“ทักษิณ”ตัวเร่งปฏิกิริยา ส่งแกนนำต่างสีจูบปากดูดดื่ม”ชาวบ้าน-เหยื่อม็อบ”พึงทำใจ

108

          เสมือนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติเดือนส่งท้ายปีเก่าของสื่อสำนักต่างๆทั้งไทยและเทศต่างเฟ้นหาบุคคลที่ทรงอิทธิพลในประเทศนั้นๆเพื่อให้เป็นบุคคลแห่งปี สำหรับประเทศไทย”จอมมารน้อย”ขอยกให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พ่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นบุคคลแห่งปี

         นับแต่ที่นายทักษิณ เดินทางกลับมารับโทษติดคุกทิพย์ พร้อมกับเล่นบทผู้จัดการรัฐบาล น.ส.แพทองธาร แบบตัวจริงเสียงจริง ได้สร้างปรากฏการณ์ทางการเมืองให้กลุ่มการเมืองทุกกลุ่มหยิบประเด็นออกมาเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา ไล่ตั้งแต่พรรคร่วมรัฐบาล เมื่อนายทักษิณ ประกาศกลางวงสัมมนาพรรคเพื่อไทยที่หัวหินว่าเป็นรัฐบาลต้องร่วมมือร่วมใจกันไปไหนไปกัน หากไม่ไปด้วยกันก็ออกไป แม้ไม่ระบุชื่อพรรค แต่พรรคร่วมรัฐบาลต่างอยู่ในอาการขี้หดตดหาย ออกมาปฏิเสธกันพัลวันว่าไม่ใช่พรรคตัวเอง เพราะกลัวจะถูกเขี่ยออก ขณะเดียวกันขาประจำที่ไม่ชอบนายทักษิณ แม้เวลาผ่านไปเกือบ 20 ปี ความชังยังคงเส้นคงวานัดรวมตัวกันจุดประเด็นก่อกระแสหวังลงถนนไล่รัฐบาล โดยใช้ประเด็นนายทักษิณครอบงำรัฐบาลและเป็นอภิสิทธิ์ชนที่ต้องโทษแบบไม่ต้องนอนคุกแม้แต่วันเดียว

          หากจับความเคลื่อนไหวกลุ่มที่ไม่ชอบนายทักษิณ ประเดิมที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำม็อบพันธมิตรฯพร้อมมวลชน บุกทำเนียบรัฐบาล ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเรียกร้องให้ยกเลิกMOU 44 และ JC 44 ขีดเส้น 15 วัน จะกลับมาทวงคำตอบ พร้อมลงถนนและประกาศว่าการต่อสู้ครั้งนี้ต้องชนะลูกเดียว ตามด้วยความเคลื่อนไหวของ อดีตแกนนำม็อบทั้งกลุ่มเสื้อเหลือง เสื้อแดง และกลุ่ม กปปส. บางส่วนนัดกินข้าวกันโดยบอกว่าคุยตามประสาผู้ห่วงใยบ้านเมือง

       ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำ นปช. นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. พร้อมเครือข่ายพันธมิตรและ กปปส.กว่า 100 คน ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ให้เร่งรัดพิจารณาข้อกล่าวหา นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกรณีส่งนายทักษิณ จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยมิชอบ

     หากย้อนถึงความสัมพันธ์ถึงกลุ่มคนเหล่านี้เสมือนยืนอยู่บนเส้นขนาน ช่วงที่นำม็อบต่อสู้กันใช้โวหารโจมตีแบบสาดเสียเทเสีย กล่าวหากันว่าเป็นทาสรับใช้  สุนัขรับใช้ หากเป็นคนปกติทั่วไปบอกได้คำเดียวว่าคบกันไม่ได้แล้ว แต่เมื่อมีผลประโยชน์ร่วมกันสามารถหันมาจูบปากกันได้อย่างดูดดื่มโดยมีนายทักษิณ ตัวเร่งปฏิกิริยาให้มารวมกันได้แบบไม่ตะขิดตะขวงใจ

     ที่”จอมมารน้อย”ยกมาเขียนถึงไม่ได้มีอคติแต่อย่างใด เพราะมองว่าเป็นเกมการเมืองที่แต่ละกลุ่มจะต่อสู้กัน จะมีผลประโยชน์อะไรแอบแฝงอยู่หรือไม่วิญญูชนต่างรู้ดี เพราะแต่ละครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองกลุ่มบุคคลเหล่านี้ต่างเสวยสุขกันอย่างทั่วหน้า

     แต่ที่เขียนถึงเพียงเพื่อจะสื่อถึงประชาชนทั่วไปว่าเมื่อเกมชิงอำนาจเกิดขึ้นมีการระดมม็อบออกมาเคลื่อนไหวกดดัน ก่อนที่จะเข้าร่วมควรพิจารณาตรึกตรองให้ถ่องแท้ว่าควรจะเข้าร่วมหรือไม่ เพราะมีบทเรียนให้เห็นแล้วว่าเมื่อช่วงวิกฤตหรือล้อมปราบประชาชนที่มาร่วมม็อบคือเหยื่อที่ถูกเซนสังเวย มีทั้งบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งบทเรียนจากการปะทะไม่ว่าจะเป็นประชาชนที่ถือหางเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดงหรือกลุ่ม กปปส.ถึงบทสรุปสุดท้าย หลายครอบครัวต้องสูญเสียสมาชิกไปแบบไม่มีวันกลับ บ้างก็อยู่ในสภาพพิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ บ้างก็ติดคุก

     แต่แกนนำม็อบกลับมานั่งเสวยสุข ได้รับผลตอบแทนเป็นสมาชิกวุฒิสภา เป็นเสนาบดี หรือตำแหน่งอื่นๆในรัฐบาล แม้แต่รัฐบาลปัจจุบันแกนนำม็อบที่เคยยืนอยู่คนละฝังยังนั่งเป็นรัฐมนตรีแบบสบายใจเฉิบ ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่านายกรัฐมนตรีคือลูกสาวนายทักษิณ

     จากบริบทที่ยกมาคงต้องบอกประชาชนทั่วไป รวมถึงญาติของเหยื่อม็อบที่เสียชีวิต พิการและติดคุก ทำได้เพียงอย่างเดียวคือทำใจ หากแกนนำม็อบเหล่านั้นชักชวนให้ลงถนนโดยอ้างว่าต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของประเทศจงคิดให้หนักก่อนที่จะเข้าร่วม

      แต่ถ้าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองจริงๆ โดยที่ไม่ต้องแลกด้วยเสียชีวิตและเลือดเนื้อนั่นคือการใช้ปากกาเป็นอาวุธเดินเข้าคูหาเลือกตั้งกาเลือกคนที่ใช่ แม้จะต้องรอเวลาถือว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด !!!