“ทักษิณ”เทหมดหน้าตัก ดันลูกนั่งนายกฯ-เสียงยี้กระหึ่ม…!!! 3-6 เดือนต้องเร่งโชว์ผลงาน-กลบเสียง

404


       “พลันที่พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลมีมติเสนอชื่อ น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สภาผู้แทนราษฏรลงมติรับนั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรี   สื่อโซเชียลทุกแพลตฟอร์มวิพากษ์วิจารณ์กันกระหึ่มมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย”

       แต่จะหนักไปทางไม่เห็นด้วยว่าไม่เหมาะสมทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิ ขาดประสบการณ์ทางการเมืองและงานบริหารราชการแผ่นดิน บางกลุ่มโดยเฉพาะบรรดาผู้อาวุโสที่ตั้งข้อรังเกียจต่อตระกูลชินวัตรเป็นทุนเดิมถึงขั้นประกาศเลิกติดตามข่าวในช่วง น.ส.แพทองธาร แถลงหรือสัมภาษณ์สื่อต่างๆ


     บางกลุ่มที่ปฏิเสธและรังเกียจยังตั้งความหวังแบบลึกๆว่าก่อนถึงวันโหวตโผอาจจะพลิกเป็นนายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยหรือนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่เมื่อสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบให้ น.ส.แพรทองธาร  เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังกระหึ่มกว่าเดิม รวมถึงบรรดาคอลัมนิสต์ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ที่เปิดช่องวิเคราะห์ข่าวเป็นของตัวเอง ต่างวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบมากกว่าบวก

   บางกลุ่มถึงขั้นตั้งข้อสังเกตกันว่าเป็นนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดคนที่สอง ให้กับนายทักษิณ ชินวัตร เพราะก่อนจะเคาะชื่อมีกระแสข่าวว่านายทักษิณ เรียกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคหารือกันที่บ้านจันทร์ส่องหล้า จนเกิดการเหน็บแนมว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ตั้งรัฐบาลในบ้านนักโทษ

       ขณะที่บรรดานักวิชาการให้ความเป็นเห็นในเชิงเป็นห่วงว่า น.ส.แพรทองธาร ยังไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะเป็นผู้นำรัฐบาล ยังขาดประสบการณ์หลายๆด้าน เพราะการบริหารประเทศต้องใช้ประสบการณ์และความรอบรู้ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคมและด้านความมั่นคง นักวิชาการบางคนมองว่าเมื่อ น.ส.แพรทองธารนั่งตำแหน่งเต็มตัว จะเห็นเงาของนายทักษิณ ยืนทะมึนอยู่เบื้องหลังในทุกๆด้าน อาจจะทำให้ น.ส.แพรทองธาร ขาดภาวะผู้นำ จะส่งผลให้ต่างชาติขาดน่าเชื่อถือก็เป็นได้

   ขณะเดียวกันกลับไร้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบจากพรรคประชาชน แกนนำพรรคฝ่ายค้าน นอกจากบอกว่าจะขอทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเข้มข้นและขอให้ น.ส.แพรทองธาร ทำตามสัญญาที่ขึ้นเวทีหาเสียงให้ครบถ้วน ที่ยกมาล้วนเป็นความเคลื่อนไหวและอารมณ์ของประชาชนที่แสดงออกหลังทราบข่าว น.ส.แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอนแล้วรอเพียงโปรดเกล้าฯอย่างเป็นทางการเท่านั้น ล้วนเป็นอารมณ์ที่ไม่ค่อยวางใจว่าจะนำพาประเทศชาติได้จริง

      “จอมมารน้อย”จะไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ใดๆเพราะทุกอย่างเดินไปตามกฎกติกาที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ แต่จะขอสื่อสารว่าเมื่อน.ส.แพรทองธาร และพรรคร่วมรัฐบาลจัดทัพเสนาบดีเรียบร้อยแล้ว ขอให้เร่งบริหารจัดการปัญหาต่างๆที่ประชาชนกำลังประสบอยู่โดยเร็วโดยเฉพาะนโยบายระยะสั้นให้ประชาชนสัมผัสได้ถึงความสำเร็จในช่วง 3 เดือนและ 6 เดือน

      ปัญหาแรกที่รัฐบาล น.ส.แพทองธาร น่าขับเคลื่อนคือการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ที่ประชาชนทุกหย่อมหญ้าต่างประสบปัญหาอยู่กันแบบหวาดผวา เพราะยาเสพติดแพร่ระบาดไปทุกชุมชน ไม่ว่าจะเป็นวัด สถานศึกษาและแหล่งท่องเทียวสำคัญ จะเห็นข่าวขี้ยาเพี้ยนอาละวาดฆ่าพ่อฆ่าแม่ ทำร้ายญาติพี่น้อง เผาทำลายทรัพย์สิน เกิดขึ้นทุกวัน ปัญหานี้ขับเคลื่อนได้ไม่อยากเพียงติวเข้มเจ้าหน้าที่รัฐไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยต่างๆ แล้วผนึกการทำงานอย่างบูรณาใช้มาตรการทั้งไม้แข็งไม้นวม โดยนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทุกกระทรวงต้องประกาศพร้อมที่จะเป็นกำแพงให้ข้าราชการระดับปฏิบัติพิงอย่างมั่นคงแล้วขีดเส้นให้เห็นผลภายใน 3 เดือน 6 เดือน

      ถ้าทำได้จริงจนประชาชนสัมผัสได้ว่าการแพร่ระบาดของยาเสพติดลดลง พ่อค้าแม่ค้ายารายย่อยในชุมชนหดหาย ขี้ยาที่เดินเพ่นพ่านถูกจับเข้าบำบัด ราคายาบ้าถีบตัวสูงขึ้นและหาซื้อยาก ขอฟันธงได้เลยว่าคะแนนนิยมในตัวน.ส.แพรทองธารจะเพิ่มสูงขึ้น ประชาชนที่เคยตั้งข้อรังเกียจจะหันมาชื่นชม เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าหากสมาชิกในครอบครัวติดยาเสพติดเพียงคนเดียวเสมือนตกนรกกันทั้งครอบครัว

      ปัญหาที่สอง ปัญหาปากท้องรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย ทุกวันนี้ประชาชนระดับกลางถึงล่างความเป็นอยู่ค่อนข้างลำเข็ญ อยากให้รัฐบาลหามาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพในระยะสั้น 6 เดือน ซึ่งทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลคงจะมองออกว่าจะใช้มาตรการอะไรเพื่อให้ประชาชนรู้สึกได้ว่ารายจ่ายลดลงกว่ารัฐบาลที่ผ่านมา พร้อมวางมาตรการแก้ปัญหาระยะยาวควบคู่ไปด้วย

       ปัญหาที่สามการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งพนันออนไลน์หรือแก๊งตุ้มตุ๋นหลอกให้ลงทุน ยังระบาดหนักสร้างความหวาดผวาให้กับสุจริตชนทุกระดับ เหยื่อหลายรายฆ่าตัว หลายครอบครัวถึงขั้นล้มละลายสมาชิกในครอบครัวป่วยซึมเศร้า

      ทั้งสามปัญหาล้วนเป็นปัญหาที่ประชาชนทุกหย่อมหญ้าเผชิญอยู่ ถ้ารัฐบาลน.ส.แพทองธาร ลุยสะสางทั้ง 3 ปัญหาให้ประชาชนรู้สึกสัมผัสได้ว่าปัญหาเบาบางลงจริง ไม่ใช่เบาบางเพราะการโฆษณาชวนเชื่อจากสื่อรัฐและพวกสื่อที่ทำหน้าที่นายแบกนางแบก รับรองได้เสียงยี้และเสียงปรามาสที่ดังกระหึ่มจะถูกกลบแล้วคะแนนนิยมจะเข้ามาแทนที่ และสมราคาที่ นายทักษิณ เทหมดหน้าตักดันลูกสาวสุดรักผงาดนั่งตำแหน่งเบอร์ 1 ของฝ่ายบริหาร