“กรมลดโลกร้อน” ปลื้ม!! โครงการสร้างภูมิคุ้มกันอากาศเปลี่ยนฯ สำเร็จ เตรียมขยายคลุม 18 จ.ชายฝั่งอ่าวไทย

499

วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม เวลา 09.10 น. นายพิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (กรมโลกร้อน) เป็นประธานพิธีปิด “โครงการการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ทางทะเลและชายฝั่งตามแนวอ่าวไทย” แสดงผลสำเร็จโครงการฯ สร้างความร่วมมือ เพิ่มความสามารถในการปรับตัวและความยืดหยุ่นต่อสภาพภูมิอากาศ พร้อมขยายผลความสำเร็จ Best practices 4 จังหวัดนำร่อง สู่ 18 จังหวัดตามแนวชายฝั่งอ่าวไทย โดยมี พร้อมด้วย Ms. Irina Goryunova รองผู้แทนประจำโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ประจำประเทศไทย และ ผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรระหว่างประเทศ เข้าร่วมงาน ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ (รางน้ำ) กรุงเทพมหานคร

นายพิรุณ กล่าวว่า จากรายงาน Global Climate Risk Index ของ German watch ในปี 2565 พบว่า ประเทศไทยมีความเสี่ยงภัยต่อการได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศ อันดับที่ 9 ของโลก โดยผลกระทบนี้สะท้อนให้เห็นถึงความถี่และความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นของน้ำท่วม พายุ และคลื่นความร้อน ทำให้ความเสี่ยงและความเปราะบางของทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ทางทะเลและชายฝั่งมีความรุนแรงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะระบบนิเวศแนวปะการัง ป่าชายเลน และหญ้าทะเล ซึ่งงกิจกรรมทางเศรษฐกิจของชุมชนชายฝั่งที่พึ่งพิงฐานทรัพยากรเพื่อการเกษตรกรรม ประมง และท่องเที่ยว จะทำให้ความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบเพิ่มมากขึ้น

ด้วยชายฝั่งทะเลอ่าวไทย มีความยาวประมาณ 3,148 กทม. ครอบคลุมพื้นที่ 18 จังหวัด จึงเป็นพื้นที่เป้าหมายที่จะต้องเสริมสร้างศักยภาพด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสร้างการมีภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน ซึ่งกระทรวงทรัพยฯ โดยกรมลดโลกร้อน และ ทช. รวมทั้งหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมมือกับ UNDP ดำเนิน “โครงการการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ทางทะเลและชายฝั่งตามแนวอ่าวไทย” โดย ได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนภูมิอากาศสีเขียว Green Climate Fund (GCF) จำนวนเงิน 3,000,000 ดอลลาร์สหรัฐ ใน 4 พื้นที่นำร่อง ได้แก่ จังหวัดระยอง จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสงขลา และจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งแต่ปี 2563 – 2567

​อธิบดีกรมลดโลกร้อน กล่าวว่า ผลสัมฤทธิ์จากโครงการดังกล่าวได้แก่ 1) ข้อมูลความเสี่ยงระดับพื้นที่บริเวณพื้นที่ชายฝั่งอ่าวไทยในจังหวัดนำร่อง 4 จังหวัด 2) การพัฒนาขีดความสามารถและองค์ความรู้ให้กับหน่วยงานระดับจังหวัดและระดับท้องถิ่น เพื่อจัดทำแผนการปรับตัว ฯ ที่สอดคล้องกับความเสี่ยงในพื้นที่ 3) มาตรการทางเลือกที่ใช้ในกระบวนการปรับตัว เช่น ธนาคารสัตว์น้ำ ซั้งปลา กำแพงกั้นคลื่น เพื่อให้หน่วยงานระดับพื้นที่ทราบถึงความต้องการการสนับสนุน 4) การพัฒนาตัวชี้วัดด้านการปรับตัวฯ สําหรับภาคการท่องเที่ยว การเกษตร การประมง และทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อการบูรณาการสู่แผนพัฒนาจังหวัด 5) แพลตฟอร์มการบริหารจัดการข้อมูลข่าวสารและระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ 6) กลยุทธ์การจัดหาเงินทุนสำหรับการปรับตัวฯ ในพื้นที่ทางทะเลและชายฝั่ง

นายพิรุณกล่าวว่า ข้อมูลที่ได้จากโครงการ ฯ จะเป็นข้อมูลสำคัญในการแก้ไขหรือปรับปรุงแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติในระยะต่อไป รวมถึงการจัดทำแผนปฏิบัติการทั้ง 6 สาขา ที่จะดำเนินงานในระยะถัดไป อีกทั้งได้แนวทางการปฏิบัติที่ดีจากพื้นที่นำร่องไปขยายผลการดำเนินงานสู่ 18 จังหวัด ตลอดจนขับเคลื่อนไปสู่การดำเนินงานในระดับพื้นที่ ที่สำคัญภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชน ประชาชน จะต้องร่วมกันนำองค์ความรู้ที่ได้รับจากโครงการฯ มาเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานด้านการปรับตัวฯ และร่วมกันรักษาและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้คงอยู่สืบไป

#Thaitabloid #ไทยแทบลอยด์ #กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม #พิรุณสัยยะสิทธิ์พานิช #กรมลดโลกร้อน #UNDP