วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2567) เวลาประมาณ 08.30 น. ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ ภายใต้การอำนวยการของ นายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว โดยชุดปฏิบัติการที่ 4 ได้ร่วมกันจับกุม กรรมการบริษัทอินฟินิ ออโตโมทีฟ จำกัด ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 2989/2567 ลงวันที่ 25 มิถุนายน 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานร่วมกันนำของที่ผ่านหรือกำลังผ่านพิธีศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร โดยหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียอากร โดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสำหรับของนั้น ๆ ตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 และประมวลกฎหมายอาญา โดยเจ้าหน้าที่จับกุมได้ที่บริเวณหน้าอาคารโพลาลิสทาวเวอร์ แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และรวมถึงแจ้งว่าต้องบันทึกภาพ และเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับและควบคุมตัวจนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ให้ผู้ต้องหาได้รับทราบแล้ว
รวมทั้งได้แจ้งไปยังพนักงานอัยการและสำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง กรณีในเขตกรุงเทพมหานคร และบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว (ปท.1) ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 เรียบร้อยแล้วและได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งมอบตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษผู้รับผิดชอบสำนวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 30/2565 ของสำนักงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ ซึ่งมี พันตำรวจโทนิรุติ พัฒนะรัฐ เป็นพนักงานสอบสวนคดีพิเศษผู้รับผิดชอบ โดยผู้ต้องหามีพฤติการณ์เป็นกรรมการของ บริษัทฃ อินฟินิ ออโตโมทีฟ จำกัด ได้ร่วมกันนำเข้ารถหรูยี่ห้อ MERCEDES BENZ จากสหราชอาณาจักรเข้ามา
ในราชอาณาจักรไทยโดยร่วมกันสำแดงราคาซื้อขายรถยนต์ที่นำเข้าดังกล่าวเป็นความเท็จต่ำกว่าราคาซื้อขายที่แท้จริงเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเข้าใจว่าเป็นราคาซื้อขายที่แท้จริงจึงมีการคำนวณภาษีอากรสำหรับรถยนต์ดังกล่าวผิดไป โดยภาษีอากรขาดรวมทั้งสิ้น จำนวน 2,702,885.89 บาท ทำให้รัฐได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ การดำเนินการในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีพิเศษ เป็นไปตามข้อสั่งการของ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษที่กำหนดให้ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ซึ่งเป็นหน่วยงานขึ้นตรงการบังคับบัญชา จัดชุดปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ โดยเฉพาะหมายจับที่ใกล้ขาดอายุความ เพื่อนำตัวผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดที่ยังหลบหนี เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป