เชฟสเปนคดีฆ่าหั่นศพเพื่อนชายแถลงปิดคดีเรียบร้อย หลังสืบพยานโจทก์และจำเลยกว่า 30 ปากเสร็จสิ้น โดยศาลสมุยนัดคู่ความมาฟังคำพิพากษา 29 ส.ค. อัยการรับ คดีฆ่าโดยไตร่ตรองพิสูจน์ยาก แต่มีหลักฐานเยอะ ทนายจำเลยยันแดเนียลเสียใจ ไม่มีเจตนา แต่ไม่ขอโทษ ตำรวจ-อัยการตั้งข้อหาแรงเกิน โจทก์ร่วมขอให้ช่วยเยียวยาครอบครัวเหยื่อบ้าง
ที่ศาลจังหวัดเกาะสมุย วันที่ 2 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดเกาะสมุย เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายเดเนียล เจโรนีโม ซานโช้ บอลชาโดร์ (Mr.DANIEL JERONIMO SANCHO BRONCHALO) หรือนายแดเนียล เจโรนีโม ซานโช้ บอลชาโดร์ เชฟปรุงอาหาร อายุ 29 ปีเศษ สัญชาติสเปน เป็นจำเลย ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งการตาย และทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสารของผู้อื่น (หนังสือเดินทาง) กรณีก่อเหตุฆ่าหั่นศพนายเอสวิน อาเรียต้า อาร์ทีก้า (Mr.EDWIN MIGUEL ARRIETA ARTEAGA) อายุ 44 ปี ศัลยแพทย์สัญชาติโคลัมเบีย เหตุเกิดเมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2566 ที่ ต.เกาะพงัน อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี โดยศาลได้นัดพร้อมไปเมื่อเดือน พ.ย.66 ก่อนที่ได้นัดสืบพยานฝ่ายโจทก์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 เม.ย.67 จนครบทุกปากไปเมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่เริ่มสืบพยานฝ่ายจำเลยวันที่ 23 เม.ย. และทำการสืบพยานปากสุดท้ายซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญชาวสเปน เสร็จสิ้นเมื่อคืนวันที่ 1 ที่ผ่านมา ท่ามกลางการปักหลักติดตามทำข่าวอย่างใกล้ชิดโดยกองทัพสื่อมวลชนประเทศสเปน
โดยช่วงเช้าวันนี้นายแดเนียลได้ขึ้นกล่าวแถลงปิดคดีด้วยตัวเอง ก่อนที่ศาลจะนัดคู่ความมาฟังคำพิพากษาในวันที่ 29 สิงหาคม 2567 ซึ่งเมื่อวานนี้ช่วงเช้านายแดเนียลได้ขึ้นให้การเป็นพยานให้กับตัวเอง ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง จากนั้นในช่วงบ่ายทนายจำเลยได้เบิกตัวผู้เชี่ยวชาวสเปน 2 รายขึ้นให้การในฐานะพยาน ซึ่งรวมแล้วคดีนี้มีการเบิกพยานรวมกว่า 30 ปาก
นายเมธาพนธ์ สุวรรณเจริญ หรือทนายแมน ในฐานะทนายความฝ่ายโจทก์ร่วมเปิดเผยว่า ในการแถลงปิดคดี จำเลยได้กล่าวแสดงความเสียใจ แต่อาจมองได้หลายทางว่าเขารู้สึกเช่นนั้นจริง หรือมีผู้แนะนำให้พูดเพื่อผลเกี่ยวกับอัตราโทษ เพราะหากกล่าวในช่วงแรก ๆ ก็พอมั่นใจได้ว่าเขาเสียใจจริง แต่นี่มากล่าวตอนนัดท้าย ๆ เช่นเดียวกับเรื่องการชดใช้เยียวยาครอบครัวผู้ตายเขาเพิ่งจะมาพูดว่าไม่ติดขัดอะไร แต่ในช่วงแรกบอกว่าตัวเองไม่ได้กระทำผิด จะให้จ่ายค่าเสียหายได้อย่างไร
“วันนี้แดเนียลได้กล่าวแสดงความเสียใจที่เขามีส่วนกับการเสียชีวิตของผู้ตาย ทำให้ครอบครัวต้องสูญเสียคนที่รักไป เขารู้สึกว่าเขาไม่น่าจะทำแบบนั้น ส่วนเรื่องค่าเสียหายเขาพูดทำนองว่าพร้อมจะจ่าย แต่ก่อนหน้านี้เขาเคยพูดในศาลว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิด แค่ป้องกันตัว ไม่ใช่ฝ่ายที่ทำผิด ดังนั้นเขาจะไม่จ่าย ซึ่งดูเหมือนวันนี้เขาจะเปลี่ยนท่าที สำหรับภาพรวมผมคิดว่าเป็นผลดีต่อฝ่ายโจทก์ ซึ่งทางเราไใม่ได้มีเจตนาจะให้คนถูกลงโทษเกินกว่าความผิดที่เขาทำ ซึ่งเรื่องการไตร่ตรองหรือไม่ศาลจะเป็นผู้ตัดสิน ในส่วนของพวกเราทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว” ทนายแมนระบุ
ทั้งนี้เขากล่าวถึงการขึ้นเป็นพยานจำเลยของแดเนียลวานนี้ (1) ว่า อัยการเจ้าของคดีคือนายจิรวัฒน์ สวัสดิชัย เป็นผู้ซักถามหลัก ซึ่งท่านได้ถามนายแดเนียลถึงเรื่องราวต่าง ๆ ตั้งแต่ก่อนเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ว่ามีการวางแผน เตรียมการอะไรหรือไม่ เขารู้จักกับผู้ตายมาก่อนหรือไม่ และหลังจากที่นายเอ็ดวินเสียชีวิต เขาหั่นศพอย่างไร นำชิ้นส่วนไปทิ้งที่ไหนอย่างไร เป็นต้น
“เป็นการซักถามจำเลยในประเด็นต่าง ๆ ในมุมของโจทก์ หลังจากที่ทนายจำเลยได้ซักถามไปแล้วเมื่อวันที่ 30 เม.ย. ซึ่งเมื่อวานนี้ฝ่ายผมได้ถามลงลึกไปในรายละเอียด โดยได้เทียบว่าคำให้การที่เขาเคยให้ไปก่อนหน้านี้ เมื่อถามใหม่อีกครั้งยังให้การตรงตามเดิมหรือไม่ เหมือนหรือมีส่วนใดที่ต่างออกไป เพราะสิ่งนี้เป็นประเด็นที่ศาลท่านจะนำไปพิจารณาว่าตกลงแล้วเหตุการณ์ที่แท้จริงเป็นอย่างไรกันแน่ ซึ่งรู้สึกพอใจกับการซักพยานวานนี้ และในภาพรวมเพราะผลออกมาตรงกับแนวทางที่วางไว้”
ต่อข้อถามถึงการชดใช้ค่าเสียหายให้กับครอบครัวของผู้ตาย นายเมธาพนธ์กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน เพราะอีกฝ่ายยังไม่ได้เจรจา และคงต้องรอฟังคำตัดสินของศาลก่อน อย่างไรก็ตามเมื่อมีการตายเกิดขึ้น ไม่ว่าไตร่ตรองหรือไม่ จำเลยก็ควรแสดงความเสียใจ และเสนอความช่วยเหลือ เยียวยาแก่ครอบครัวของอีกฝ่าย เพื่อแสดงถึงมนุษยธรรม ซึ่งศาลอาจจะนำมาเป็นประเด็นในการบรรเทาโทษด้วย
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ทางฝ่ายโจทก์ร่วมเคยระบุจำนวนเงินค่าเสียหายที่จะเรียกร้องต่อฝ่ายจำเลยเอาไว้ที่ 30 ล้านบาท อย่างไรก็ตามจำเลยเคยให้การต่อศาลว่าไม่มีความประสงค์จะจ่ายเยียวยาให้กับครอบครัวของนายเอ็ดวินแต่อย่างใด ขณะที่มีข้อกังวลว่า หากศาลไทยมีคำสั่งให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย ทางฝ่ายครอบครัวนายเอ็ดวินจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะทรัพย์สินของนายแดเนียลอยู่ที่ประเทศสเปน และอาจจะมีไม่มากพอกับจำนวนที่ศาลสั่ง
ด้านนายอภิชาต ศรีนวล ทนายจำเลย เปิดเผยว่า การกล่าวปิดคดีเป็นไปด้วยดี ศาลเปิดโอกาสให้แดเนียลได้เล่าถึงเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งเป็นการต่อสู้ป้องกันตัวจากการถูกคุกคาม แต่ไม่ได้มีเจตนาจะให้อีกฝ่ายถึงแก่ชีวิต ซึ่งเขาได้แสดงความเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น มันเป็นอุบัติเหตุ แต่อัยการสั่งฟ้องในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนซึ่งแรงเกินกว่าข้อเท็จจริง เขาจึงต้องสู้ข้อหานี้
ต่ข้อถามว่าแดเนียลได้ขอโทษครอบครัวนายเอ็ดวินในคำแถลงปิดหรือไม่ “เขาแสดงความเสียใจหลายครั้ง แต่ไม่ได้พูดคำนั้น(ขอโทษ) ส่วนเรื่องการจ่ายค่าเสียหายเขาเคยแสดงเจตนารมณ์ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ต้องกระทำผ่านกระบวนการศาล ต้องรอฟังคำพิพากษาก่อน เพราะขณะนี้ยังไม่มีใครรู้เลยว่าโทษจะหนักเบาแค่ไหน ศาลจะสั่งให้ชดเชยเท่าไหร่ ส่วนข้อหาไตร่ตรองนั้นเราไม่ยอมรับ แต่ไม่ได้ปฏิเสธว่าเขามีส่วนทำให้ตาย” ทนายจำเลยกล่าว
ทั้งนี้นายอภิชาติกล่าวถึงการให้การเมื่อวานนี้ว่าแดเนียลให้ข้อมูลตามความจริง ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง โดยนายเขามีความพร้อมอย่างเต็มที่ และใม่ได้มีการซักซ้อมอะไร เพราะการพูดความจริง พูดเมื่อไหร่ก็เหมือนเดิม
ขณะที่แหล่งข่าวจากฝ่ายอัยการยอมรับว่าคดีฆ่าโดยไตรตรองไว้ก่อนโดยทั่วไปเป็นเรื่องยากที่จะไปพิสูจน์ โดยเฉพาะคดีนี้ที่ไม่มีประจักษ์พยาน อย่างไรก็ตามในคดีนี้อัยการไม่ได้มีเพียงหลักฐานที่เป็นมีดอย่างเดียว แต่ยังมีอย่างอื่นประกอบด้วย ในส่วนของประเด็นพยานผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศนั้น แหล่งข่าวระบุว่าทางอัยการไม่ได้ให้น้ำหนักมาก เพราะเป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ตาย ซึ่งไม่ได้เกี่ยวโดยตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และใครจะมีความเห็นอะไรก็ได้ ส่วนศาลจะฟังหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเนื่องจากคดีนี้แพทย์ผู้ชันสูตรเขียนในรายงานว่า ไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่พบชิ้นส่วนสำคัญของร่างกายผู้ตายนั่นคือช่วงตั้งแต่ทรวงอกลงมาถึงหน้าท้อง ซึ่งจะสามารถทำให้แพทย์วินิฉัยสาเหตุการตายได้ อีกทั้งวัตถุพยานที่พบโดยเฉพาะมีด ก็ไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าเป็นอาวุธที่ใช้สังหารหรือไม่ เพราะไม่รู้สาเหตุการตายที่แน่ชัด ซึ่งฝ่ายทนายจำเลยได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อสเปนหลายครั้งโดยระบุว่านายแดเนียลมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของนายเอ็ดวินจริง แต่เป็นการป้องกันตัว เพราะมีการทะเลาะและต่อสู้กัน และเกิดอุบัติเหตุขึ้น
ขณะที่ทั้งอัยการและโจกท์ร่วมเองก็ยอมรับว่าอาจจะเป็นเรื่องยากที่ศาลจะตัดสินให้จำเลยมีความผิดในฐานะฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งมีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต แต่มั่นใจว่านายแดเนียลน่าจะถูกตัดสินให้รับโทษในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นซึ่งแม้จะไม่ถูกตัดสินประหารชีวิตแต่ก็อาจจะมีอัตราโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือสูงสุดถึง 20 ปี
โดยเกือบ 1 เดือนที่ศาลนัดสิบพยาน นายโรโดโฟล ซานโช่ บิดาของนายแดเนียล ซึ่งเป็นดาราภาพยนต์ชาวสเปนได้เดินทางมาที่เกาะสมุยและเข้าร่วมรับฟังการพิจารณาทุกนัด และกำหนดเดิมเขาจะขึ้นให้การเป็นพยานในวันที่ 1 พ.ค. ด้วย แต่ทางทีมทนายจำเลยทั้งชาวไทยและสเปนเห็นพ้องกันว่าพยานที่มีก็เพียงพอแล้ว จึงตัดสินใจ ไม่ให้นายโรโดโฟลขึ้นให้การ อย่างไรก็ตามเนื่องจากเขาเป็นที่รู้จักของชาวสเปนทำให้เมื่อเขาเข้าและออกศาลาสื่อมวลชนทั้งกระแสหลักและปาปารัสซี่จะกรูเข้าไปสัมภาษณ์และบันทึกภาพทุกวันที่ศาลนัด