อีก 64 วันหมดอายุความคดีตากใบ “รอมฎอน” ลุ้นศาลประทับรับฟ้องพรุ่งนี้

241

ที่อาคารรัฐสภา วันที่ 22 สิงหาคม รอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แถลงข่าวกรณีศาสนัดอ่านคำสั่งไต่สวนมูลฟ้องในคดีตากใบ ที่ผู้เสียหายยื่นฟ้องต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ ว่า อายุความคดีอาญากรณีตากใบเหลือเวลาอีก 64 วัน โดยคดีดังกล่าวเริ่มต้นจากการที่ผู้เสียหาย 48 รายเป็นโจทก์ฟ้องต่อเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุมที่หน้า สภ.ตากใบ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 โดยมีจำเลยในคดีดังกล่าวรวม 9 คน ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง

ผลของคำสั่งในวันพรุ่งนี้ จะกำหนดทิศทางของการอำนวยความยุติธรรมในคดีตากใบ ภายใต้กรอบเวลาว่าอีก 2 เดือนอายุความจะขาดลง หากศาลเห็นว่ามีมูลและประทับรับฟ้อง ศาลต้องนำส่งหมายเรียกให้จำเลยตามที่ศาลเห็นว่ามีมูลให้มาเบิกตัวต่อศาลก่อนวันที่ 25 ตุลาคม จึงเป็นอันเริ่มต้นกระบวนการในชั้นศาลได้ แต่หากศาลมีคำพิพากษาไม่รับฟ้อง ก็ต้องติดตามว่าฝ่ายผู้ร้องจะอุทธรณ์หรือไม่ แต่ก็จะทำให้กระบวนการในการพิจารณาทอดยาวออกไปอีก

รอมฎอนกล่าวต่อไป ว่าที่จริงแล้วยังมีการดำเนินคดีคู่ขนานกันไปอีกคดีหนึ่ง นั่นคือคดีที่ดำเนินการโดยพนักงานสอบสวน สภ.หนองจิก โดยมีที่มาจากการทักท้วงโดยคณะกรรมาธิการกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร ว่าการดำเนินคดีอาญาไปถึงขั้นตอนไหนแล้ว ทำให้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาพร้อมตั้งสำนวนคดีขึ้นมาเมื่อต้นปี 2567 และเมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมาพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด (อสส.) โดยมีความเห็นควรสั่งไม่ฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นผู้ต้องหาจำนวน 8 คน และล่าสุดเท่าที่ตรวจสอบ ได้มีการส่งพยานหลักฐานเพิ่มเติมตามที่อัยการร้องขอไปเมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งก็ต้องติดตามต่อไปว่าอัยการจะมีความเห็นต่อคดีนี้อย่างไร

ทั้งนี้ หลังมีการส่งสำนวนให้อัยการไปแล้ว วันที่ 12 มิถุนายน ตัวแทนญาติผู้เสียชีวิตได้ขอความเป็นธรรมต่ออสส.ว่าการดำเนินคดีมีความล่าช้าและไม่เป็นธรรม พร้อมขอให้ช่วยเร่งรัดคดี แต่วันที่ 2 กรกฎาคม อสส.กลับมีหนังสือส่งกลับมาว่าได้พิจารณาคำร้องขอความเป็นธรรมแล้ว เห็นควรให้ยุติเรื่องโดยไม่มีการระบุเหตุผลหรือคำอธิบายใดๆ

รอมฎอนกล่าวไป ว่าจากการร่วมวงเสวนาที่ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา มีหนึ่งในประเด็นที่ถูกยกขึ้นมาถามผู้เสียหาย ว่าทำไมถึงได้ตัดสินใจมาฟ้องคดีในช่วงคดีกำลังจะหมดอายุความลง ซึ่งหนึ่งในญาติของผู้เสียชีวิตมีการระบุว่าพวกเขายังอยากได้ความยุติธรรม แม้จะได้รับการเยียวยาจากทั้งการไกล่เกลี่ยในชั้นศาลและรัฐบาลแล้ว แต่การได้ความยุติธรรมหรือการฟ้องคดีที่ผ่านมาชาวบ้านไม่มีความรู้ อำนาจ หรือโอกาส และยังถูกติดตามจากเจ้าหน้าที่รัฐจนรู้สึกกลัว ที่ผ่านมาทำได้แค่จัดงานรำลึก แต่เมื่อปีล่าสุดจึงเริ่มมีการหารือและตกลงกันว่ารอไม่ได้แล้ว และจะขอฟ้องดำเนินคดีเอง

คดีตากใบเป็นปมปัญหาสำคัญของความขัดแย้งในชายแดนใต้ เพราะวางอยู่บนสายสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชน ถ้าสถาบันต่างๆ ในสังคมไทยไม่อาจอำนวยความยุติธรรมได้ก็ยากที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชนได้ ที่สำคัญความยุติธรรมในคดีนี้ยังเกี่ยวข้องกับอนาคตกระบวนการสันติภาพ ที่ต้องการพื้นฐานของความไว้เนื้อเชื่อใจและความมั่นใจต่อสถาบันต่างๆ ในสังคมการเมืองไทยด้วย ทั้งนี้ตนตั้งใจจะตั้งกระทู้ถามนายเศรษฐา ทวีสิน ถึงปัญหาดังกล่าว แต่เสียดายที่นายเศรษฐาถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไปเสียก่อน แต่ตนก็เชื่อว่าภายใต้รัฐบาลใหม่ ไม่ว่าจะมาช้าหรือเร็วก็ต้องเตรียมคำตอบสำคัญเกี่ยวกับคดีตากใบไว้

คดีตากใบเกิดขึ้นภายใต้การบริหารของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเมื่อ 2 ปีที่แล้วก็เคยกล่าวคำขอโทษและขออภัย แม้จะถือว่าเป็นหมุดหมายสำคัญ แต่ตนก็ยังคาดหวังว่าคณะรัฐมนตรีใหม่น่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้

“ผมคาดหวังว่าภายใต้รัฐบาลแพทองธารจะมีความชัดเจน ความมุ่งมั่น และเจตจำนงที่ชัดเจน รัฐบาลต้องชี้ทิศทางว่าจะไปทางไหน ถ้าหากปราศจากทิศทางเช่นนี้การแก้ไขปัญหาก็จะอยู่ภายใต้ระบบราชการปกติ ที่มีวิธีคิดและมุมมองต่อปัญหาที่แตกต่างหลากหลายและขัดแย้งกันเอง รัฐบาลใหม่น่าจะดำเนินการได้มากกว่าการนั่งรอเฉยๆ ปมปัญหาสำคัญคือความยุติธรรมและข้อเท็จจริง ว่าผู้เสียชีวิตตายเพราะอะไร ตายโดยใคร และใครต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่คำสั่งชันสูตรพลิกศพ ว่าผู้เสียชีวิตบนรถเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ คำตอบแต่นั้นไม่เพียงพอ ถ้าทิศทางคือการแก้ปัญหาและสร้างสันติภาพ ปมเหล่านี้ควรได้รับการคลี่คลาย ใส่ใจ และแสดงความชัดเจน” รอมฎอนกล่าว

ขอบคุณคุณภาพบางส่วนจาก สำนักข่าวอิศรา

#Thaitabloid #ไทยแทบลอยด์ #พรรคประชาชน #รอมฎอนปันจอร์ #คดีตากใบ