ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) สกัดจับหนุ่มอยากเท่ห์ เปลี่ยนสีรถ ติดป้ายปลอมหวังเลี่ยงต่อภาษีประจำปี สุดท้ายซิ่งไม่พ้น ถูกจับดำเนินคดี 2 ข้อหา
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม, พ.ต.อ.ชาคริต มงคลศรี รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.นโรตม์ ยุวบูรณ์, พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ รอง ผกก.2 บก.ทล. และ พ.ต.ต.กล้า สมบัติพิบูลย์ สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.(นครปฐม) นำโดย ร.ต.อ.ณัฐพล เทียนแก้ว, รอง สว.ส.ทล.1 กก.2 , ร.ต.ต.ธีระวัฒน์ ชาวนาห้วยตะโก, ร.ต.ต.ธนกฤต ยุทธเสน รอง สว(ป).ส.ทล.1 กก.2, ด.ต.สิรวิชญ์ หวังกุ่ม, ด.ต.ศรีธาตุ พงษ์ไทยสงค์, ด.ต.ธวัชชัย นิ่มชะนา, ส.ต.ท.นันทวัฒน์ สมบูรณ์บดีบุตร ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.,
ร่วมกันจับกุม นายณรงค์ฯ อายุ 44 ปี โดยกล่าวหาว่า “ปลอมแปลงเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม, ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานจราจร”
พร้อมด้วยของกลาง
1. ป้ายทะเบียนแดง บ-6434 กรุงเทพฯ จำนวน 2 แผ่น
2. รถยนต์เก๋งสีดำ จำนวน 1 คัน
สถานที่จับกุม ถนนเพชรเกษม กม.40 ขาออก กทม. ต.ศรีษะทอง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากนโยบายของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ที่ได้มอบหมายให้กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล) ปราบปรามรถสวมทะเบียน-ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอม เพื่อลดปัจจัยที่จะทำให้เกิดอาชญากรรมเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนครปฐม ส.ทล.1 กก.2 จึงได้ออกตรวจตราในเขตพื้นที่รับผิดชอบ โดยได้ตรวจพบว่ามีรถเก๋งสีดำ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส ติดป้ายแดงทะเบียน บ- 6434 กทม. ซึ่งต้องสงสัยว่าจะเป็นรถที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอม เนื่องจากเป็นรถรุ่นเก่า แต่กลับติดป้ายแดง เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้ให้สัญญาณไฟและใช้สัญญาณมือโบกให้รถหยุด แต่รถยนต์ต้องสงสัยคันดังกล่าวไม่ยอมหยุด กลับพยายามขับหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงรีบติดตาม พร้อมกับได้วิทยุขอกำลังเสริม ติดตามไล่ล่า เป็นระยะกว่า 1 กม. จนในที่สุดสามารถหยุดรถคันดังกล่าวได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกคำสั่งให้ผู้ขับขี่ลงมาจากรถ และทำการตรวจสอบ
จากการตรวจสอบทราบชื่อผู้ขับขี่ คือ นายณรงค์ฯ อายุ 44 ปี และ จากการตรวจสอบป้ายแดง หมายเลขทะเบียน บ- 6434 กทม. พบว่า ไม่มีลายน้ำเครื่องหมายราชการกรมการขนส่งทางบก และ ไม่มีเลข 10 หลัก ไม่มีสมุดคู่มือ จึงเชื่อได้ว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอม อีกทั้งรถยนต์เก๋งสีดำ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส คันดังกล่าวได้รับการจดทะเบียนอื่นแล้ว จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ปลอมแปลงเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม,ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานจราจร” จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการตรวจยึดแผ่นป้ายทะเบียนดังกล่าว และนำตัวผู้ต้องหาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถาม นายณรงค์ ฯ ให้การว่า เดิมรถคันดังกล่าวเป็นรถแท็กซี่ ติดป้ายเหลืองทะเบียน ทส 9401 กทม. แต่ปัจจุบันเลิกทำแล้วจึงไปเปลี่ยนสีรถใหม่เป็นสีดำที่อู่ทำสีรถในพื้นที่ อ.สามพราน จ.นครปฐม และ ได้นำป้ายแดงทะเบียน บ- 6434 กทม. มาติดรถยนต์คันดังกล่าว เพราะ คิดว่าใส่ป้ายแดงแล้วดู “เท่ห์ดี” ส่วนที่ตนไม่ยอมจอดเมื่อถูกตำรวจทางหลวงเรียกนั้น ตนคิดว่า “หนีแล้วจะรอด” จะได้ไม่ต้องเสียค่าปรับ แต่สุดท้ายภรรยาที่นั่งมาด้วย บอกกับตนว่า “จะหนีทำไม หยุดรถเถอะ” ตนจึงยอมจอดรถตามคำสั่งของภรรยา
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเน้นย้ำประชาชน ก่อนจะนำป้ายแดงมาใช้ควรตรวจสอบให้ดีเนื่องจากปัจจุบันป้ายแดงปลอมถูกนำมาใช้จำนวนมาก อีกทั้งป้ายทะเบียนรถยังถือว่าเป็นเอกสารราชการอีกด้วย หากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบเเล้วพบว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอม ผู้ที่ปลอมป้ายทะเบียน หรือ ผู้ที่นำป้ายแดงปลอมไปติดรถ ณ ขณะนั้น อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานปลอมเอกสารราชการ หรือ ใช้เอกสารราชการปลอม มีโทษถึงขั้นจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน – 5 ปี ปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอตรวจสอบ หรือ เรียกให้หยุดรถ ควรปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัด มิเช่นนั้น อาจมีความผิด ฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานจราจร ปรับไม่เกิน 4,000 บ.