”ผู้การฯจ๋อ“สั่งชุดสืบบช.น.หวดหัวโจกบัญชีม้ามิจฉาชีพโพสต์ขายรถไถมือสอง

571

”ผู้การฯจ๋อ“สั่งชุดสืบนครบาล หวดหัวโจกบัญชีม้ามิจฉาชีพโพสต์ขายรถไถมือสอง หลอกให้โอนเงินค่ามัดจำแล้วชิ่งหนี

เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 67 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.,กล่าวว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์. รรท.ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมทางออนไลน์ ที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก

โดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. รวมถึงตนและ พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก สส.ฯ, พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุณยมานนทน์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพสว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น., ร.ต.อ.ชัยยุทธ ศักดิ์เพชร, ร.ต.อ.ปรินทร์ ส่วนบุญ, ร.ต.อ.นิคม นาชัยภูมิ รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น.(ชุดปฏิบัติการที่ 2) ร่วมกันจับกุมตัว

นายภานุพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปีชาว อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกำแพงเพชร ที่ จ148/2567 ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 กระทำผิดฐาน “โดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่ง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง และฉ้อโกงประชาชน” (สภ.เมืองกำแพงเพชร)โดยจับกุมที่ ริมถนนกาญจนาภิเษก แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2566 ผู้กล่าวหา ได้เข้าใช้แอปพลิเคชั่นเฟซบุ๊ค และไปพบผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก “รุ่งโรจน์ แทร็กเตอร์ รถไถมือสอง”โพสต์ข้อความในแบบที่ประชาชนทั่วไปเข้าถึงและเห็นข้อความที่โพสต์นี้ได้ โฆษณา ขายรถแทรกเตอร์ (รถไถ) ในแบบที่ผู้กล่าวหาต้องการ ผู้กล่าวหาจึงติดต่อขอซื้อรถแทรกเตอร์ (รถไถ)และหลงเชื่อโอนเงินมัดจำให้ไป จำนวน 20,000 บาท โดยโอนเงินเข้า บัญชีธนาคารของผู้ต้องหา ต่อมาไม่ได้รับรถและไม่สามารถติดต่อได้ ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบแล้ว ขณะเกิดเหตุ บัญชีธนาคารที่รับโอนมี นายภานุพงศ์ เป็นเจ้าของบัญชี จากการตรวจสอบพบว่าบัญชีธนาคารนี้ รายการเดินบัญชีในแต่ละวันพบว่ามีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก ผิดวิสัยกับอาชีพและรายได้ของเจ้าของบัญชี พนักงานสอบสวนได้หมายเรียกให้เจ้าของบัญชี นี้มารับทราบข้อกล่าวหาเจ้าของบัญชีไม่มาตามหมายเรียก เชื่อว่าได้หลบหนีไปแล้ว

ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่เคยมีบัญชีนี้ ตัวเองเคยถูกแฮกเฟซบุ๊ก ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จากนั้นได้นำตัวส่งนักงานสอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธฝากเตือนประชาชนทั่วไป ถึงการหลอกขายของออนไลน์ที่พบว่ามีสถิติเป็นอันดับ1ของภัยออนไลน์ ซึ่งขอให้ประชาชนใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก อย่าเห็นแก่ของถูก มีสติ เพราะมิจฉาชีพที่เข้ามาหาในทุกรูปแบบ ทุกช่องทาง กับสินค้าและการบริการที่นับวันยิ่งมีความใกล้ตัวมากขึ้นทุกวัน ควรจะมีการพิจารณาเลือกซื้อสินค้าและบริการจากแหล่ง ข้อมูลข่าวสารที่เชื่อถือและสามารถจับต้องสินค้าได้จริงเท่านั้น “ผบก.สส.บ.ชน.กล่าว

#Thaitabloid#สำนักข่าวไทยแทบลอยด์#ผู้การจ๋อ