เมื่อ วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 04.30 น.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.3 บก.ปส.2 จับกุม ผู้ต้องหา 2 คน นายนัฐพงษ์ อายุ 25 ปี พักอยู่ชุมชนคลองเตย กรุงเทพฯ หน้าที่คนขับรถยนต์และนายพรพจน์ ฯ อายุ29 อยู่ที่ ม. 9 ต.พันดอน อ.กุมภวาปี จว.อุดรธานี นั่งมาด้วย และเป็นเจ้าของรถยนย์ของกลางที่ใช้บรรทุกยาบ้า โดยนั่งมาด้วยข้างคนขับ
พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวนประมาณ 2,000,000 เม็ด รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ Dmax สีบลอนเงิน หมายเลขทะเบียน ผผ 7490 อุดรธานี(ราคาประมาณ 800,000บาท) สถานที่เกิดเหตุ บริเวณแยกไฟแดงหน้า รพ.ศรีนครินทร์ ถนนมิตรภาพ ต.ในเมืองอ.เมือง จว.ขอนแก่น
โดยในคดีนี้เป็นการขยายผลจากการจับกุมนายธนัตชัยฯหรือเบส พร้อม ยาบ้า 2,540,000 เม็ด เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2566 ในพื้นที่ขอนแก่น และขยายผลจนทราบเครือข่ายทีมลำเลียงของนายเบสฯ เพิ่มเติม จึงได้เฝ้าติดตามพฤติการณ์บุคคลและยานพาหนะรถยนต์ที่ใช้ในการลำเลียงของเครือข่ายดังกล่าว จึงได้ติดตามและเฝ้าระวังมาโดยตลอด จนพบพฤติการณ์ผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมรถยนต์กะบะดังกล่าวได้ไปรับยาเสพติดในพื้นที่บ้านอาฮง ต.ไคสี อ.เมือง จว.บึงกาฬ กำลังเดินทางไปมุ่งหน้าไป จ.ขอนแก่น ชุดจับกุมจึงได้ติดตามไปจนถึงบริเวณแยกไฟแดงหน้า รพ.ศรีนครินทร์ ถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จว.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเข้าสกัดรถยนต์ดังกล่าว และตรวจค้นรถพบยาบ้าจำนวนประมาณ 2,000,000 เม็ดซุกซ่อนอยู่ในเบาะโดยสารด้านหลังคนขับ จึงจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมยาบ้าของกลางดังกล่าว
สอบถามผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพ โดยนายนัฐพงษ์ฯ ผู้ต้องหาที่ 1 รับว่าคนไม่มีงานทำ จึงติดต่อเพื่อนที่รู้จักที่เคยบอกว่าถ้าอยากมีงานให้โทรหา จึงได้ติดต่อไป เพื่อนได้ให้มาขับรถยนต์ลำเลียงยาบ้าจากจ.บึงกาฬไปส่งแถวพื้นที่ จ.ขอนแก่น จะได้ค่าจ้าง 50,000 บาทหลังเสร็จงาน ตนจึงได้เดินทางจากกรุงเทพฯขึ้นมาที่บึงกาฬ และมาพบกับนายพรพจน์ฯโดยการนัดหมายของเพื่อน และขับรถยนต์ของนายพรพจน์ฯไปจอดในพื้นที่อาฮง ต.ไคสี อ.เมือง จว.บึงกาฬ แล้วมีคนนำรถไปใส่ยาบ้ามาส่งจุดที่นัดหมาย ตนจึงขับรถดังกล่าวออกมาพร้อมนายพรพจน์ฯ และถูกจับกุมดังกล่าว
ส่วนนายพรพจน์ฯผู้ต้องหาที่2 รับว่าตนตกงานไม่มีรายได้ผ่อนรถ และได้รับการติดต่อจากเพื่อนที่รู้จักตอนทำงานก่อสร้างให้มารับงาน โดยให้นำรถยนต์ของตัวเองมาบรรทุกส่งยาบ้าไปส่งให้กับผู้สั่งการซึ่งเป็นคนลาว(ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) ว่าจ้างเป็นเงิน 50,000 บาท เพื่อลำเลียงบึงกาฬไป จ.ขอนแก่น จึงได้ขับรถยนต์มาเจอกับนายนัฐพงษ์ฯ ซึ่งไม่รู้จักกันมาก่อน โดยเพื่อนเป็นคนนัดให้มาเจอกันในพื้นที่บึงกาฬฯ และนายนัฐพงษ์ฯมีหน้าที่ขับรถยนต์ ตนร่วมนั่งอยู่ด้านข้างจนกระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว โดยผู้ต้องหาท้้งสองนั้นยังไม่รับได้ค่าจ้าง จะได้ค่าจ้างเมื่อเสร็จงาน
พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินัย ผบช.ปส.ได้เดินทางไปร่วมซักถามผู้ต้องหาทั้งสองที่ นปส.อุดรธานี เผยว่า กลุ่มผู้ต้องหาเป็นเครือข่ายทีมลำเลียงตายแทนเช่นเดียวกับที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาทุกรายมักอ้างปัญหาทางเศรษฐกิจ ไม่มีรายได้ แต่จะหารายได้แบบได้เงินง่ายๆ ซึ่งก็ไม่คุ้มกับความสูญเสีย ต้องถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาหนัก ซึ่งผู้สั่งการส่วนใหญ่ ในส่วนของกลุ่มที่ลักลอบลำเลียงทางภาคอิสานนั้น มักจะเป็นคนไทยที่หลบหนีคดีหรือนายทุนคนลาวซึ่งอยู่ฝั่งประเทศลาว เป็นผู้สั่งการซึ่งขณะนี้สืบสวนขยายผลทราบตัวแล้ว จะได้ดำเนินการออกหมายจับต่อไป
