ยาเสพติดทะลัก-ต่างด้าวเกลื่อน-ชี้ไล่จับแก้ปลายเหตุ-ขอชี้แนะ สกัดแก้ที่ต้นตอ  

193


      หากจับกระแสดรามาในสื่อโซเซียล ทั้งสื่อกระแสหลักและสื่อที่คนมีมือถือผลิตตามแพลตฟอร์มต่างๆ ประเด็นแรงงานต่างด้าวและยาเสพติดทะลักเข้าถึงกลางเมืองหลวง ถูกนำเสนอค่อนข้างถี่

     ประเด็นแรงานต่างด้าวมีการนำเสนอว่าได้รุกคืบจากขายแรงงานกลายมาเป็นเจ้าของธุรกิจ กระจายตัวอยู่ทั้งในตลาดนัดเกือบทุกแห่งในประเทศรวมถึงศูนย์การค้าต่างๆ มีทั้งธุรกิจสีเทาและธุรกิจค้าขายรายย่อย รวมถึงแรงงานต่างด้าวเถื่อนที่ลักลอบเข้ามาทำงานตามโรงงานในนิคมอุสาหกรรมต่างๆทั่วประเทศ บ่อยครั้งที่ตำรวจบุกตรวจค้นจับกุม เจอแรงงานต่างด้าวทั้ง จีน พม่า ลาว เวียดนามและกัมพูชา นับร้อยชีวิต

        ประเด็นยาเสพติดจะนำเสนอว่าเห็นผลการจับกุมและยึดของกลางแล้วชวนผวา เพราะยึดได้จำนวนมาก อาทิ ยาบ้ายึดครั้งละเกือบ 10 ล้านเม็ด บางครั้ง 2-3 ล้านเม็ด ยาไอซ์ ยาเค หรือยาเสพติดชนิดต่างๆ ยึดได้ครั้งละหลายร้อยกิโลกรัมที่สำคัญสถานที่จับมีทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมถึงจังหวัดชายแดนใต้

        โดยสังคมตั้งคำถามว่าแรงงานต่างด้าวเถื่อนมีอยู่เกลื่อนเมือง และยาเสพติดกระจายอยู่เกือบทุกชุมชน ลักลอบเข้ามาได้อย่างไร ทำไมตำรวจไม่จับกุมดำเนินคดีปล่อยให้ลอยนวล แถมบางคนแอบประกอบธุรกิจอีกต่างหาก ถ้ามองอย่างเป็นธรรมจะพบว่าตำรวจไล่จับกุมอยู่เนืองๆ แต่เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะจับกุมดำเนินคดีแล้วผลักดันออกนอกประเทศ แรงงานเหล่านี้จะลักลอบกลับเข้ามาดังเดิม หลายครั้งที่จับกุมตรวจสอบประวัติพบว่าถูกจับมากุมแล้วแต่แอบลักลอบเข้ามาอีก

     ขณะที่ยาเสพติดมีการจับกุมอยู่บ่อยครั้ง แต่ยังลำเลียงเข้ามาจากชายแดนทั้งฝั่งชายแดนเมียนมา และลาว ยิ่งสถานการณ์ในเมียนมามีการสู้รบ กลุ่มที่ตั้งตัวเป็นอิสระไม่ขึ้นกับรัฐบาลเมียนมาย่อมต้องการเงินเพื่อซื้ออาวุธไว้ต่อกรกับทหารเมียนมา ยาเสพติดจึงกลายเป็นแหล่งที่มาของรายได้ที่สำคัญ เพราะผลิตง่ายโดยเฉพาะกลุ่มว้าแดงที่ยึดสามเหลี่ยมทองเป็นฐานที่มั่น

     ถ้ามองอย่างวิเคราะห์ถึงแนวทางการแก้ปัญหาให้บรรลุเป้าการสกัดกั้นไม่ให้เข้ามาถือเป็นแนวทางที่ดีที่สุด เพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นตอ ซึ่งบทบาทนี้กองทัพต้องถือธงนำขับเคลื่อนการแก้ปัญหา โดยเฉพาะกองทัพบกที่วางกำลังรักษาความปลอดภัยตลอดแนวชายแดนอยู่แล้ว จึงทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมถึงปล่อยให้ทั้งแรงงานต่างด้าวเถื่อนและยาเสพติดลักลอบเข้าประเทศได้ง่ายดายแถมทะลักเข้าถึงเมืองหลวงอีกต่างหาก อย่างกรณียาเสพติดลำเลียงเข้าด่านชายแดนติดกับเมียนมา และลำเลียงเข้าทางชายแดนลาวทั้งทางบกและทางน้ำ พื้นที่เหล่านี้อยู่ในความรับผิดชอบกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่ 3 ที่จัดกองกำลังต่างๆลาดตระเวนอยู่ตลอดเวลา แต่คาราวานลำเลียงยาเสพติดและขบวนลักลอบนำเข้าแรงงานเถื่อนกลับรอดหูรอดตาไปได้ อดสงสัยไม่ได้ว่ามีอะไรบังตาอยู่หรือไม่

        เพราะหากส่องถึงเส้นทางลำเลียงยาเสพติดและแรงงานต่างด้าวเถื่อน จะพบว่ากว่าจะเดินทางถึงชายแดนไทย ต้องผ่านภูเขาหลายลูกหรือผืนป่าที่เป็นเนินสูง ถ้ามีทหารรักษาการตามแนวชายแดนจริงสามารถที่จะสังเกตเห็นได้ง่าย หรือเมื่อผ่านมาชายแดนมาแล้วกว่าจะเดินถึงเส้นทางหลวงต้องผ่านพื้นที่ป่าเขาหรือหมู่บ้านที่อยู่ตามชายแดน ทหารที่รักษาชายแดนจะพบเห็นได้ไม่ยาก

     ยิ่งในช่วงที่รัฐบาลทั้งยุคนายเศรษฐา ทวีสิน และรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประกาศให้การปราบปรามยาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติ กองทัพต้องให้ความร่วมอย่างจริงจัง จัดกำลังลาดตระเวนแนวชายแดนตลอด 24 ชั่วโมงแบบเข้มข้น เชื่อว่าการลำเลียงยาเสพติดต้องหยุดชะงักแน่นอน แต่ในความเป็นจริงยาเสพติดกลับทะลักเข้าไทยอย่างสม่ำเสมอแถมทะลักถึงกลางเมืองหลวงอีกต่างหาก ผลการจับกุมของตำรวจหรือ ป.ป.ส.พอที่จะเป็นหลักฐานยืนยันได้เป็นอย่างดี หากกองทัพให้ความสำคัญกับนโยบายการปราบปรามยาเสพติดที่เป็นวาระแห่งชาติ ปรากฏการณ์จับยาเสพติดยึดของกลางได้หลายล้านเม็ดทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑลไม่ปรากฏให้เห็นอย่างแน่นอน


     ถ้านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อยากให้นโยบายปราบปรามยาเสพติดบรรลุเป้า ต้องสั่งการให้กองทัพบกตรึงแนวชายแดนแบบเข้มข้นตลอดเวลา 24 ชั่วโมงเพื่อสกัดไม่ขบวนคาราวานขนยาเสพติดรุกล้ำข้ามแดนเข้าไทยได้หากทำได้จริงโดยทหารทำอย่างเข้มแข็งไม่อ่อนข้อให้ขบวนการยาเสพติดข้ามชาติ ส่งผลดีกับประเทศชาติเพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นตอแถมช่วยสกัดแรงงานเถื่อนไปในตัวด้วย เท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว แต่ทุกวันนี้การแก้ปัญหาทั้งยาเสพติดและแรงงานต่างด้าวเถื่อน ด้วยการไล่ตามจับกุมจัดว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุแบบวัวพันหลัก

     ดังนั้นถ้ารัฐบาลอยากแก้ทั้งสองปัญหาอย่างจริงจังต้องวางกฎเข้มพร้อมคาดโทษแม่ทัพภาคที่คุมกำลังรักษาชายแดนหากบกพร่องจะถูกพิจารณาโทษ แต่เชื่อว่ารัฐบาลไม่กล้าใช้แนวทางเพราะทราบกันดีว่าไม่มีรัฐมนตรีคนไหนใจกล้าแหย่หนวดเสือ เพราะเพียงแค่จะเสนอกฎหมายปฏิรูปกองทัพยังพ่ายแบบหมดรูปแล้ว !!!