ถลุงงบฯ 5 แสนล้านแก้ไฟใต้เหลว เชื่อรัฐเลี้ยงไข้-หาประโยชน์ ? คนพุทธถูกกดดันทิ้งถิ่นหนีตาย (ตอน1)

519


        ช่วงเดือนตุลาคมเดินทางกลับไปทำบุญสารทเดือนสิบ เพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับญาติพี่น้องบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ ที่ จ.ยะลา ได้ยินได้ฟังทั้งจากญาติ คนรู้จัก รวมถึงข้าราชการและอดีตข้าราชการบ่นให้ฟังถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่

        พอประมวลได้ว่าเป็นเสียงที่บ่นมาเกือบ 20 ปีแล้วเนื้อหาแทบจะไม่ผิดเพี้ยนเลยและมีหลากหลายประเด็นแต่สรุปสุดท้ายทั้งพุทธและมุสลิมเห็นตรงกันว่าถ้ารัฐบาลมีความจริงใจแก้ปัญหาสงบไปนานแล้ว แต่ที่ไม่สงบเพราะผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเลี้ยงไข้ไว้แสวงหาผลประโยชน์ใช้ความเป็นความตายของคนในพื้นที่เป็นเครื่องมือ

     “จอมมารน้อย”ฟังแล้วรู้สึกเฉยๆเพราะฟังซ้ำๆมานาน เลยไม่อยู่ในความคิดที่จะนำเสนอแต่เช้าวันที่ 20 พฤศจิกายน เปิดโทรศัพท์อ่านข่าวออนไลน์เจอพาดหัวป่วนใต้ เผา บึ้ม ยะลา ปัตตานี สงขลา กว่า 10 จุด จึงอยากเขียนถึงอีกครั้ง ขอลำดับสถานการณ์ดังนี้

     จ.ยะลา คนร้ายพ่นสีสเปรย์ข้อความสีแดงภาษาอังกฤษว่า Patani merdeka(ปัตตานีอิสระ)บริเณป้ายโรงเรียนบ้านเตาปูน(ธนาคารกรุงเทพ) บ้านเงาะกะโปร์ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา และ คนร้ายเผากล้องวงจรปิดหลายจุด เวลา 04.05 น.วางเพลิงตู้ส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ บริเวณหมู่ที่ 4 ต.ท่าสาป อ.เมือง ถัดมาเวลา 04.20 น.วางเพลิงเสาไฟฟ้า พื้นที่หมู่ 5 ต.สะเตงนอก อ.เมือง ห่างกัน 10 นาที เผายางรถยนต์วงเวียนบ่อเจ็ดลูก ต.ยุโป ก่อนเข้าเมืองยะลา เวลา 05.00 น.วางเพลิงเสาไฟฟ้า หมู่ 2 ต.กาลูปัง อ.รามัน ถัดมา 05.10 น.เผากล้องซีซีทีวี 1 จุด หน้ามัสยิดอัลมูบารัก หมู่ 3  ต.โกตาบารู อ.รามัน เวลา 06.30 น.เผากล้องซีซีทีวี 1 จุด บริเวณหน้าโรงเรียนบิสตารีวิทยา บ้านบ่อหิน ต.บ้านแหรอ.ธารโต

  จ.ปัตตานี เวลา 04.55 น.คนร้ายเผายางรถยนต์ บริเวณถนนหมายเลข 4157 บ้านบางมะรวด ต.บ้านกลาง และเผายางรถยนต์ บ้านนาพร้าวต.ปะนาแระ จ.ปัตตานี

  จ.สงขลา เวลา 06.00น. คนร้ายใช้ปืนเอ็ม 79 ยิงถล่มแคมป์คนงานก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิม บ้านปากบาง ต.สะกอม อ.เทพา คนงานบาดเจ็บ 3 คน รถยนต์เสียหาย ทิ้งจดหมายข่มขู่เขียนเป็นภาษาไทยและเมียนมาว่า”ถ้าใครที่ทำงานในโครงการนี้และในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เราขอเตือนจงหยุดไม่งั้นเราจะไม่รับรองชีวิตของท่าน” ถัดมาเวลา 10.30น.เกิดเหตุระเบิดถนนชายป่าสวนยาง ทางเข้าแคมป์คนงาน อยู่ห่างประมาณ  100 เมตร ต่อมาเวลา 1046 น.ลูกที่สองระเบิดขึ้น

   ซึ่งการก่อเหตุพร้อมกันหลายพื้นที่ยังเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นยุคเผด็จทหารครองเมืองทั้งช่วงของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้เหตุความไม่สงบในพื้นที่3จังหวัดชายแดนใต้เป็นเงื่อนไขรวมอยู่ด้วยเสมอ หลังยึดอำนาจทำทีขยันปรับยุทธวิธีแก้ปัญหาด้วยการเพิ่มหน่วยงานขึ้นมาทั้งส่วนกลางและในพื้นที่และเพิ่มงบประมาณ แต่เหลวไปเป็นท่า แม้แต่รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งต่างแก้ปัญหาแบบลูบหน้าจมูก

      “จากปรากฏการณ์ดังกล่าวสร้างความรู้สึกให้คนในพื้นที่เกิดความรู้สึกว่านี่คือการเลี้ยงไข้ เพราะเวลาทอดยาวมากว่า 20 ปี เหตุความไม่สงบยังเกิดอย่างต่อเนื่อง “

    ชาวบ้านในยะลาเล่าให้ฟังว่าพอเกิดเหตุความไม่สงบแต่ละครั้ง ต่างตั้งข้อสังเกตกันว่าถ้ามีคนเจ็บหรือตายให้มองว่ากลุ่มโจรใต้ สร้างสถานการณ์เพื่อโชว์ศักยภาพให้แนวร่วมในพื้นที่รวมถึงชาวบ้านได้เกรงกลัว เพื่อเรียกค่าคุ้มครอง ถ้าเหตุการณ์ไหนเกิดห่างชุมชนไม่มีคนเจ็บหรือตายจะสันนิษฐานว่าเป็นฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐบางกลุ่มสร้างสถานการณ์ไม่อยากให้พื้นที่สงบเพื่องบประมาณจะเทลงมา ชาวบ้านมองว่านี่คือการเลี้ยงไข้

  “จากที่เหตุสร้างสถานการณ์ส่งผลให้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างจากภาครัฐ ถูกผูกขาดอยู่ในมือของกลุ่มธุรกิจเพียงไม่กี่กลุ่ม แต่ละกลุ่มล้วนใกล้ชิดกับ บิ๊กหทาร บิ๊กมหาดไทย บิ๊กตำรวจ บิ๊กรัฐบาลและบิ๊กในศอ.บต. บางปีบิ๊กในมหาดไทยเลี้ยงเกษียณอายุยังบินตรงให้กลุ่มทุนนี้เลี้ยงฉลองถึงนราธิวาส เพราะได้ขวัญถุงแบบจัดหนัก”อดีตข้าราชการที่รับราชการในพื้นที่จนเกษียณสะท้อนให้ฟังและว่า ราคารับเหมาก่อสร้างของภาครัฐในพื้นที่จะสูงเป็นพิเศษเพราะเงินทอนสูง แต่กำไรยังอื้อซ่า ข้าราชการบางคนมาเป็นใหญ่ในพื้นที่หาประโยชน์ได้อย่างมหาศาลถึงขั้นมีทุนลงสมัคร สส.และเป็นแกนนำพรรค

   ขณะที่อดีตข้าราชการเกษตรเล่าว่า เงินทอนมีอยู่ในทุกภาคส่วนของรัฐ แม้แต่ซื้อพันธุ์ไม้ พันธุ์สัตว์ ตามโครงการสร้างอาชีพ ยังถูกบิ๊กในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สั่งการว่าต้องล็อกไว้ให้บริษัทนี้ พอเปรียบเทียบราคาพบว่าสูงกว่าบริษัททั่วไปเกือบสองเท่าแต่อ้างว่าเป็นค่าความเสี่ยงแถมคุณภาพด้อยกว่า ชาวบ้านนำไปปลูกหรือเลี้ยงมีโอกาสรอดไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์

   “นอกจากนี้พื้นที่ห่างไกลเขตเมืองคนไทยพุทธต่างขายบ้านที่ดิน สวนผลไม้ ทิ้งถิ่นอพยพหนีไปอยู่จังหวัดตอนบน ถ้าเป็นพ่อค้าเขตเมืองจะส่งลูกหลานไปเรียนหนังสือที่สงขลา ซื้อบ้านจัดสรรย่านสนามบินหาดใหญ่พักอาศัยอยู่จำนวนมาก หลายตำบลหลายหมู่บ้านไร้คนพุทธอาศัยแล้ว”อดีตข้าราชการคนเดิมระบุ


ซึ่งปัญหาเหล่านี้ชาวบ้านต่างรับรู้รับทราบจากความรู้สึกที่หวาดกลัว กลายมาเป็นความรู้สึกที่ชินชา เนื่องจากไม่ได้คาดหวังว่ารัฐบาลหรือบิ๊กข้าราชการที่เกี่ยวข้องจะให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาแบบจริงจัง เพราะตลอดเวลากว่า 20 ปี เหตุความไม่สงบยังเกิดอย่างต่อเนื่องแถมการตั้งทีมเจรจาดูเหมือนจะทำกันหลอกๆเพื่อถลุงงบประมาณมากกว่า เพราะผลการเจรจาไร้ความคืบหน้า ที่สำคัญไม่แน่ใจว่าทีมเจรจานั้นมีข้อมูลเพียงพอหรือไม่ว่าโจรใต้มีกี่กลุ่มและกลุ่มไหนใหญ่สุด ถ้ารู้คงไม่ล้มเหลวจนถึงทุกวันนี้ ด้วยงบประมาณที่เป็นภาษีของคนทั่งประเทศถูกเทลงไปถึง 5 แสนล้านดูเหมือนจะสุญเปล่า !!!

  ตอนต่อไปจะเฉลยว่าทำไมงบประมาณฯ ทำไมข้าราชการบางหน่วยถึงอยากทำงานในพื้นที่และประเด็นความเข้มการรักษาความปลอดภัย