8 ตำรวจ สภ.อรัญฯ ชุดจับกุม-คลุมถุงดำลุงเปี๊ยก เข้ารับทราบข้อกล่าวหา พ.ร.บ.อุ้มหายฯ กับ DSI – พนักงานสอบสวน คาดสรุปสำนวนส่งอัยการทุจริตภาค 2 สั่งฟ้องมิถุนายน นี้
วันนี้ (9 พ.ค. 67) ที่ อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ความคืบหน้าล่าสุดจากกรณีที่ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งการให้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 9/2567 กรณีนายปัญญา คงแสนคำ หรือลุงเปี๊ยก ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ ดำเนินคดีอาญาโดยมิชอบด้วยกฎหมายตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ นั้น
ล่าสุดเวลา 10.30 น. นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผอ.กองกิจการอำนวยความยุติธรรม หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน หัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด และคณะพนักงานอัยการ และ ดร.น้ำแท้ มีบุญสล้าง เลขานุการรองอัยการสูงสุด (นายอดิศร ไชยคุปต์) ได้ร่วมกันจัดเตรียมห้องประชุมและเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน 4 ชุด สำหรับการสอบปากคำและเเจ้งข้อหาแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ จำนวน 8 ราย โดยแบ่งเป็นสองรอบ คือ ช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 12.00 น. และในช่วงบ่ายตั้งแต่เวลา 13.00 น. – 16.30 น.
สำหรับบรรยากาศช่วงเช้าที่ผ่านมาปรากฏว่าผู้ต้องหาทั้ง 8 รายได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนครบทั้งหมดแล้ว โดยเป็นการเดินทางมาก่อนเวลานัดหมาย และทั้งหมดล้วนแต่งกายด้วยชุดนอกเครื่องแบบ สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว สีดำ สวมทับกับเสื้อสูท รวมถึงไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพภายในห้องประชุม
นอกจากนี้ มีรายงานว่าผู้ต้องหาส่วนใหญ่ล้วนขอให้การเป็นลายลักษณ์อักษรแทนการให้ปากคำในประเด็นสำคัญ โดยขออนุญาตเข้าพบพนักงานสอบสวนอีกครั้งในวันที่ 27 พ.ค. ขณะนี้คณะพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการเริ่มสอบปากคำ 8 ผู้ต้องหา ทั้งนี้ คาดว่าในช่วง 13.00 น. เป็นต้นไป นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการฯ และนายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผอ.กองกิจการอำนวยความยุติธรรม จะออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน
คณะพนักงานสอบสวนคดีลุงเปี๊ยกแจ้งข้อหา 157- พ.ร.บ.อุ้มหายฯ 8 ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ คาดสรุปสำนวนส่งอัยการทุจริตภาค 2 สั่งฟ้องมิถุนายนนี้
นายวัชรินทร์ ภานุรัตน์ นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า วันนี้คณะ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหากับตำรวจ สถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศทั้ง 8 รายที่ถูกดำเนินคดีจากกรณีถูกกล่าวหาว่าบังคับหรือทรมานให้นายปัญญา คงแสนคำ หรือ “ลุงเปี๊ยก” รับสารภาพในคดีฆาตกรรม นางบัวผัน ตันสุ หรือ “ป้าบัวผัน” ในผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานหรือ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ มาตรา 6 และ 7 ตามพฤติการณ์ของแต่ละคน ภายหลังจากได้แจ้งข้อเท็จจริงและพฤติการณ์แห่งคดีให้กับผู้ต้องหาทั้งหมดแล้ว จากนั้นจะปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งหมด โดยไม่ได้ให้ทำสัญญาประกันตัวเนื่องจากทุกคนมีตำแหน่งหน้าที่เป็นหลักแหล่ง และไม่มีพฤติการณ์หลบหนี
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และจะขอทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงเป็นลายลักษณ์อักษร โดยกำหนดให้ส่งภายในวันที่ภายในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้เท่านั้นเพื่อไม่ให้เกิดการประวิงคดี และทุกคนต้องมาด้วยตัวเอง หากไม่มาจะถือว่าไม่ประสงค์ชี้แจงพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทางคณะพนักงานสอบสวนจะตรวจสอบคำให้การและคำชี้แจงว่ารับฟังได้หรือไม่ ก่อนสรุปสำนวนพร้อมมีความเห็นทางคดีช่วงเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อส่งให้อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุพิจารณาสั่งฟ้องต่อไป
ทั้งนี้ นายวัชรินทร์ ยืนยันว่า กรณีของผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศนั้น มีพยานหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด รวมถึงคำให้การจากลุงเปี๊ยกปรากฏชัดเจนว่าอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตรวจสอบพยานหลักฐานแล้วว่าไม่เกี่ยวข้องหรือมีส่วนรู้เห็นก็จะไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา คือ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคสองนั้น ที่ไม่ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาตาม 157 และ พ.ร.บ. อุ้มหายฯ มาตรา 42 จากการไม่ระงับยับยั้งการกระทำของผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งที่รู้แต่แรก หรือรับทราบแล้วแต่ไม่ดำเนินคดี ซึ่งจากการพิจารณาทราบว่าได้รับรายงานในภายหลัง และได้สั่งการให้ดำเนินคดีแล้วในเวลาต่อมา เช่นเดียวกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศที่ไม่ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในวันนี้ เนื่องจากเป็นกระบวนการปลายทาง ขณะที่กระบวนการทำผิดนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่การควบคุมตัวลุงเปี๊ยกจนถึงขั้นตอนการนำตัวมาที่ห้องสืบสวนสถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ ซึ่งทั้งหมดได้กระทำการที่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอุ้มหายแล้วเสร็จทั้งหมดก่อนนำตัวลุงเปี๊ยกมาส่งพนักงานสอบสวน
