รมว.อว.ซาบซึ้งใจการทำความดีด้วยหัวใจของจิตอาสา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี-มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา และมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ในการบรรเทาทุกข์ประชาชนจังหวัดชายแดนใต้ที่ประสบวิกฤตอุทกภัยครั้งรุนแรง ด้วยความรวดเร็วฉับไว พร้อมกับยืนยันผลักดันการใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มสู้ภัยพิบัติให้ครอบคลุมตั้งแต่ระดับท้องถิ่นท้องที่ ขึ้นไปถึงระดับชาติ
นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) นำคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้านที่ประสบวิกฤตอุทกภัย จังหวัดชายแดนใต้ พร้อมกับ แสดงความชื่นชมความเสียสละ ในการปฏิบัติงานของคณาจารย์ นักวิจัย นักศึกษา ตลอดจนบุคลากร 3 มหาวิทยาลัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา และ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ โดยกล่าวว่าพลังความรู้จากงานวิจัยของคณาจารย์ นักวิจัย ตลอดจนขุมพลังของบุคลากรทั้ง 3 มหาวิทยาลัยกว่า 3 หมื่นคน ที่เชื่อมโยงกับพลังภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในพื้นที่ ภายใต้การจัดการอย่างเป็นระบบ ตามองค์ประกอบในแพลตฟอร์มสู้ภัยพิบัติ ที่ถูกยกระดับจากแพลตฟอร์มแก้ปัญหาความยากจนลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งทั้ง 3 มหาวิทยาลัยได้ร่วมมือกับหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) กระทรวง อว. ทำการศึกษาวิจัยและพัฒนาขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบวิกฤตอุทกภัยครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ได้รับการบำบัด บรรเทาในเวลาอันรวดเร็ว และได้รับการฟื้นฟูเยียวยาอย่างฉับไว
“กระทรวง อว. อยากผลักดันให้ความสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้ มีความก้าวหน้า และยั่งยืน โดยจะให้การสนับสนุนให้ขยายขอบเขตการใช้ประโยชน์แพลตฟอร์มสู้ภัยพิบัติ ครอบคลุมทุกระดับ ทั้งระดับชุมชน ระดับจังหวัด ระดับลุ่มน้ำ ระดับส่วนกลาง ขณะเดียวกันก็จะให้การสนับสนุนมหาวิทยาลัยในพื้นที่เชื่อมโยงกลไกภาคี และหน่วยปฏิบัติการจัดการภัยพิบัติในพื้นที่ รวมทั้งเชื่อมโยงความรู้ท้องถิ่นกับความรู้สากล เพื่อนำไปสู่การจัดการภัยพิบัติ ตามบริบทเฉพาะของแต่ละพื้นที่ โดยสนับสนุนให้ บพท.เป็นหน่วยบูรณาการเชื่อมโยงการทำงาน และร่วมมือกับหน่วยปฏิบัติการด้านภัยพิบัติระดับต่างๆ เพื่อให้เกิดกลไกการทำงานระดับชุมชน เชื่อมโยงกับระดับจังหวัด และนโยบายระดับชาติ”
ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการ บพท.กล่าวว่า ผลสัมฤทธิ์ความสำเร็จในการบรรเทาทุกข์ และฟื้นฟูเยียวยาแก่ประชาชนที่ประสบวิกฤตอุทกภัยจังหวัดชายแดนใต้ ที่เป็นไปด้วยความรวดเร็ว ฉับไว คือดอกผลจากการยกระดับงานวิจัยแก้ปัญหาความยากจนแบบเบ็ดเสร็จแม่นยำ ไปสู่แพลตฟอร์มสู้ภัยพิบัติ หรือ Disaster Platform แล้วบูรณาการเข้าด้วยกัน เชื่อมโยงกับพลังข้อมูล พลังภาคีเครือข่ายในพื้นที่ โดยมีประชาชนผู้ประสบภัยเป็นศูนย์กลาง สืบสานพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลปัจจุบันว่าด้วย “จิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ”
“กระบวนการขับเคลื่อนกลไกแพลตฟอร์มสู้ภัยพิบัติ ในการบรรเทาทุกข์ให้ประชาชนจากวิกฤตอุทกภัยจังหวัดชายแดนใต้ของ 3 มหาวิทยาลัย มุ่งเน้นความสอดคล้องกับเงื่อนไข ข้อจำกัดของแต่ละพื้นที่ โดยมี ผศ.ดร.อรุณี บัวเนี่ยว และ ผศ.ดร.สมพร ช่วยอารีย์ เป็นหัวหน้าชุดรับผิดชอบพื้นที่จังหวัดปัตตานี ผศ.ดร.เกสรี ลัดเลีย เป็นหัวหน้าชุดรับผิดชอบพื้นที่จังหวัดยะลา และ รศ.ดร.วสันต์ พลาศัย เป็นหัวหน้าชุดรับผิดชอบพื้นที่จังหวัดนราธิวาส”
ผู้อำนวยการ บพท.ชี้แจงต่อไปว่าบุคลากรทั้ง 3 มหาวิทยาลัย ล้วนทำตัวเป็นอาสาสมัครบรรเทาทุกข์ประชาชนด้วยหัวใจ โดยใช้ศักยภาพที่มีอยู่อย่างเต็มที่ ทั้งในการแปลงอาคารสถานที่ของมหาวิทยาลัยเป็นศูนย์พักพิง ที่มีขีดความสามารถในการให้บริการด้านสูติกรรม และบริบาลผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง รวมทั้งเป็นโรงครัวจัดทำอาหารปรุงสุก แจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย ควบคู่ไปกับหน่วยบริการเคลื่อนที่ในการซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้า ยานพาหนะ ที่เสียหายจากน้ำท่วม รวมทั้งหน่วยบริการเคลื่อนที่ด้านสัตวบาล และด้านสาธารณสุข