วันที่ 24 พฤศจิกายน 2567 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการเดินทางไปดูงานที่ประเทศเดนมาร์ก และประเทศสวีเดน ว่า เมื่อคณะเดินทางมาถึงที่ประเทศเดนมาร์ก ได้เข้าพบกับผู้นำของสภาอุตสาหกรรมของประเทศเดนมาร์ก พร้อมเจ้าหน้าที่จากสถานทูตไทย ในประเทศเดนมาร์กเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ ทางด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และทางด้านพลังงานทางเลือกหรือพลังงานสะอาด ซึ่งต้องการร่วมมือกันผลักดันให้เกิดขึ้น เพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งทางสภาอุตสาหกรรมของประเทศเดนมาร์กนั้น ก็ได้ให้ความสนใจ ที่จะเพิ่มการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่
นายอัครเดช กล่าวว่า กมธ.อุตสาหกรรม ยินดีที่จะร่วมมือกับสถานทูตไทย ณ กรุงโคเปนเฮเกน เชิญสภาอุตสาหกรรมของประเทศเดนมาร์ก ให้เดินทางมา สัมมนาและประชุมทางด้านอุตสาหกรรมการแพทย์ร่วมกันอีกครั้งที่ประเทศไทย เพื่อยกระดับความร่วมมือให้เห็นผลเป็นรูปธรรม และพัฒนาอุตสาหกรรมการแพทย์ของไทยทางด้าน AI ให้มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วอีกด้วย
ทั้งนี้ เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจที่ประเทศเดนมาร์กแล้ว นายอัครเดช และคณะกรรมาธิการ ได้เดินทางต่อไปยังประเทศสวีเดน ซึ่งการเดินทางเยือนในครั้งนี้ ก็เพื่อพบปะกับผู้บริหารของสองบริษัทยักษ์ใหญ่ นั่นก็คือ AB Tetra Pak ซึ่งเป็นบริษัทระดับโลก ที่ผลิตเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตอาหาร รวมทั้งภาชนะหีบห่อต่างๆ ที่ใช้บรรจุอาหาร ซึ่งนายอัครเดช ก็ได้กล่าวว่า จากการประชุมหารือร่วมกันนั้น ปรากฏว่า ทางกรรมการผู้จัดการ ของ AB Tetra Pak มีความสนใจที่จะขยายการลงทุนเพิ่มเติมที่ประเทศไทย อีกทั้ง ทั้ง 2 ฝ่ายยังมีแนวคิดที่จะส่งเสริมและพัฒนา SMEs ของไทยที่เกี่ยวข้องกับอาหาร โดยจะส่งเสริมทางด้านการวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อต่อยอดความร่วมมือทางด้านอุตสาหกรรมอาหารร่วมกัน
นอกจากนี้ นายอัครเดช ก็ยังได้เข้าพบประธานบริษัท ENVAC บริษัทชั้นนำของโลกในการกำจัดขยะทางท่อทดแทนการขนส่งทางรถบรรทุกขยะ โดยนายอัครเดช กล่าวว่า ได้เชิญ ENVAC ให้มาลงทุนที่ประเทศไทย เพื่อมาดำเนินการกำจัดขยะโดยใช้ระบบท่อลำเลียงขยะซึ่งเป็นเทคโนโลยีแบบใหม่ เพื่อให้การกำจัดขยะนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยที่อาศัยอยู่ในเขตที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น เนื่องจากการลำเลียงขยะโดยระบบท่อลำเลียงจะเป็นการลดมลภาวะและลดการจราจรติดขัดจากรถบรรทุกขยะ ซึ่งทั้ง 3 หน่วยงานที่กรรมาธิการอุตสาหกรรมฯไปพบปะหารือ จะเป็นการส่งเสริมการลงทุน และพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ทำให้เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยในภาพรวมอีกด้วย