นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการ ‘เข้าใจตรงกันนะ’ ทาง Peace TV ประจำวันที่ 20 ก.ย. 2561 ถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยิ้มแย้มโบกมือทักทายสื่อมวลชนแต่ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ภายหลังดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทวิตข้อความตอบโต้ว่า ‘ท่าทีและน้ำเสียงขึงขังน่ากลัวจัง ไม่นุ่มนวลอ่อนหวานเหมือนตอนมาเกาะโต๊ะขอเป็น ผบ.ทบ. เลย’ ขณะที่ พล.ท.คงชีพ ตัณตระวานิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ระบุถึงข้อความของดร.ทักษิณว่า จะเอาเรื่องในอดีตมาพูดกันทำไม การนำเรื่องแบบนี้มาพูดแล้วจะมีใครคบด้วย นอกจากนั้น มองว่า สิ่งที่ ดร.ทักษิณพูดคือสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีคนเห็น ก็ถูกแล้วครับ ระดับ พล.อ.ประวิตรในเวลานั้น ไปเกาะโต๊ะขอตำแหน่งใคร จะให้คนเห็นได้ยังไง ปัญหาคือ นอกจากไม่มีคนเห็นแล้ว มันไม่มีคนเถียงด้วยน่ะสิครับ จะให้คิดยังไงล่ะครับ นอกจากคิดว่า คงเกาะจริงล่ะมั้ง ส่วนที่ท่านบอกว่า เอาเรื่องในอดีตมาพูดแบบนี้แล้วใครจะไปคบ ตนก็คิดว่า ตัวนายกฯ ทักษิณท่านคงไม่ห่วงหรอกว่า จะมีใคร 2-3 คนในฝ่ายผู้มีอำนาจปัจจุบันจะไม่คบ เพราะท่านออกไปอยู่ต่างประเทศหลายปี ตนก็เห็นคนใหญ่คนโตในต่างประเทศทั่วโลก คบหาเป็นเพื่อนฝูงสนิทสนมกันเป็นการส่วนตัวอยู่ ส่วนท่านรองฯ ประวิตร จะคบหรือไม่คบกับนายกฯทักษิณ ช่วงนี้ก็คงไม่ได้รู้สึกอะไรมากมั้งครับ มันไม่เหมือนกับตอนไปเกาะโต๊ะเมื่อ 10 กว่าปีก่อน เพราะชั่วโมงนี้ ท่านไปไหนมาไหนก็มีแต่คนห้อมล้อม ดังนั้น 2 ฝ่ายก็คงไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องกลับมาคบหาอะไรกันดูดดื่มหรอกครับ
“ขึ้นอยู่กับประชาชนต่างหาก คิดว่าจะคบฝ่ายไหน นี่ไม่ได้พูดให้แบ่งแยกฝักฝ่ายหรือพูดให้แตกแยกนะครับ แต่คบฝ่ายไหนที่ว่า หมายถึงว่าประชาชนจะเลือกตัดสินใจไปในทิศทางใด ไปในทิศทางของผู้กุมอำนาจปัจจุบัน ซึ่งมีแนวโน้มว่าท่านจะสืบทอดอำนาจกันต่อ หรือไปในทิศทางของฝ่ายการเมือง ที่ประกาศยืนยันปฏิเสธการสืบทอดอำนาจประกาศยืนยันไม่ยอมรับการรัฐประหาร” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า นายกฯ ทักษิณ ลงสมัครรับเลือกตั้งไม่ได้ นายกฯ ทักษิณมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็ไม่ได้ กฎหมายกติกาปัจจุบันจะมาชี้นำครอบงำก็ยิ่งทำไม่ได้ แต่ตนว่ามันมีจุดร่วมอย่างสำคัญที่ประชาชนสัมผัสได้ คือ นายกฯ ทักษิณ ไม่ยอมรับการรัฐประหาร ไม่ยอมรับการสืบทอดอำนาจ เช่นเดียวกัน ก็สุดแท้แต่ประชาชน มีบางคนตั้งข้อสังเกตว่าในยุคพรรคไทยรักไทย ไม่มีธรรมาภิบาลเลยหรืออย่างไร แค่ไปเกาะโต๊ะก็ได้ตำแหน่งผบ.ทบ.แล้ว แปลว่า ผบ.ทบ.ประเทศไทย ได้มาง่ายขนาดนี้หรืออย่างไร
“ผมก็มองว่าถ้าจะคิดมุมนั้น ก็สุดแท้แต่ท่านจะพูดกันไปนะครับ แต่ว่าต้องมาตั้งหลักกันเบื้องต้นก่อนว่า ความจริงมีความพยายามไปขอยศศักดิ์ขอตำแหน่งกันแบบนั้นไหม แล้วถ้ามีการไปทำดังว่าจริง เวลามาบังคับบัญชาผู้ใต้บังคับบัญชาในหน่วยต่างๆ ท่านได้ใช้หลักธรรมาภิบาลในการควบคุมดูแลสั่งการในการบริหารจัดการองค์กรหรือไม่เพราะว่า คำว่านายทหารกลุ่มบูรพาพยัคฆ์ ก็เป็นคำที่สื่อมวลชนสายทหารเรียกขานกัน แล้วในยุคหนึ่งในกองทัพก็ถูกตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมการไล่เรียงลำดับขั้นตอนของนายทหารที่เป็นใหญ่เป็นโตขึ้นมา ชักแถวแล้วจึงมีแต่บูรพาพยัคฆ์จะเข้าสู่ตำแหน่งหลัก” ” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวตต่อว่า เรื่องเหล่านี้ตนไม่ได้พูดเอง มีคนตั้งข้อสังเกตต่อๆ กันมา สำหรับพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ว่าที่ ผบ.ทบ. ท่านล่าสุด ที่จะทำหน้าที่ต่อจาก พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท หลังเกษียณอายุราชการ 30 กันยายนนี้ ข่าวว่าเป็นนายทหารกลุ่มที่สื่อมวลชนเรียกว่า วงศ์เทวัญ เป็นคนแรกในรอบหลายปี ที่บูรพาพยัคฆ์กำกับดูแลเป็นเบอร์ 1 มาตลอด ตนก็ไม่แน่ใจว่า ในอดีตถ้ามีการเกาะโต๊ะกันจริง ได้ทำให้ธรรมาภิบาลในกองทัพกระทบกระเทือนหรือไม่ การเลื่อนลดปลดย้ายในอดีตหลายปีที่ผ่านมา มีการเล่นพรรคเล่นพวก มีการพิจารณาจากการเกาะโต๊ะกันเป็นทอดๆ หรือไม่
“ผมเรียนยืนยันนะครับว่านี่ไม่ใช่การหลับหูหลับตาวิพากษ์วิจารณ์กัน แต่เมื่อมีบางฝ่ายตั้งคำถามว่าตำแหน่งใหญ่ๆ ในบ้านเมืองได้มาจากการเกาะโต๊ะได้เชียวหรือ ในฐานะประชาชนผมก็เลยสงสัยต่อ แต่ไม่กล่าวหาใคร ไม่มีข้อสรุปด้วยตัวเอง เพียงแต่ชวนพี่น้องประชาชนลองคิดตามดูเท่านั้นเอง ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร ผมคิดว่าวันต่อไปข้างหน้า คงมีข้อมูลอะไรออกมาอีกล่ะครับ ในฐานะประชาชน เราก็รอดูไปหลังจากนี้” นายณัฐวุฒิ กล่าว
