วันที่ 18 ส.ค. นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการแก้ปัญหาหนี้สิน ความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ เปิดเผยว่า กมธ.ได้รายงานผลการพิจารณาศึกษาญัตติ เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหา หนี้สินภาคครัวเรือนอย่างยั่งยืน และปัญหาค่าครองชีพสูงที่พิจารณาเสร็จแล้วต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยผลการศึกษาสรุปได้ว่า ปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนของประเทศไทยในปัจจุบันอยู่ในสัดส่วนของสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิตมากที่สุด รวมถึงสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการเป็นหนี้ของประชาชนที่เป็นไปในลักษณะของการมีความพร้อมที่จะก่อหนี้ได้ง่ายและเร็วขึ้น
ประธาน กมธ.แก้ปัญหาหนี้สิน กล่าวว่า ปัญหาสำคัญอีกประการคืออาชีพเกษตรกรมีรายได้ไม่แน่นอนทำให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้ยาก ทำให้ต้องพึ่งพาแหล่งเงินทุนนอกระบบและต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราสูง รายได้ไม่เพียงพอต่อการชำระต้น ต้องชำระเฉพาะดอกเบี้ยรายวันไปเรื่อย ๆ จึงไม่สามารถชำระหนี้ได้หมด ประกอบกับปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น ถือเป็นปัจจัยที่สร้างภาระให้แก่ประชาชนอย่างมาก และลดทอนความสามารถในการชำระหนี้ของครัวเรือนด้วย
โดยทาง กมธ.ได้พิจารณถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนอย่างยั่งยืน เช่น การกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน รวมถึง กลไกการบริหารนโยบายการแก้ไขปัญหา โดยการกำหนดตัวชี้วัดแต่ละด้าน ระบบการติดตามและการประเมินผลการดำเนินงาน การจัดหมวดหมู่งบประมาณและการจัดสรรงบประมาณในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ติดตามและการประเมินผลการดำเนินงาน การปิดช่องโหว่ทางกฎหมาย และการเพิ่มความรอบรู้ทางการเงินของประชาชนตามช่วงวัย คือ วัยเรียน วัยทำงาน วัยเตรียมเกษียณ และวัยผู้สูงอายุ การเพิ่มความรอบรู้ตามกลุ่มเป้าหมายการทำงาน อาทิ กลุ่มทำงานประจำ ทำงานอิสระ และดำเนินการควบคู่กับการฟื้นฟูสถานะการเงินของครัวเรือน
“ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการจะนำไปสู่การกำหนดนโยบายและมาตรการในการแก้ไขปัญหาหนี้สิน และบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนต่อไป“