ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุม “ม้ากดเงิน” ของสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารหลอกผู้เสียหายกว่า 20 ราย สูญเงินกว่า 2 ล้านบาท
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป. และ พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ รอง ผกก.1 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.เดชวุฒิ อุตรศาสตร์ สว.กก.1 บก.ป., ร.ต.อ.ชวรินทร์ แหล่งสท้าน รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายอนุชาฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 32/2564 ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ๒๕๖4 คดีหมายเลขดำที่ อ97/2564 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์”
สถานที่จับกุม บริเวณแคมป์ที่พักคนงานก่อสร้าง ตำบลพัฒนานิคม อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปี 2563 ผู้ต้องหาเป็นสมาชิกของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวไทย โดยทำหน้าที่เป็น “ม้าถอนเงิน” มีหน้าที่ถอนเงินที่แก๊งหลอกลวงได้มาให้กับแก๊ง โดยวิธีการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้ จะใช้วิธีการสุ่มหาหมายเลขโทรศัพท์ของผู้เสียหายผ่านทางโซเชียลมีเดีย จากนั้นจะติดต่อเข้าไปหาผู้เสียหาย แล้วแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อเงินกู้ให้กับประชาชนที่สนใจ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ จะให้ผู้เสียหายทำการแอดไอดีไลน์ ซึ่งเป็นไลน์ที่คนร้ายปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร จากนั้นจะทำการขอข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อผู้เสียหายมอบข้อมูลดังกล่าวให้กลุ่มคนร้ายแล้ว คนร้ายจะทำการเข้าสู่ระบบแอปพลิเคชันธนาคารและทำการโอนเงินออกจากบัญชีของผู้เสียหายไปจนหมด มีผู้เสียหายคนไทยประมาณ 20 คน มูลค่าความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท ทางผู้เสียหายและเจ้าหน้าที่ธนาคารจึงได้เข้าร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทำการสืบสวนปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าว จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 5 ราย รวมทั้งนายอนุชาฯ ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวนี้ จากนั้นนำตัวส่งศาลจังหวัดนครปฐมเพื่อดำเนินคดีไปแล้วต่อมา นายอนุชาฯ ได้ประกันตัวออกมาในชั้นพิจารณาของศาลและได้หลบหนีไป ศาลจังหวัดนครปฐม จึงได้ออกหมายจับนายอนุชาฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี จนกระทั่งสามารถสืบทราบว่า นายอนุชาฯ ได้หลบหนีมาเป็นคนงานก่อสร้าง ณ แคมป์ก่อสร้างแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดลพบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปยังแคมป์ที่พักคนงานก่อสร้างดังกล่าว และวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์โดยรอบ จนกระทั่งสามารถจับกุมตัว นายอนุชาฯ ได้ จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ตนทำหน้าที่รับถอนเงินที่หลอกมาได้จากผู้เสียหายให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ค่าตอบแทนที่ได้เป็นรายครั้ง ครั้งละ 500 – 1,000 บาท บางครั้งได้ค่าตอบแทนเป็นเงินสด จำนวน 10,000 บาท
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.ต.เดชวุฒิ อุตรศาสตร์ สว.กก.1 บก.ป. โทร. 094-3914940
