ป.ป.ส.จับมือ สธ.และมช.วิจัยพัฒนายาบำบัดรักษาผู้ติดยาบ้า !!

195

ป.ป.ส. จับมือ สธ. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
และหน่วยงานภาคี ลงนาม MOU
ร่วมพัฒนายาช่วยในการบำบัดรักษาผู้ติดยาบ้า
ก้าวสำคัญสู่สังคมปลอดภัยจากยาเสพติด

​วันอังคารที่ 7 มกราคม 2568 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมเป็นเกียรติในพิธีลงนามบันทึกเพื่อความเข้าใจความร่วมมือทางวิชาการ เพื่อดำเนินโครงการวิจัยประสิทธิภาพของยาที่ใช้ใน การบำบัดรักษายาบ้า โดยสำนักงาน ป.ป.ส. จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อความร่วมมือทางวิชาการใน 2 ระดับ ทั้งในระดับนโยบาย และระดับปฏิบัติ โดยในระดับนโยบายเป็นการลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่าง สำนักงาน ป.ป.ส. และกระทรวงสาธารณสุข โดยมีพลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ สำนักงาน ป.ป.ส. และ นายแพทย์ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ลงนาม โดยมี นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และแพทย์หญิงธญรช ทิพยวงษ์ นายแพทย์เชี่ยวชาญ ที่ปรึกษากรมการแพทย์ ร่วมเป็นพยาน เป็นการสร้างความร่วมมือและผลักดันให้เกิดนวัตกรรมในการพัฒนายาช่วยในการบำบัดรักษาผู้ติดยาบ้า (Medication Assisted Treatment) และลดอันตรายจากการเสพยาบ้า​ในระดับปฏิบัติเป็นการลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างสำนักงาน ป.ป.ส. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่ และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ขอนแก่น โดยมี นางสาวอารีภักดิ์ เงินบำรุง รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายแพทย์อภิศักดิ์ วิทยานุกูลลักษณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่ และ นายแพทย์ชาญชัย ธงพานิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธัญญารักษ์ขอนแก่น เป็นผู้ลงนาม ซึ่งจะร่วมกันสนับสนุนทรัพยากร และพื้นที่สำหรับการดำเนินงานวิจัย


​พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่าปัญหายาบ้าเป็นปัญหาหลักของประเทศไทยซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบทางสังคมเป็นอย่างมาก เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจมหาศาล สร้างภาระค่าใช้จ่าย ทั้งงบประมาณในการป้องกันและแก้ไขปัญหาค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้เสพ ผู้ติด ผู้กระทำผิด ผู้มีอาการทางจิต และสูญเสียแรงงานคุณภาพในการพัฒนาประเทศ เนื่องจากต้องถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม การบำบัดรักษา ผู้ติดยาบ้า ในปัจจุบันยังไม่มียาชนิดใดที่ใช้ได้ผล ผมจึงมอบหมายให้ สำนักงาน ป.ป.ส. หารือผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนายาช่วยในการบำบัดรักษาผู้ป่วยติดยาบ้า (Medication Assisted Treatment) และลดอันตรายจากการเสพยาบ้า


ด้าน พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า โครงการดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อศึกษาวิจัยประสิทธิผลของยาโพรพิออน (Bupropion) ยาเมอร์เทซาปีน (Mitazapine) และยาลองแอคติง เมทิลเฟนิเดต (Long-acting methylphenidate) เปรียบเทียบกับการรักษาแบบปกติ ว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ติดยาบ้าเป็นอย่างไร รวมระยะเวลาศึกษาวิจัย 3 ปี ตั้งแต่ ธันวาคม พ.ศ. 2567 ถึง พฤศจิกายน พ.ศ. 2571 โดยหากใช้ได้ผลดี จะมี การนำมาขึ้นทะเบียนยาเพื่อใช้รักษาผู้ติดยาบ้า และจัดทำเงื่อนไขในการเบิกจ่ายสำหรับผู้ป่วยต่อไป โดยสำนักงาน ป.ป.ส. เชื่อมั่นว่า โครงการดังกล่าวจะมีส่วนสำคัญต่อการแก้ไขปัญหายาบ้าของประเทศไทยในอนาคตต่อไป

​เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวทิ้งท้ายว่า การพัฒนาประสิทธิผลของยาที่ใช้ในการบำบัดรักษาผู้ติดยาบ้า ในประเทศไทย ถือเป็นการลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ และสังคมเป็นมูลค่ามากมายมหาศาล รวมถึงลดสูญเสียกำลังแรงงานที่มีคุณภาพ ลดการเกิดปัญหาอาชญากรรม และลดผลกระทบต่อสุขภาพกาย สุขภาพจิตของผู้เสพ ผู้ติดยาบ้า ครอบครัว และชุมชน ซึ่งมีแนวโน้มความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น และยังไม่มียาชนิดใดที่ให้ผลการรักษาผู้เสพผู้ติดยาบ้าได้ โครงการนี้จึงเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของประเทศ และเป็นการนำไปสู่การแก้ไขปัญหาผู้เสพ ผู้ติด ยาบ้าได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อสร้างสังคมปลอดภัยจากยาเสพติด

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #ข่าวอาชญากรรม #ปปส