อย่าล้อเล่นกับระบบ อย่าคิดฝังกลบประชาชน

315

ซื้อหวยไม่เคยถูก แต่ทุกคนเหมือนรู้อยู่เต็มอกว่า “พรรคก้าวไกล”ยังไงก็ถูกยุบแน่ ๆ และต้องโดนตัดสิทธิ ดีไม่ดีคือ ทั้ง44 สส.ที่เคยลงชื่อแก้กฎหมายร่วมกันจะถูกสอยและขุดหลุมฝัง ดับอนาคตทางการเมืองแบบไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด

แต่โมเดลการจัดการแบบนี้อาจเป็นความคิดที่อาจจะตกยุคไปแล้ว? ที่กะว่าจะเอากันถึงตายบ้างใช้คำว่า “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์”สวนส้มทั้งหมด แต่สิ่งที่น่าสนใจไปมากกว่านั้นคือ หลังคดีมีปรากฎการณ์อะไรเกิดขึ้นเต็มไปหมด

ขอยกตัวอย่าง ลองทบทวนไปพร้อม ๆ กันคร่าว ๆ

ประชาชนผู้สนับสนุนอย่างน้อย ๆ เขาคงมี14ล้านเสียง ต่างแสดงออกซึ่งความไม่พอใจ แล้วก็ต่างกลับมาสนใจการบ้านการเมืองกันเต็มสูบอีกระลอก จัดหนักจัดเต็ม อารมณ์สังคมเดือด! ต่างวิพากษ์วิจารณ์ เย้าแหย่ความไม่ปกติที่เกิดขึ้น ถ้วนทั่ว

ด้านอดีตพรรคก้าวไกลดันเผยไต๋ว่าได้เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมทั้งพรรคใหม่ ตั้งสาขา หาคนเตรียมลงสมัครเลือกตั้งซ่อมสส.เขต1พิษณุโลก เตรียมคลิป คิดโลโก้ ครีเอทแคมเปญ วางกลยุทธ์ set ทีมบริหารใหม่ไว้แล้ว พวกเขาดันไปต่อครบแถวไม่มีหลุด หลังจากก่อนหน้าที่มีข่าวปล่อยให้ระวังงูเห่า มีคนอาจเตรียมกล้วยไว้เป็นสวน แต่งูดันกลายเป็นม้า แถมเป็นม้าพยศที่กระโดดไปข้างหน้าอย่างไว

พรรคส้มตั้งเป้าให้มีการระดมทุนเงินบริจาค10 ล้านบาท ปรากฎว่าไม่ถึงวันทะลุเป้าอย่างไว และจนถึง ป่านนี้ปาไปจะ 25 ล้าน เผลอๆไปแตะ 30 บ้านได้ง่าย ๆ แถมยอดสมาชิกทะลุ 5หมื่น เขยิบเข้าใกล้จำนวนสมาขิกพรรคเก่า (ตั้งเป้า1 แสน) ทั้งหมดนี่เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังยุบ!!??

แม้ว่าในทางนิตินัยก้าวไกลตายไปแล้ว แต่พรรคใหม่ประชาชน เหมือนได้ยาเร่งการเจริญเติบโต ด้วยน้ำมือกลุ่มอำนาจเก่า ทำให้มือที่กะจะกดการเจริญพันธุ์กลายเป็นยิ่งเกิดเจริญพันธุ์

สิ่งที่เขาทำได้คือตัดจำนวน สส. ตัดกำลัง และสร้างบรรยากาศ คาดหมายอยากทำให้คนใหม่ๆ ไม่กล้ามาร่วมผจญภัยไปกับกลุ่มส้มนี้ แต่ไปเช็กปรากฎการณ์ในโซเชียล ดี ๆ กูเกิ้ลเทรนด์ และอีกหลายดัชนีชี้วัด ล้วนตอบชัดเหมือนกันว่ากรณีนี้เป็นการปลุกผีส้ม ด้วยการเติมน้ำมันใส่กองไฟ ทำให้ประชาชนตื่นตัวอีกครั้ง ทั้งที่ถ้าอยู่เฉย ๆ คนก็อาจจะเงียบ ๆ ก็ได้ คนกลับมากล้าแสดงออกและส่งเสียงเรียกร้องมากขึ้น ยังไม่นับปรากฎการต่างประเทศและองค์กรระหว่างประเทศที่ส่งเสียงห่วงใยสถานการณ์ในประเทศ ซึ่งเราจะไม่ได้พูดถึงมาก แต่อยากชี้ให้เห็นว่าการฆ่าล้าวเผ่าพันธุ์นี้อาจไม่ได้ผล และประชาชนอาจยักไหล่ใส่กลับมาว่า “เห็นหัวกูบ้าง”ก็ตาม

ผลที่เกิดขึ้นอีกอันที่ทำให้อึ้งทึ่ง คือการที่วันนี้ “อดีตนายกฯ”ท่านนึง(ที่ประกาศจะกลับมาเลี้ยงหลาน)ดันไปประกาศในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย (ที่ตัวเองบอกว่าไม่ได้ครอบงำ)ว่าการเลือกตั้งงวดหน้าพรรค พท.จะกวาด 200 ที่นั่ง อยู่ดี ๆ ท่านกับเข้าใจพุทธรรมที่ว่า  อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อดีตนายกฯบรรลุธรรม โดยที่ไม่ท่องคาถาแลนด์สไลด์แถมลดเป้าการขาย เป็นเซลล์ที่หั่นยอดขายขาดทุนแบบไม่ถึงครึ่ง หมดศักดิ์ศรีพรรคเคยได้รับความนิยมอันดับ1ประเทศทแต่ดันตระบัดสัตย์กับประชาชน

ดังนั้นหากมีวิธีที่ชี้แนะ ผู้ที่อยากกำจัดพรรคใหม่ที่นามว่าพรรคประชาชน ไม่ให้เติบโต อาจไม่ใช่การยุบการทุบ การกด แต่อาจเป็นการง่าย ๆ เพียงแค่ทำในแบบที่เพื่อไทยกำลังทำคือถูกสะกดจิตให้ไปร่วมเสพในเกมในกามอำนาจ แล้วก็ไม่เห็น”หัวประชาชน”รับรองความนิยมจะตกลงทันทียิ่งกว่ากรรมติดจรวด

ทั้งนี้ทั้งนั้นพรรคประชาชนเขาก็ตั้งเป้ากะชนะเกินครึ่ง ในงวดหน้า อัตราเร่งนี้ถือว่าน่าตกใจ เพราะนับอายุจากการตั้งพรรคอนาคตใหม่มาไม่ถึง 7 ปี มาถึงวันที่ไทยรักไทยกลายเป็นสินค้าที่ขายได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งไปทุบเขาเขาก็ยิ่งโต แล้วพรรคประชาชนนี้ไม่ใช่ว่าเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ด้วยนะครับ เพราะใครดูข่าวจะห็นคนสูงอายุ 70 80 จนถึง 90 ที่ไม่ใช่หน้าม้า! ไปยืนต่อแถวเขียนใบสมัครสมาชิกและยืนต่อแถวให้เงินบริจาคพรรคนี้ พรรคที่ผู้มีอำนาจอยากจะแฮคระบบ อยากฝังกลบพวกเขา แต่ที่ไหนได้กลายเป็นไปฝังเมล็ดพันธุ์พิสดารจนการเติบโตไปไวเกินประเมินและรับมือได้ทันซะงั้น

แต่สงครามมันยังไม่จบ นับศพใครยังอาจจะไวเกินไป เพราะ”ความหวาดกลัว”ปรากฎขึ้นผ่านอีกสองปรากฎการณ์คือ การที่มีบางพรรคที่ไม่เคยชนะเลือกตั้งรีบไปร้องอยากทุรนทุรายว่า ตั้งสาขาครบหรือไม่ ทำตามกฎหรือไม่ เงินบริจาคถูกต้องหรือไม่อะไรแบบนั้น กะเอาเขาทุกเม็ด โดยที่ไม่มีเวลาไปวางกลยุทธ์ในพรรคตัวเองให้สะกดคำว่าชนะให้เป็น มี สส.ให้ได้สักคนด้วยความสามารถ กลับทำไม่ได้

อีกฟากหนึ่งพรรคร่วมรัฐบาลก็โอน้อยออกอยู่ว่าพรรคไหนจะส่งคนลงชิงเก้าอีก มีอยู่สองพรรค ซึ่งไปย้อนดูผลเก่า ปี66 ต่อให้ที่บวกคะแนนกันแล้วก็เหนื่อยคะแนนตามตูดเขาอยู่ แพ้ไม่ว่า แต่เสียหน้าแน่นอนเพราะอำนาจรัฐมักได้เปรียบเสมอในการคุมกลไก แต่ในยุคสมัยนี้เปลี่ยนไปแล้ว อย่างที่บอก ว่าอย่าคิดล้อเล่นกับระบบ อย่าวางแผนฝังกลบประชาชน เพราะผลจะออกมาตรงกันข้ามแบบเสียจนเต็มเปา…