ที่กระทรวงต่างประเทศ (กต.) วันที่ 5 ธ.ค. นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงถึงกรณีลูกเรือประมงไทย 4 คน ถูกจับโดยกองทัพเรือเมียนมา และถูกตัดสินคดีต้องโทษจำคุกเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันผลักดันกับทางการเมียนมาเพื่อขอให้มีการปล่อยตัวลูกเรือทั้ง 4 คนโดยเร็วนั้น จากการประกาศของทางการเมียนมาในเรื่องการปล่อยตัวผู้ต้องขัง และนักโทษต่างชาติเมื่อวานนี้ (4 ม.ค.68) รวมนักโทษชาวไทยจำนวน 152 คน แต่ยังไม่พบรายชื่อลูกเรือไทยทั้ง 4 คนรวมอยู่ด้วย จึงเป็นที่ผิดหวังที่กระบวนการปล่อยตัวกลุ่มดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จในครั้งนี้ โดยฝ่ายเมียนมายังอยู่ในระหว่างการพิจารณาตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง
ในทางการทูต กระทรวงการต่างประเทศ ได้ดำเนินการอย่างเต็มที่มาโดยตลอดและจะดำเนินการต่อไป ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศเมียนมาก็ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ พยายามผลักดันให้มีการปล่อยตัวโดยเร็ว บนพื้นฐานของการเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน โดยเรื่องดังกล่าวมีคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น หรือ TBC ที่จะต้องหารือข้อสรุปร่วมกัน ซึ่งรวมถึงแนวทางการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีกในอนาคต ทั้งนี้ในห้วงที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ผลักดันและติดตามกับทางการเมียนมาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง รวมทั้งขอการเข้าถึงทางกงสุล (consular access) ในหลายช่องทาง ทั้งการโทรศัพท์พูดคุยกับลูกเรือทั้ง 4 คน เพื่อสอบถามสารทุกข์สุกดิบและให้กำลังใจ
โฆษก กต.กล่าวว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ม.ค.2568 เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รับอนุญาตให้นำผู้แทนญาติของลูกเรือไทยเข้าเยี่ยมลูกเรือไทยทั้ง 4 คน ที่จังหวัดเกาะสอง ภาคตะนาวศรี ซึ่งพบว่าลูกเรือไทยทั้ง 4 คน มีสุขภาพแข็งแรง มีกำลังใจดี ได้รับการดูแลตามความเหมาะสม และได้รับอาหารครบ 3 มื้อ โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้นำสิ่งของจำเป็นไปมอบให้แก่ลูกเรือทั้ง 4 คนด้วย รวมทั้งได้แจ้งกับลูกเรือเกี่ยวกับสถานะการดำเนินการล่าสุดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยในการผลักดันกับฝ่ายเมียนมาเพื่อนำไปสู่การปล่อยตัวโดยเร็ว
สุดท้ายนี้ ขอเรียนว่า กรณีนี้ มีความละเอียดอ่อนทั้งในแง่เรื่องการปล่อยตัวลูกเรือชาวไทย ประเด็นปัญหาการทำประมงของทั้งสองฝ่าย รวมทั้งความสัมพันธ์ในภาพรวมของสองประเทศ ดังนั้น จึงต้องอาศัยความอดทนและช่องทางการเจรจาอย่างแนบเนียน โดยดำเนินการ ดังนี้ (1) เร่งช่วยเหลือให้ลูกเรือได้รับการปล่อยตัว ซึ่งย่อมขึ้นอยู่กับกระบวนการภายในต่างๆของเมียนมาด้วย โดยกระทรวงการต่างประเทศจะผลักดันทางการทูตต่อไป (2) แก้ไขปัญหาผ่านกลไก TBC ร่วมกันกับฝ่ายเมียนมาต่อไป ขอให้มั่นใจว่ากระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะติดตามและดำเนินการทุกอย่างในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ ผ่านทุกช่องทางอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อให้คนไทยทั้ง 4 คนได้รับการปล่อยตัวต่อไป
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวเมื่อวานนี้ว่า การที่ยังไม่มีชื่อ 4 ลูกเรือประมงไทยในกลุ่มที่ได้รับการปล่อยตัวครั้งนี้เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนกระบวนการปล่อยตัว ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศมีการติดตาม ประสานงานอย่างใกล้ชิด แต่เบื้องต้นญาติของ 4 ลูกเรือไทยได้ไปเยี่ยมที่เกาะสอง เมียนมาแล้ว พบว่าทุกคนสุขภาพดี และมีกำลังใจดี ยืนยันว่าทั้ง 4 คน จะได้รับการปล่อยตัวเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่สามารถระบุวัน เวลาได้ เพราะอยู่ระหว่างดำเนินการ
ด้านนายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยองพรรคพลังประชาชน โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กชื่อบัญชี “ชุติพงศ์ พิภพภิญโญ – Chutiphong Pipoppinyo” ทวงถามถึงความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือลูกเรือไทยทั้ง 4 โดยระบุว่า สถานการณ์ลูกเรือไทยที่โดนจับตอนนี้ยังไม่มีวี่แววได้รับการปล่อยตัว คำพูดของรัฐมนตรีจะมีความหมายกี่โมง?
“ผมยังจำได้ดีว่าวันที่ 5 ธันวา ทางคุณภูมิธรรมบอก เมียนมาร์ปล่อยตัวลูกเรือไทยแล้ว ญาติและทีมแพทย์ก็ไปเตรียมรับตัว แต่สุดท้าย ก็ไม่ได้กลับมา ต่อมาวันที่ 17 ธันวา รัฐมนตรีภูมิธรรมก็ได้ออกมาบอกอีกรอบว่า 4 ลูกเรือประมงที่ถูกเมียนมาร์จับ คาดว่าจะได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 4 ม.ค. ซึ่งก็คือวันนี้ แต่จนเวลานี้ ทางลูกเรือไทยก็ยังไม่ได้รับการปล่อยตัวตามที่รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ภูมิธรรม เวชยชัย ได้กล่าวไว้ ซ้ำอีกครั้ง ผมได้แต่สงสัยว่ารัฐบาลไทยได้แสดงความตั้งใจจริงให้เราเห็นว่าได้พยายามอย่างเต็มที่แล้วจริงหรือไม่ในการเอาตัวคนไทยที่ถูกยิงด้วยเรือรบและจับตัวไปขึ้นศาลกลับมาให้ได้ เพราะเห็นเอาแต่พูดให้เชื่อมั่นในรัฐบาล แต่ผลก็อย่างที่เห็น คือครอบครัวของเขาต้องรอคอยต่อไป” สส.ระยองระบุ
นายชุติพงษ์ยังโพสต์ด้วยว่า คงต้องถามกันแล้วว่าเราจะเชื่อถือคำพูดอะไรของคนระดับรัฐมนตรีที่สื่อสารกับสังคมได้บ้าง เพราะนายภูมิธรรมเพิ่งออกมาอ้างว่าติดนั่นติดนี่ คนระดับรัฐมนตรีเสียคำพูดกับประชาชนซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือ อย่างน้อยรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็ควรมาชี้แจงว่าทำอะไรไปแล้วบ้าง กับคำว่า ”ทำเต็มที่“ เพื่อช่วยคนไทยทั้ง 4 ออกมา เพื่อให้ประชาชนเชื่อได้บ้าง เพราะอย่างน้อยประชาชนจะได้เห็นความจริงใจ และจริงจังจากผู้ที่มีหน้าที่ตรง มากกว่าการออกมาแก้ต่างไปเรื่อยๆแบบนี้ จนคนหมดความเชื่อถือในคำพูดของฝ่ายบริหาร