นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติ พาดพิงพรรคเพื่อไทยเป็นต้นเหตุของการรัฐประหาร ว่า สิ่งที่นายอภิสิทธิ์พูดอาจมาจากชุดความคิดเดิมๆที่ยังคงหมกมุ่น วนเวียนอยู่กับความเข้าใจผิด หรือพยายามสะกดจิตตัวเองให้เชื่อ และพูดแบบนั้น เป็นแผ่นเสียงตกร่องตลอดเวลา โดยปราศจากการสำรวจตัวเองว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำให้ประเทศเกิดรัฐประหารหรือไม่ คนส่วนใหญ่น่าจะไม่เห็นด้วยกับนายอภิสิทธิ์ เพราะมีข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ยืนยันชัดว่าบ้านเมืองมาถึงจุดนี้ มาจากความไม่เชื่อมั่นในระบบรัฐสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ลาออกมาเป็นแกนนำม็อบ ชัตดาวน์ประเทศ ก่อจลาจลขัดขวางการเลือกตั้ง สมาชิกพรรคหลายคนไปเป็น กปปส.เพื่อสร้างสถานการณ์เรียกร้องรัฐประหารหรือไม่ พอรัฐประหารสำเร็จก็กลับมาเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ตามเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พอใกล้จะเลือกตั้งก็พยายามจะพลิกตัวเองมารับบทพระเอก แล้วผลักคนอื่นไปเป็นผู้ร้ายหรือไม่
“นายอภิสิทธิ์ ทำสถิติเป็นหัวหน้าพรรคที่นำสมาชิกพรรคบอยคอตการเลือกตั้งถึง 2 ครั้ง ไปร่วมเป่านกหวีดด้วยตัวเองก็ไปมาแล้วหรือไม่ ถ้าทุกฝ่ายยึดมั่นในกติกาประชาธิปไตย ยุบสภาก็ไปเลือกตั้งให้ประชาชนตัดสินใจ ใครชนะก็มาบริหารประเทศ คนแพ้ก็รอ 4 ปี ไปคิดนโยบายเพื่อให้ชนะใจประชาชน ปัญหาก็คงไม่เกิด” นายอนุสรณ์ กล่าว
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า แทนที่นายนายอภิสิทธิ์ จะท่องคาถากล่าวหาคนอื่นอยู่แบบนี้ น่าจะลองไปคุยกับไอติม นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หลานชายนายอภิสิทธิ์ ที่ยอมรับว่าพรรคประชาธิปัตย์แพ้เลือกตั้ง 20 ปี เพราะนโยบายไม่ตอบโจทย์ให้ชนะได้ เอาเวลาไปคิดนโยบายแก้ปัญหาให้ประเทศชาติและประชาชน นำพาประเทศชาติก้าวไปข้างหน้าอย่างสร้างสรรค์ ลดการพาดพิงคนอื่นไปในทางเสียหายจะดีกว่า
“พรรคเพื่อไทย ขอเชิญชวนทุกฝ่ายก้าวข้ามความขัดแย้ง ไปสู่ความปรองดองสมานฉันท์ ทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ คิดการเมืองให้น้อย คิดถึงบ้านเมืองให้มาก” นายอนุสรณ์ กล่าว