“ผู้ช่วยฯสำราญ”แถลงผลปฏิบัติการตามล่า100เครือข่ายยาเสพติด

351

“ผู้ช่วยฯสำราญ” แถลงผลตามแผนปฏิบัติการ ตามล่า 100 เครือข่าย จับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด 10 คดีรวด ผู้ต้องหา 21 คน ยาบ้า 36 ล้านเม็ด ไอซ์ 911 กก.

วันนี้ 17 มิ.ย.67 เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร.,นายนิยม ช่างพินิจ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง ,พล.ต.ต.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง รอง ผบช.ฯ ช่วยราชการ บช.ปส., พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1, พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2, พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4, พล.ต.ต.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร ผบก.ขส. และพล.ต.ต.วิทัศน์ บริรักษ์ ผบก.สกส., ผู้แทนจาก กอ.รมน., สำนักงาน ป.ป.ส.,พล.ต.อาทิตย์ ม่วงเล็ก ผบ.ขกท. และ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล ร่วมแถลงผลการปราบปรามยาเสพติดที่สำคัญของ บช.ปส. ตามนโยบายการปราบปรามยาเสพติดของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เน้นการใช้ทุกมาตรการทางกฎหมายเพื่อทำลายเครือข่าย ยาเสพติด และยึดทรัพย์ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ประกอบกับนโยบายของ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่เดินหน้าปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด อีกทั้ง นโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย ตนและพล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี, พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง มุ่งปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ และขยายผลเครือข่ายที่จับกุมได้ทุกระดับอย่างจริงจังทุกพื้นที่รวมทั้งการขยายผลเพื่อยึดอายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด ทั้งของผู้ค้า ผู้ช่วยเหลือและสนับสนุนเครือข่ายทั้งหมดมาตรวจสอบ

ในห้วงของวันที่ 25 พ.ค. 67 ถึงปัจจุบัน ดังนี้ บก.ปส.3 จำนวน 7 คดี ผู้ต้องหา 13 คน ยาบ้า 27,080,000 เม็ด ,ไอซ์ 305 กก.,เฮโรอีน 5.16 กก.

คดีที่ 1 ยาบ้า 12,000,000 เม็ด (กก.2)


เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.2567 เวลาประมาณ 08.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ร่วมกับ ทหาร ได้ทำการจับกุมกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดบริเวณชายแดนเข้าพื้นที่ตอนใน ผู้ต้องหา 2 คน ยาบ้า 12,000,000 เม็ด ที่ด่านตรวจวังดิน หมู่ 3 ต.ป่าไผ่ อ.ลี้ จว.ลำพูน


พฤติการณ์แห่งคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ได้ทำการสืบสวนทราบว่ากลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ อ.ปาย จว.เชียงใหม่ เขามายังพื้นที่ตอนในของประเทศ จึงทำการเฝ้าระวังกลุ่มเครือข่ายดังกล่าว กระทั่งพบความเคลื่อนไหวรถยนต์ในเครือข่าย จำนวน 2 คัน มีการขับรถยนต์ ในลักษณะขับนำและขับตาม จึงทำการประสานด่านหยุดรถยนต์ทั้ง 2 คัน บริเวณด่านตรวจวังดิน อ.ลี้ จว.ลำพูน เพื่อทำการตรวจค้น จากการตรวจค้น พบผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 และยาบ้า จำนวนประมาณ 12,000,000 เม็ด อำพรางในกล่องบรรจุรังผึ้ง จำนวน 60 กล่อง ในรถยนต์คันที่ 2 โดยรถยนต์คันที่ 1 ทำหน้าที่ขับนำทางเพื่อตรวจสอบด่านตรวจ และคอยเฝ้าระวังการติดตามจากเจ้าหน้าที่ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมผู้ต้องหา พร้อมของกลางทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 2 ยาบ้า 10,000,000 เม็ด (กก.2)


เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2567 เวลาประมาณ 03.00 น. กก.2 บก.ปส.3 ร่วมกับ ทหาร (ขกท.ศปก.นสศ.) ได้ทำการจับกุมกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนเข้าพื้นที่ตอนใน ผู้ต้องหา 1 คน ของกลาง ยาบ้า 10,000,000 เม็ด จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาเสพติด บริเวณริมถนนทางหลวงหมายเลข 21 (ถนนสระบุรี-หล่มสัก กม.9 ฝั่งขาเข้า กทม.) ต.พุคำจาน อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี


พฤติการณ์แห่งคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ได้ทำการสืบสวนทราบว่ากลุ่มเครือข่ายผู้ลำเลียง ยาเสพติด จะทำการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อ.ท่าลี่ จว.เลย) มาสู่พื้นที่ภาคกลาง โดยใช้รถปิคอัพบรรทุกยาเสพติด และมีรถยนต์ขับนำเส้นทาง จึงทำการเฝ้าระวังติดตามพฤติการณ์กลุ่มเครือข่ายดังกล่าว กระทั่งวันที่ 13 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 03.00 น. เจ้าหน้าที่พบความเคลื่อนไหวรถยนต์ในเครือข่าย จำนวน 2 คัน โดย 1 ใน 2 คัน มีโครงเหล็กและบรรทุกสิ่งของบริเวณกระบะท้ายโดยมีผ้าใบปิดมิดชิด ลักษณะมีน้ำหนักแล่นด้วยความเร็วสูง และเมื่อเข้าพื้นที่อำเภอพระพุทธบาทคนร้ายน่าจะรู้ตัวจึงได้ขับรถยนต์ไปจอดทิ้ง และหนีเข้าไปในป่าริมถนนทางหลวงหมายเลข 21 (ถนนสระบุรี-หล่มสัก กม.9 ฝั่งขาเข้า กทม.)ต.พุคำจาน อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าวพบยาบ้า จำนวน 43 เป้ ประมาณ 10,000,000 เม็ด ได้ทำการประสาน ภ.จว.สระบุรี ประสานเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ และ ฝ่ายปกครองสุนัขทหารมาสนับสนุนการค้นหากลุ่มผู้ต้องหาที่หลบหนี จนพบตัวผู้ต้องหาที่หลบหนีอยู่บริเวณใกล้เคียง 1 คน จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 3 ยาบ้า 2,080,000 เม็ด (กก.2)


เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ร่วมกับ ทหาร (ขกท.ศปก.นสศ.) ได้ทำการจับกุมกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดพื้นที่ตอนในของประเทศ ผู้ต้องหา 2 คน ของกลางยาบ้า จำนวน 2,080,000 เม็ด จับกุมผู้ต้องหาที่ 1 พร้อมของกลางยาเสพติด บริเวณโกดังไม่มีเลขที่ ต.งิ้วราย อ.อินทร์บุรี จว.สิงห์บุรี จับกุมผู้ต้องหาที่ 2 ภายในซอย ใกล้กับถนนหมายเลข 3467 ต.บางพระครู อ.นครหลวงจว.พระนครศรีอยุธยา พฤติการณ์แห่งคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๒ บก.ปส.๓ ได้ทำการสืบสวนเครือข่ายผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติด ซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่พระนครศรีอยุธยาและ จว.สิงห์บุรี กระทั่งพบความเคลื่อนไหวรถยนต์ในเครือข่าย จำนวน 2 คัน ขับไปในพื้นที่เส้นทางเปลี่ยวและมีการจอดรอระหว่างทาง และพบว่าได้ขับไปจอดบริเวณโกดังไม่มีเลขที่ ต.งิ้วราย อ.อินทร์บุรี จว.สิงห์บุรี และจอดเป็นเวลานาน มีการยกสิ่งของเข้าไปภายใน เชื่อว่าจุดดังกล่าวเป็นจุดเก็บพักยาเสพติด ต่อมาพบว่ารถยนต์ทั้ง 2 คันดังกล่าวได้ขับออกไปจากจุดดังกล่าว ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่จึงแบ่งการสืบสวนติดตาม โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบบริเวณโกดังดังกล่าว พบผู้ต้องหาที่ 1 ตรวจค้นโกดังพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 2,080,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในถังพลาสติกสีน้ำเงิน เจ้าหน้าที่อีกชุดติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ 2 ภายในซอยใกล้กับถนนหมายเลข 3467 ต.บางพระครู อ.นครหลวงจว.พระนครศรีอยะยา จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 4 ยาบ้า 2,000,000 เม็ด (กก.2)


เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2567 เวลาประมาณ 19.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 และทหาร ได้ทำการตรวจยึดยาบ้า จำนวน 2,000,000 เม็ด บริเวณชายป่าในซอยไม่มีชื่อ ถนนระหว่างหมู่บ้าน บ้านแม่สลองใน–บ้านเวียงสา หมู่ 7 ต.ศรีค้ำ อ.แม่จัน จว.เชียงราย


พฤติการณ์แห่งคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 และทหารได้ทำการสืบสวนเครือข่ายผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจนทราบว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่แนวชายแดน อ.แม่ฟ้าหลวง จว.เชียงราย ลำเลียงเข้ามาเก็บไว้ในพื้นที่ตอนใน โดยใช้รถปิคอัพเป็นพาหนะในการลำเลียง จึงทำการเฝ้าระวังกระทั่ง พบความเคลื่อนไหวรถยนต์ในเครือข่ายขับอยู่บนเส้นทางระหว่างหมู่บ้าน จากบ้านเวียงสา ต.ศรีค้ำ อ.แม่จัน จว.เชียงราย มุ่งหน้าบ้านแม่สลองใน ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จว.เชียงราย โดยมีรถจักรยานยนต์ขับนำทาง ๒ คัน และรถจักรยานยนต์ ขับติดตามคุ้มกัน อีก 1 คัน เข้าไปจอดในสวนสับปะรด โดยมีจักรยานยนต์ 2 คัน จอดลักษณะคุ้มกันและคอยดูต้นทาง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการแสดงตัวเพื่อทำการตรวจสอบและตรวจค้นแต่รถยนต์คันดังกล่าว และรถจักรยานยนต์ได้ขับหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นพื้นที่ชายป่าในบริเวณใกล้เคียงดังกล่าว พบกระสอบจำนวน ๑๐ กระสอบ ซุกซ่อนอยู่ใต้กอไผ่ ตรวจพบเป็นยาบ้า จำนวนประมาณ ๒,๐๐๐,๐๐๐ เม็ด จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจค้นบ้านเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าวได้หลบหนีไป จึงได้ทำการตรวจยึดไว้ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 5 ยาบ้า 1,000,000 เม็ด (กก.2)


เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2567 เวลาประมาณ 18.30-23.00 น. ต่อเนื่องกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ได้ทำการจับกุมกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดบริเวณชายแดนเข้าพื้นที่ตอนใน ผู้ต้องหา 2 คน ของกลางยาบ้า จำนวน 1,000,000 เม็ด จับกุมผู้ต้องหาที่ ๑ และที่ 2 ที่บริเวณสถานีรถไฟเชียงใหม่ ต.วัดเกต อ.เมืองเชียงใหม่ จว.เชียงใหม่ ตรวจยึดของกลางได้ที่ลานจอดรถยนต์ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี เชียงราย ๒ ถนนพหลโยธิน ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย ต่อเนื่องกัน พฤติการณ์แห่งคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ได้ทำการสืบสวนทราบว่ากลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด จะลำเลียงยาบ้าจำนวนมากจากชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง จว.เชียงราย เพื่อนำไปพักคอยในเขต อ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย เพื่อรอลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ชั้นในของประเทศ เจ้าหน้าที่จึงได้ออกหาข่าวและเฝ้าระวังความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนต้องสงสัย ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบรถยนต์ในเครือข่าย จาก อ.แม่ฟ้าหลวง โดยมุ่งหน้าไปยัง อ.เมืองเชียงราย กระทั่งพบว่ารถคันดังกล่าวได้ไปจอดอยู่ภายในลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จึงแสดงตัวขอเข้าตรวจค้น พบชาย 1 คนเป็นคนขับรถและหญิง 1 คนนั่งโดยสารมาด้วยกันลักษณะท่าทางมีพิรุธ จากการตรวจสอบที่กระโปรงหลังรถพบกระสอบฟาง จำนวน 5 ใบ โดยแต่ละใบบรรจุยาบ้า ใบละประมาณ 200,000 เม็ด รวมของกลางยาบ้าทั้งหมดจำนวน 1,000,000 เม็ด จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 6 ไอซ์ 305 กิโลกรัม (กก.2)


เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2567 เวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ร่วมกับ ทหาร (ขกท.ศปก.นสศ.) ได้ทำการจับกุมกลุ่มชาติพันธ์มีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติดจำนวนมากในพื้นที่ตอนในของประเทศ ผู้ต้องหา 6 คน ของกลางไอซ์ น้ำหนักประมาณ 305 กิโลกรัม จับกุมผู้ต้องหาที่ 1 , 2 , 3 , 4 และ 5 ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. สาขา ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล ซ.14 ถ.บางขุนเทียน แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ จับกุมผู้ต้องหาที่ 6 พร้อมตรวจยึดยาเสพติดของกลาง ที่ห้องหมายเลข 105 ที่หอพัก อะลิอพาทเม้น เลขที่ 26/61 ถ.พระราม 2 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพฯ ต่อเนื่องกัน พฤติการณ์แห่งคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ได้ทำการสืบสวนทราบว่ากลุ่มชาติพันธ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด มียาเสพติดจำนวนมากเก็บซุกซ่อนไว้ในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อรอจำหน่าย จึงทำการสืบสวนจนทราบว่ากลุ่มเครือข่ายดังกล่าวจะทำการส่งมอบยาเสพติด กระทั่งวันที่ 6 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 21.00 น. พบรถปิคอัพติดโครงเหล็ก และรถจักรยานยนต์ของกลุ่มเครือข่าย ขับเข้ามาในปั๊มน้ำมัน ปตท. สาขา ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล เจ้าหน้าที่จึงเข้าแสดงตัว และนำตัวกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวได้ไปยังหอพัก อพาทเม้นแห่งหนึ่ง แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพฯ เข้าตรวจสอบบริเวณหอพัก ที่คาดว่ามีการเก็บยาเสพติด ผลการตรวจค้นพบยาเสพติดประเภท ไอซ์ จำนวน 305 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 305 กิโลกรัม วางอยู่ภายในห้องพักดังกล่าว จึงจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 7 เฮโรอีน 5.16 กิโลกรัม ซุกซ่อนในนวมชกมวย (กก.1)


เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.67 เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปส.3 ได้เฝ้าระวังการลักลอบส่งยาเสพติดผ่านทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิทางพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศ ร่วมกับหน่วยร่วมตามโครงการ AITF ประกอบด้วย ป.ป.ส., ศุลกากร, ศรภ. ซึ่งตรวจพบพัสดุต้องสงสัยปลายทางประเทศอังกฤษ จึงได้คัดแยกทำการตรวจ จากการตรวจสอบพบนวมชกมวย จำนวน 3 คู่, เป้าล่อชกมวย แบบยาว จำนวน 7 อัน เป้าล่อชกมวย แบบสั้น จำนวน 1 อัน และกางเกงชกมวย จำนวน 3 ตัว จากการตรวจสอบด้วยเครื่องเอ็กซเรย์ พบก้อนทรงสี่เหลี่ยม ซุกซ่อนในเป้าล่อชกมวย พบก้อนห่อพันด้วยเทปสีเทา ตัดเปิดก้อนห่อดังกล่าว พบผงสีขาวอันแท่ง จำนวน 2 แท่ง/ อัน รวมจำนวน 12 แท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 4,440 กรัม และผงสีขาว บรรจุในถุง จำนวน 1 ถุง น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม ประมาณ 710 กรัม รวมน้ำหนักทั้งหมดประมาณ 5,160 กรัม นำตัวอย่างผงสีขาวดังกล่าวมาทำการทดสอบด้วยน้ำยาทดสอบสารเสพติด พบเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน)
บก.สกส. จำนวน 1 คดี


คดีที่ 8 ผู้ต้องหา 1 คน ยาบ้า 8,000,000 เม็ด


สืบเนื่องจาก การจับกุมกลุ่มเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติด (กลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ จว.ตาก) เมื่อวันที่ 13 พ.ค.66 ผู้ต้องหา 2 คน ยาบ้า 4 ล้านเม็ด ในพื้นที่ อ.บางปะหัน จว.พระนครศรีอยุธยา และ เมื่อวันที่ 14 ส.ค.66 จับกุมผู้ต้องหา 3 คน ยาบ้า 1 ล้านเม็ด ไอซ์ 200 กก. ในพื้นที่ อ.พรหมพิราม จว.พิษณุโลก ซึ่งได้เฝ้าติดตามกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวเรื่อยมา จนกระทั่งสืบทราบได้ว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือผ่าน จ.พะเยา เข้ามาส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง โดยใช้รถยนต์ จำนวน 3 คัน ในการลำเลียง จึงได้เฝ้าสะกดรอยติดตาม พบว่า มีลักษณะขับนำ ขับตามกันมาลอดเส้นทาง จึงประสานด่านตรวจยานพาหนะพยุหะคีรี ตรวจสอบ รถยนต์พบ ยาบ้า จำนวน 8,000,000 เม็ด จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 1 คน และติดตามตรวจยึดรถยนต์ที่ขับติดตามกันมาได้อีกจำนวน 2 คัน ที่ ลานจอดรถโรงพยาบาลลาดยาว ต.สระแก้ว อ.ลาดยาว จว.นครสวรรค์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.67 ตั้งแต่เวลา 09.10-19.00 น. หลังจากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี เพื่อขยายผลหาตัวผู้ร่วมกระทำผิดต่อไป
บก.ปส.2 (กก.2) จำนวน 1 คดี


คดีที่ 9 ผู้ต้องหา 5 คน ยาบ้า 1,000,000 เม็ด


สืบเนื่องจาก วันที่ 13 พ.ค.67 เจ้าหน้าที่ บก.ปส.2 ได้จับกุมผู้ต้องหา 4 คน พร้อมของกลางยาบ้า 5.2 ล้านเม็ด ที่ อ.เสลภูมิ จว.ร้อยเอ็ด จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลจากกลุ่มลำเลียงยาเสพติดดังกล่าว จนกระทั่ง วันที่ 25 พ.ค.67 เจ้าหน้าที่ บก.ปส.2 ตรวจพบกลุ่มรถยนต์ต้องสงสัยที่ อ.เรณูนคร จว.นครพนม จึงได้ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา ทั้ง 5 คน ได้พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 1,000,000 เม็ด รถยนต์จำนวน 4 คัน อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ .380 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน โดยจับกุมได้ที่ ริมถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 238 กม.ที่ 11 มุ่งหน้าแยกชลประทาน ต.คำอาฮวน อ.เมืองมุกดาหาร จว.มุกดาหาร และ บริเวณลานคอนกรีตหน้าห้องพักหมายเลข 7 ภายในธัญญารีสอร์ท เลขที่ 59 หมู่ 16 ต.คำอาฮวน อ.เมืองมุกดาหาร จว.มุกดาหาร จากนั้น นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ส่ง พงส.บก.ปส.2 เพื่อดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
บก.ขส.ร่วมกับ บก.ปส.4 จำนวน 1 คดี


คดีที่ 10 ผู้ต้องหา 2 คน ไอซ์ 606 กก. (ศขส.สข.)


สืบเนื่องจากการจับกุมเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติดทางเรือ จำนวน 3 คน ไอซ์ 999 กก. และเคตามีน 1,200 กก. ที่ท่าเทียบเรือบางปะกง เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.66 และ การตรวจยึด ไอซ์ ที่ลอยมาติดชายฝั่ง ในพื้นที่ จว.ระยอง จันทบุรี และตราด จำนวน 516 กก. ห้วงเดือน มี.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ขส.,บก.ปส.4, ตร.ภ.2 จึงได้ประสานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกัน จนสืบทราบจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้าสู่ประเทศไทย ทางชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มาพักคอยในพื้นที่ จว.สมุทรสาคร เพื่อเตรียมลำเลียงส่งออกไปยังประเทศที่สาม โดยใช้วิธีซุกซ่อนยาเสพติดในเรือเล็ก เดินเรือผ่านน่านน้ำอ่าวไทยออกไปส่งต่อยังเรือใหญ่กลางน่านน้ำสากล โดยมีเรือใหญ่จอดลอยลำรออยู่ จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 31 พ.ค.67 บก.ขส.ได้ประสานกับ บก.ปส.4 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำ ทำการจับกุม ผู้ต้องหาได้จำนวน 2 ราย ไอซ์ 14 กระสอบ (น้ำหนัก 606 กก.) รถตู้ 1 คัน ได้ที่ ท่าเทียบเรือไม่มีเลขที่ริมแม่น้ำท่าจีน ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองสมุทรสาคร จว.สมุทรสาคร และขยายผลยึดทรัพย์สิน รถยนต์ 1 คัน ,สร้อยคอทองคำ,บัญชีธนาคาร รวมมูลค่าประมาณ 1,350,000 บาท


สำหรับการปราบปรามยาเสพติดในห้วง ที่ผ่านมา ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 – 16 มิ.ย.67 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สามารถจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญได้ 955 คดี ผู้ต้องหา 1,330 คน ของกลางเป็นยาบ้า 301,000,143 เม็ด, ไอซ์ 6,798 กก., เฮโรอีน 384 กก., คีตามีน 2,080 กก. ยึดทรัพย์ประมาณ 3,816 ล้านบาท

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #ข่าวอาชญากรรมยาเสพติด