“หนุ่ม กรรชัย” ลั่น ตัดสัมพันธ์ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยันดำเนินคดีถึงที่สุด งดเคลียร์ ซัดเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี ชี้เรื่องนี้ไม่ต้องเตือน ให้ย้อนหลับไปดูที่บ้านได้สั่งสอนหรือไม่
วานนี้ (14 พ.ย.67) ที่กองบังคับการปราบปราม นายภูดิท กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม กรรชัย เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อพงส.กก.1 บก.ป. กรณีที่มีคลิปเสียง น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ และนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม รัฐภูมิ มีการแอบอ้างชื่อหนุ่มกรรชัยและรายการโหนกระแส เรียกรับเงินจาก น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือ บอสปัน จำนวน 20 ล้านบาท เพื่อแลกกับการให้นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ได้ไปออกรายการ
หนุ่ม กรรชัย กล่าวว่า ตนมาให้ปากคำในกรณีที่มีคลิปเสียงของฟิล์ม รัฐภูมิ และน.ส.กฤษอนงค์ ที่มีการพูดคุยกันกับบอสปัน โดยมีการกล่าวอ้างพาดพิงชื่อตนในการเรียกรับเงิน 20 ล้านบาท เพื่อที่จะไปออกรายการโหนกระแส โดยใช้ถ้อยคำประมาณว่าสามารถที่จะเขียนบทหรือเขียนสคริปต์รายการให้ทางบอสพอลได้ หากบอสพอลมาออกรายการ และยังมีการกล่าวอ้างอีกว่าตนเปิดทางให้แล้ว และก็สามารถชี้ผิดให้เป็นถูกได้ ซึ่งทุกสิ่งที่ได้มีการพูดออกไปในคลิปเสียงนั้น เป็นการหมิ่นประมาทตน และโกหกหลอกลวงคนอื่นเพื่อกรรโชกทรัพย์ เบื้องต้น ได้แจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทก่อน แต่หากกฎหมายจะสามารถเอาผิดในเรื่องใดได้บ้างตนจะดำเนินการในทุกเรื่อง และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดไม่มีการยอมความ ไกล่เกลี่ยหรือเจรจา เพราะตนไม่ใช่นักเคลียร์ ไม่ต้องมาเคลียร์กับตน
นอกจากคลิปเสียงที่เรียกรับเงินกับบอสปันแล้ว ยังมีคลิปเสียงที่มีการกล่าวอ้างถึงรัฐมนตรีท่านหนึ่งด้วย ในวันนี้ได้มีการนำมามอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่นั้น ในส่วนนี้ ต้องให้ทางรัฐมนตรีคนดังกล่าวเป็นคนดำเนินการเอง ส่วนตัวได้มีการส่งคลิปให้กับท่านรัฐมนตรีแล้ว และยืนยันว่าภายหลังจากที่มีการดำเนินการเข้าแจ้งความแล้วตนไม่ได้ติดต่อกับทางตัวฟิล์มรัฐภูมิแต่อย่างใด แต่ก่อนแจ้วความ 1 วัน ตนได้โทรศัพท์หาฟิล์มไปแล้วถึง 3 ครั้ง เพื่อถามข้อเท็จจริง แต่ทางด้านฟิล์มยืนยันว่าไม่ได้กระทำ และเป็นคลิปตัดต่อ ซึ่งขณะที่โทรหาฟิล์มยังหวังให้ตัวฟิล์มพูดความจริง และหากเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นผู้กระทำจริง ตนจะไม่มีการเผยแพร่คลิปที่มีความยาวถึง 29 นาทีที่มีอยู่ในมือ และจะให้โอกาสเจ้าตัวได้ออกมาชี้แจงกับสังคม แต่เมื่อเจ้าตัวไม่ยอมรับ ตนจึงตัดสินใจวางสายและตัดขาดความสัมพันธ์พี่น้องในทันที และโทรหาทนายความส่วนตัวเพื่อดำเนินการเข้าแจ้งความเอาผิด ทั้งนี้ตนยังฝากข้อความสุดท้ายกับฟิล์มไว้ว่า หากมีอะไรเกิดขึ้นต้องรับผิดชอบเองทั้งหมด
และสิ่งที่น.ส.กฤษอนงค์ กล่าวอ้างว่า ไม่ใช่การกรรโชกทรัพย์แต่เป็นการ เสนอแนวทางการแก้ปัญหาเพื่อการแก้ภาพรวมทั้งหมดของธุรกิจนั้น ฟังขึ้นหรือไม่ ต้องถามว่าทางน.ส.กฤษอนงค์ ตีความคำว่ากรรโชกทรัพย์ว่าอย่างไร เพราะจากที่ตนฟัง การที่ไปบอกว่าหากไม่ทำแบบนี้ ตนจะชี้ผิดชี้ถูก ซวยเลยนะ ตนรู้สึกว่าวิธีการดังกล่าวไม่แฟร์และไม่ถูกต้อง
ทั้งนี้ ตนอยากให้ทุกคนที่ถูกบุคคลเหล่านี้กระทำดังกล่าว ให้ออกมาร้องทุกข์เพิ่มได้เลยไม่ต้องอาย อย่าปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในสังคม สำหรับเรื่องเรียกค่าเสียหายนั้น สำหรับตนเชื่อว่าชื่อเสียงที่เสียไป ไม่ใช่แค่ตัวเลข 20 ล้านบาท เพราะตนทำงานมานาน และมีมูลค่ามากกว่านั้น หากจะเรียกก็จะเรียกมากกว่า 20 ล้านบาท