ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ตามจับสาวไม่มาฟังคำพิพากษา เพราะเชื่อเพื่อน

208

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ตามจับสาวไม่มาฟังคำพิพากษา เพราะเชื่อเพื่อน

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป, พ.ต.ท.อนุสรณ์ ทองไสย, พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิยโย, พ.ต.ท.กันตเมษฐ์ อัครโชควรานนท์, พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.ธนาคาร อุชณรัศมี สว.กก.6 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกก.6 บก.ป.

ได้ร่วมกันจับกุม นางสาวกิตติยาฯ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ 195/2567 ลงวันที่ 4 มิถุนายน 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ความผิดต่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ(เมทฯ) ครอบครองเพื่อจำหน่าย”

สถานที่จับกุม บ้านหลังหนึ่ง ม.1 ซ.อรนพ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

พฤติการณ์ เมื่อประมาณปี พ.ศ.2560 นางสาวกิตติยาฯ โดนจับยาบ้า จำนวน 128,000 ศาลจังหวัดสงขลาตัดสินโทษ ประหารชีวิต จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้ คงเหลือ จำคุก 50 ปี นางสาวกิตติยาฯติดคุกมา 5 ปี 3 เดือน กระทรวงยุติธรรมออกกฎหมายปรับโทษเกี่ยวกับยาเสพติด จนได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว อัยการจังหวัดสงขลาเลยยื่นอุทธรณ์ วันที่ 4 เมษายน 2567 ศาลจังหวัดสงขลาได้ส่งหมายเรียกให้นางสาวกิตติยาฯ มารับฟังผลการอุทธรณ์ ในวันที่ 4 มิถุนายน 2567 ปรากฏว่านางสาวกิตติยาฯ ไม่มาตามนัด ศาลจังหวัดสงขลาเลยออกหมายจับ เพราะมีพฤติการณ์หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจศาลจึงประสานมายังตำรวจ กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม จังหวัดสงขลา ให้ตามจับนางสาวกิตติยา ถิระพร มาฟังคำพิพากษาให้ได้ จนต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้สืบสวนทราบว่า นางสาวกิตติยาฯ ได้หลบหนีและมาปราฎตัวอยู่ที่ บ้านหลังหนึ่ง ม.1 ซ.อรนพ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เจ้าพนักงานตำรวจจึงวางแผนเข้าทำการจับกุม และได้ควบคุมตัวส่งศาลจังหวัดสงขลา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น นางสาวกิตติยาฯ ให้การว่า เมื่อเดือนเมษายน 2567 ตนได้รับแจ้งจากญาติที่พักอาศัยอยู่ที่ อ.ควนเนียง ว่า ได้มีหมายศาลจังหวัดสงขลา ส่งมาที่บ้านตามบัตรประชน ให้ไปฟังคำตัดสิน ในวันที่ 4 มิถุนายน 2567 ตนจึงปรึกษากับเพื่อนสนิทว่าจะต้องทำยังไงดี เพื่อนก็บอกว่า ครั้งแรกไม่ต้องไปก็ได้ ค่อยไปครั้งที่ 2 เพราะเขาจะออกหมายเรียก 3 ครั้ง จึงจะออกหมายจับ ตนจึงเชื่อเพื่อนสนิทคนนั้น เลยไม่ได้ไปตามศาลนัด และวันนี้เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมตน ตนจึงได้ติดต่อไปสอบถามเพื่อนอีกครั้งว่ายังไงกันแน่ เพื่อนสนิทก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่า หมายเรียกแค่ครั้งเดียว จะมาจับได้ไง ตนจึงตอบไปว่า มันไม่ใช่หมายเรียกแล้ว ตำรวจแสดงหมายจับให้ดูแล้ว แต่เพื่อนก็ยังคงยืนยันคำเดิม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงอธิบายให้ฟังว่า หมายเรียกที่ศาลจังหวัดสงขลาส่งมาไม่ใช่หมายเรียกที่ให้ไปพบเพื่อสอบปากคำ ถึงจะเรียก 2 ครั้ง ถ้าไม่มาครั้งที่ 3 จึงจะออกหมายจับ แต่เป็นหมายเรียกให้ไปฟังคำพิพากษา ถ้าไม่มาศาลก็จะออกหมายจับเลย ตนเลยระบายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ไม่น่าเชื่อเพื่อนเลย รู้อย่างนี้ตนไปฟังคำตัดสินตั้งแต่แรกแล้ว ถ้ามีหมายจับมาแบบนี้ตนอาจจะติดคุกเพิ่มไปอีก 6 เดือน แน่ๆ กุนชือไม่ดี พาที่ชีวิตซวยเลย

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา แต่ปฎิเสธในพฤติการณ์จงใจหลบหนี เนื่องจากข้าพเจ้าได้ย้ายมาพักอาศัยที่ในตัวเมืองหาดใหญ่ ซึ่งหมายเรียกได้ส่งยังยังบ้านพักของข้าฯ ที่ อ.ควนเนียง ซึ่งญาติของข้าฯ ได้โทรศัพท์มาแจ้งว่ามีหมายเรียกมาส่งให้ข้าฯ ไปรายงานตัว ณ ศาลจังหวัดสงขลา ซึ่งข้าจำวันเวลาที่ศาลนัดหมายไม่ได้ จึงไม่ไปตามหมายเรียก และข้าฯ ขอรับว่าเป็นตนบุคคลคนเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับนี้จริง และไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับนี้มาก่อน
ลิงก์ข่าวที่เกี่ยวข้อง

https://www.thaich8.com/news_detail/32253

https://www.matichon.co.th/local/crime/news_540108

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ฝากเตือนภัยประชาชน ควรปฎิบัติตามหมายเรียกทุกครั้ง อย่าคิดไปเอง ไม่เช่นนั้นท่านอาจจะถูกออกหมายจับ

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#CIB#ข่าวอาชญากรรมวันนี้