กระทรวงสาธารณสุขร่วมหารือกระทรวงยุติธรรมนำผู้เสพที่ถูกคุมประพฤติ 1 แสนคนเข้ากระบวนการบำบัด ย้ำต้องดูแลโดยแพทย์
วันที่ 18 พ.ค.67 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผย ภายหลังการประชุมหารือแนวทางการจัดการผู้เสพยาเสพติดที่ศาลสั่งคุมประพฤติตามเจตนารมณ์ของประมวลกฎหมายยาเสพติด สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ได้หารือเกี่ยวกับการนำตัวผู้เสพที่เป็นผู้ป่วยจำนวน 100,000 รายที่อยู่ในการดูแลของกรมคุมประพฤติเข้าสู่กระบวนการบำบัด โดยมีหลายหน่วยงานดำเนินการร่วมกัน รวมถึงหารือในการปรับหรือแก้ไขกฎหมาย ปรับเพิ่มกระบวนการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมเป็นไปอย่างครบถ้วน
พร้อมย้ำว่า กรณีที่ผู้เสพที่มียาบ้าในครอบครองหนึ่งเม็ดและสมัครใจเข้ารับการบำบัดจะไม่ต้องขึ้นศาลรวมถึงไม่ต้องพิมพ์ลายนิ้วมือบันทึกประวัติอาชญากรรม แต่จะต้องให้ข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจขยายผลไปยังผู้ค้ายาเสพติดได้ ซึ่งกรณีนี้ได้หารือกับผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดเรียบร้อยแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า การหารือในวันนี้ได้ ติดตามในด้านงานเร่งรัดป้องกันปราบปรามปัญหายาเสพติดในทุกประเด็น โดยเน้นแก้ปัญหาเร่งด่วนคือ เรื่องกลุ่มผู้เสพยาเสพติดที่ไม่ได้นำตัวเข้าบำบัด โดยเบื้องต้นขอให้หน่วยงานฝ่ายปกครองทั้งมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดและความมั่นคง เช่น ทหารรับไปบำบัดฟื้นฟูต่อคล้ายกับรูปแบบผู้ป่วยนอกโดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับชุมชน เริ่มดำเนินการจากผู้ที่ศาลสั่งคุมความประพฤติ 100,000 คน
ส่วนกรณีที่ไม่สามารถนำผู้เสพเข้ากระบวนการบำบัดได้เนื่องจากในอดีตไม่มีคำสั่งจากศาลแขวง ซึ่งเป็นศาลที่มีอำนาจอย่างชัดเจนนั้น ทางกรมคุมประพฤติจะพิจารณาแก้ไขหรือปรับปรุงกฎหมาย รวมถึงประสานงานไปยังหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมที่เกี่ยวข้อง โดยเบื้องต้นกรมคุมประพฤติจะเสนอไปยังศาลให้เพิ่มเงื่อนไขในการนำตัวผู้กระทำผิดฐานยาเสพติดไปเข้ารับการบำบัดรักษาฟื้นฟู และเมื่อศาลได้เพิ่มเงื่อนไขมาแล้วก็จะสามารถนำตัวเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง และตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างหน่วยงานสาธารณสุข กรมคุมประพฤติ เพื่อคัดกรองผู้เสพรายดังกล่าวว่าอยู่ในระดับสีเขียว ส้มทหรือแดง เพื่อมีมาตรการดูแลที่เหมาะสม โดยปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขมีสถานบำบัดและแพทย์เพื่อรองรับเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว และหากไม่เข้ารับการบำบัดตามคำสั่งศาลก็จะถูกจับกุมดำเนินคดีต่อไป เพื่อคืนคนคุณภาพกลับสู่ชุมชนและเป็นการสร้างโอกาส
ต่างกับในอดีตที่มีพระราชบัญญัติบังคับบำบัดฯ ที่ส่งไปโรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง แต่ตอนนี้การบำบัดจะต้องกำกับโดยแพทย์ หรือหากอยู่ในชุมชนก็ต้องเป็นชุมชนที่สาธารณสุขดูแล เป็นการยกระดับที่แตกต่างไปจากกฎหมายฉบับเดิม ซึ่งขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจที่มี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน ร่วมด้วยมีปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาติดตามการทำงานในทุกสัปดาห์