชียงใหม่