‘อสม.’นับล้าน เฮ ‘สมศักดิ์’ เตรียมผลักดัน พรบ.อสม. เพิ่มสวัสดิการ สร้างหลักประกัน เพื่อตอบแทนความเสียสละในฐานะด่านหน้า พร้อมให้ช่วยทำงานขับเคลื่อนนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ และป้องกันยาเสพติด
นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารฯสุข ฝ่ายการเมือง กล่าวว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข.กล่าวระหว่าง เป็นประธานร่วมในพิธีปิดโครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 9 ประจำปี 2567 เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมูลนิธิธรรมาภิบาล ร่วมกับแพทยสภา สถาบันมหิตลาภิเบศร สถาบันพระปกเกล้า ที่โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้นายสมศักดิ์ได้พบปะพูดคุยกับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) และย้ำว่ามีแนวคิดสร้างความมั่นคงให้กับ อสม. ด้วยการเสนอ พ.ร.บ.อสม. พร้อมวางแนวทางการยกระดับ อสม. ที่มีความเหมาะสม ให้สามารถเป็นผู้ช่วยพยาบาลได้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการเสียสละเพื่อชุมชนด้วยดีตลอดมา และเป็นการมอบความมั่นคงและยั่งยืนตอบแทนความเสียสละ ที่ อสม.เป็นด่านหน้าตั้งแต่ช่วงเกิดวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 เมื่อปี 2563-2565 และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ช่วยเหลือทีมแพทย์พยาบาลในพื้นที่อย่างเต็มกำลัง ทั้งเป็นผู้นำยาและเวชภัณฑ์ไปจัดส่งให้ผู้ป่วยถึงบ้าน
น.ส.ตรีชฎากล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้จะเป็นพลิกโฉม อสม.ครั้งสำคัญ นายสมศักดิ์มุ่งมั่นผลักดันให้ครม.เสนอร่างพ.ร.บ.อสม.เข้าสู่สภาผู้แทนฯและวุฒิสภาเพื่อยกระดับการปฎิบัติงาน พัฒนาศักยภาพ อสม.เพื่อประโยชน์ในการช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลในการดูแลประชาชนด้านสาธารณสุขขั้นปฐมภูมิ สิ่งที่จะเกิดขึ้น คือ การจัดสวัสดิการต่างๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาล กองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ การศึกษาต่อยอดจากหลักสูตรสาธารณสุข ถือเป็นการส่งเสริมกิจการ และสร้างหลักประกันให้กับ อสม.ที่ปัจจุบันมีจำนวน 1,075,163 คน
โดยกระบวนการน่าจะใช้เวลาไม่นาน และเมื่อมีกฎหมายออกมาจะทำให้ อสม. มีความมั่นคง เข้มแข็ง เป็นการตอบแทน อสม. และที่สำคัญอสม.จะได้ทำหน้าที่ช่วยเป็นหูเป็นตาในการสอดส่องดูแลป้องกันเรื่องของยาเสพติดอีกทางหนึ่งเพื่อชี้เบาะแสผู้ค้ายาเสพติดช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อช่วยในการปราบปรามยาเสพติดอีกทางโดยมีค่าตอบแทน 5%ของรางวัลจับกุมอีกทางหนึ่งด้วย นางสาวตรีชฎา กล่าว