”ผบช.ก้อง“สั่งผู้การกองปราบ จัดหนัก ส่งชุดหนุมานบุกรวบซุ้มมาเฟีย

7132

”ผบช.ก้อง“สั่งผู้การกองปราบ จัดหนัก ส่งชุดหนุมานบุกรวบซุ้มมาเฟีย สั่งฆ่าคนสนิท “เสี่ยแป้ง นาโหนด”

เมื่อ.วันที่ 28 พ.ค. 2567(เวลา 06.00 น)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.จักรภพ ภูริเดช ผบช.ได้มีนโนบายให้เร่งรัดปราบปรามผูัมีอิทธิพล ตามนโนบาย ตร.จึงสั่งการให้พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณรอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป.,พ.ต.อ.ภัทรพล ปัทมวงศ์ ผกก.สสน.บก.ป. นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กก.6 บก.ป. บูรณาการกำลังร่วมกับตำรวจภูธรภาค 9 รวมกว่า 120 นาย เปิดปฏิบัติการ TAKEDOWN MAFIA กวาดล้างอิทธิพลเถื่อนซุ้มมือปืนภาคใต้ เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 15 จุด แบ่งเป็นพื้นที่ จ.สงขลา 10 จุด จ.พัทลุง 5 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาในคดีจ้างวานฆ่า 9 หมายจับโดยเป้าหมายสำคัญจุดแรกพล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6บก.ป. นำกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองปราบปราม เจ้าหน้าที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 9 ตำรวจ กว่า 30 นาย พร้อมอาวุธครบมือเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 2113/22 หมู่ 6 ถนนลพบุรีราเมศวร์ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นบ้านของ นายกรรัก ก่อฤกษ์คณิน หรือ เชษฐ์ ปาดัง อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญารัชดาฯ ที่ 2422/2567 ลงวันที่
24 พ.ค.2567 ข้อหา”ร่วมกันใช้จ้างวานให้ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน”

จากการตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นมีรั้วรอบขอบชิด บนกำแพงบ้านมีการต่อสายไฟปล่อยไฟฟ้าเพื่อป้องกันผู้บุกรุก และมีกล้องวงจรปิดรอบบริเวณบ้าน เจ้าหน้าที่จึงตะโกนเรียกให้ออกมามอบตัวแต่ภายในบ้านกับมีการชุ่มมองลงมาและปิดไฟภายในบ้าน เจ้าหน้าที่คีมขนาดใหญ่ตัดกุญแจรั้วบ้าน เมื่อเห็นดังนั้น นายกรรัก ก็ได้รีบวิ่งลงมาเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น โดยนายกรรัก แจ้งว่า ภายในบ้านมีลูก เมียและ ป้า ก่อนเข้าตรวจค้นพบอาวุธปืนมีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายจำนวน 4 กระบอก เป็นอาวุปืนสั้น 2 กระบอกและปืนยาอีก 2 กระบอก ทั้งนี้จากการสอบสวนนายกรรัก ยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น

เป้าหมายจุดสำคัญต่อมา พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกก.6 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดปปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ พร้อมยุทโธปกรณ์ครบมือ เข้าค้นบ้านเลขที่ 260 ม.4 ต.ฝาละมี อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ซึ่งเป็นบ้านพักของนายไพฑูรย์ ย้อยอัด หรือ กำนันทูรย์ อายุ 49 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาคนสำคัญในคดี เนื่องจากเป็นคนช่วยจัดหากลุ่มมือปืนมาก่อเหตุ โดยทันทีที่เจ้าหน้าที่ไปถึงพบ นายไพฑูรย์ กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ภายในบ้านพัก จึงแสดงตัวเข้าจับกุมได้โดยละม่อม พร้อมเข้าทำการตรวจค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในบ้านพักขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อีกส่วนเข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 264 หมู่ 4 ต.ฝาละมี อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง บ้านพักของ พ.ต.ท.ปัญญา ย้อยอัด สว.(สอบสวน)สภ.ปากพะยูน ญาติของนายไพฑูรย์ หลังพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดหามือปืนเช่นเดียวกัน โดยทันทีที่ไปถึงพบ พ.ต.ท.ปัญญา กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ภายในบ้าน จึงแสดงหมายจับก่อนเข้าทำการจับกุมตัวได้เช่นเดียวกัน

ส่วนเป้าหมายจุดสำคัญต่อมาเป็นบ้านเลขที่ 144 หมู่ 7ต.รัตภูมิ อ.ควนเนียง จ.สงขลา แหล่งที่กบดานของ นายธีรพงษ์ หนูแทน อายุ 34 ปี มือปืน กับ นายธีระพงศ์ หรือเอ็ม สงเคราะห์ อายุ 32 ปี คนขับรถพาไปก่อเหตุ โดยทันทีที่ฟ้าสาง พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ บุญทอง สว.กก.6บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.6 บก.ป. เจ้หน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ พร้อมยุทโธปกรณ์ครบมือ กระจายกำลังเข้าปิดล้อมพื้นที่ แต่เนื่องจากบริเวณโดยรอบเป็นพื้นที่เปิดตั้งติดอยู่ใกล้กับแนวป่า ทำให้ผู้ต้องหาทั้งสองรายเกิดไหวตัวทันวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า เจ้าหน้าที่จึงเร่งติดตามไปอย่างใกล้ชิดก่อนสามารถตามจับกุม นายธีระพงศ์ หรือ เอ็ม ได้ 1ราย ส่วนนายธีรพงษ์ มือปีนนั้นอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไปได้อย่างไรก็ตามหลังการจับกุมนายธีระพงศ์ ได้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปขยายผลตรวจยึดรถยนต์โตโยต้า สีบรอนซ์ทอง คันที่ใช้วันก่อเหตุ ซึ่งจอดอยู่ที่อู่ซ่อมรถแห่งหนึ่งในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี ส่วนของรายละเอียดภาพรวมของปฏิบัติการดังกล่าว จะมีการสรุปผลชี้แจงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ในช่วงบ่ายของวันนี

พล.ต.ต.มนตรี เปิดเผยว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามหลายชนิดทั้งเอ็ม 16 และปืนอาก้า ถล่มยิงใส่ นายประศาล คงนุ่นฉายา “หมีป่าบอน” อายุ 54 ปี อาชีพผู้รับเหมา จนเสียชีวิตต่อหน้าภรรยา ริมถนนในหมู่บ้านห้วยปลิง หมู่ 4 ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนี”

ด้วยพฤติกรรมการก่อเหตุที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย หลังเกิดเหตุจึงสั่งการให้ เจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติการ กก.6 บก.ป.จัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสกลุ่มคนร้าย จนทราบตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ ผู้จ้างวาน คนรับงาน และ กลุ่มมือปืนผู้ก่อเหตุจนนำมาซึ่งการเปิดปฏิบัติการในครั้งนี้ ทั้งนี้ก็เพื่อกวาดล้างจับกุมผู้มีอิทธิพล มาเฟียท้องที่ มือปืนรับจ้างในพื้นที่ให้หมดไป ป้องปรามไม่ให้เติบโตกลายเป็นองค์กรอาชญากรรมในอนาคต” พล.ต.ต.มนตรี กล่าว

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#ข่าวอาชญากรรมวันนี้