ตม.จว.จันทบุรี ร่วมกับสำนักงานจัดหางานจังหวัดจันทบุรี บูรณาการร่วมออกตงผู้ประกอบกิจการซื้อขายทุเรียนในจังหวัดจันทบุรี และตรวจสอบป้องกันปราบปรามคนต่างด้าวแย่งอาชีพคนไทย ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา
เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2567 เวลาประมาณ 14.00 น. ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.วีรยศ การุณยธร รอง ผบก.ตม.2 รรท.ผกก.ตม.จว.จันทบุรี นำโดย พ.ต.ท.ศวัส โชติรณพัส รอง ผกก.ตม.จว.จันทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ตม.จว.จันทบุรี บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดจันทบุรี บูรณาการร่วมกันออกตรวจสอบประชาสัมพันธ์ประชาชน นายจ้าง เจ้าของสถานประกอบการ เเละคนต่างด้าว ที่มาประกอบกิจการซื้อขายทุเรียนในจังหวัดจันทบุรี ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา เพื่อป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ, พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวฯ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ที่บริเวณ ม.๕ ต.เขาวัว อ.ท่าใหม่ จว.จันทบุรี ได้แก่ ล้งโหลทวีทรัพย์ (Jin Di Fu) , ล้งเฉินหลง2 และบริเวณใกล้เคียง โดยพบเจ้าของกิจการ พร้อมพนักงานคนไทย มีเอกสารการทำงานถูกต้องครบถ้วน ไม่พบการใช้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและไม่พบคนต่างด้าวลักลอบทำงานโดยผิดกฎหมายเเต่อย่างใด
ทั้งนี้ จากตรวจสอบพบการไม่แจ้งที่พักอาศัยฯ ของคนต่างด้าว ตาม ม.38 พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ จำนวน ๑ ราย จึงดำเนินการเปรียบเทียบปรับผู้กระทำความผิดในความผิดฐาน “เป็นเจ้าบ้าน เจ้าของ หรือผู้ครอบครองเคหสถาน หรือผู้จัดการโรงแรม ซึ่งรับคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเข้าพักอาศัยโดยไม่แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน 24 ชั่วโมง” จำนวน 1 ราย เป็นที่เรียบร้อยเเล้ว นอกจากนี้ยังได้บูรณาการร่วมกันสุ่มตรวจสอบผู้ประกอบกิจการเร่ขายสินค้าในบริเวณดังกล่าว เพื่อป้องกันปราบปรามกลุ่มคนต่างด้าวลักลอบเร่ขายสินค้าแย่งอาชีพคนไทยโดยผิดกฎหมาย เเต่ยังไม่พบการกระทำความผิดแต่อย่างใด ซึ่ง พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3 ได้สั่งการกำชับให้ ตม.จว.จันทบุรี มีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานข้างเคียง หมั่นออกตรวจสอบ และประชาสัมพันธ์ให้คำเเนะนำกับประชาชน นายจ้าง เจ้าของสถานประกอบการเเละคนต่างด้าวที่ประกอบกิจการในพื้นที่ เพื่อป้องกันปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่องโดยตลอด ควบคู่ไปกับการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อการดำเนินชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุขของคนในพื้นที่ต่อไป
#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์
