ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังโรคไม่ทราบสาเหตุที่ระบาดใน “ดีอาร์คองโก” อย่างใกล้ชิด ภายหลังมีรายงานผู้เสียชีวิต 143 ราย ผู้ป่วยมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้สูง ปวดศีรษะมาก ซึ่งองค์การอนามัยโลกและสาธารณสุขดีอาร์คองโกอยู่ระหว่างสอบสวนหาสาเหตุและมาตรการควบคุมโรค ย้ำความมั่นใจด่านควบคุมโรคของไทยมีมาตรการควบคุมป้องกันโรคเข้มแข็ง
วันนี้ (6 ธันวาคม 2567) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีมีรายงานข่าวพบโรคไม่ทราบสาเหตุระบาดในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (ดีอาร์คองโก) ในแถบแอฟริกากลาง ทำให้มีผู้เสียชีวิตนับร้อยราย ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้มีการติดตามสถานการณ์โรคไม่ทราบสาเหตุที่มีการระบาดดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เบื้องต้นทราบว่า การระบาดเกิดในจังหวัดกวังโก เมืองชนบทซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของดีอาร์คองโก ห่างเมืองหลวง 400 ไมล์ ผู้ป่วยมีอาการระบบทางเดินหายใจคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น ไข้สูง ปวดศีรษะมาก มีน้ำมูก หายใจลำบาก โดยตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 ถึงปัจจุบัน พบผู้ป่วยแล้ว 376 ราย และในจำนวนนี้เสียชีวิต 143 ราย เป็นผู้ป่วยเด็กเล็กประมาณครึ่งหนึ่ง ซึ่งหน่วยงานสาธารณสุขของดีอาร์คองโกได้ออกคำแนะนำให้ประชาชนระมัดระวังและงดการสัมผัสกับร่างผู้เสียชีวิตเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ และส่งทีมแพทย์ไปจุดที่มีการระบาดซึ่งเป็นพื้นที่ชนบท เพื่อเก็บตัวอย่างส่งตรวจวิเคราะห์หาสาเหตุของโรค โดยขณะนี้องค์การอนามัยโลก (WHO) กำลังร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขของดีอาร์คองโก เพื่อสอบสวนหาสาเหตุและออกคำแนะนำมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด
“ในส่วนของประเทศไทย ถือว่ามีความเสี่ยงต่ำจากโรคที่ยังไม่ทราบสาเหตุนี้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศที่เป็นด่านแรกในการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ซึ่งตามปกติมีมาตรการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากประเทศดีอาร์คองโกก่อนที่จะเข้าประเทศไทยอยู่แล้ว เนื่องจากเป็น 1 ใน 42 ประเทศที่ประกาศเป็นเขตติดโรคไข้เหลือง” นพ.โอภาสกล่าว