หนุนเกษตรกรพรุแฆแฆปลูก”ถั่วหรั่ง”สร้างรายได้

326

กรมส่งเสริมการเกษตร หนุนเกษตรกรโครงการพัฒนาพื้นที่”พรุแฆแฆ” อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดปัตตานี ปลูก “ถั่วหรั่ง” พืชใช้น้ำน้อย สร้างรายได้เสริมครัวเรือน

นายครองศักดิ์ สงรักษา รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า โครงการพัฒนาพื้นที่พรุแฆแฆ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็น1ในโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องการระบายน้ำออกจากพื้นที่พรุ การขาดแคลนน้ำสำหรับการเพาะปลูก การอุปโภค บริโภคของราษฎรจ.ปัตตานี ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตั้งพระราชหฤทัยมั่นที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด พระบรมราชปณิธานและพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาลที่ 9 กรมส่งเสริมการเกษตรได้น้อมนำแนวทางพระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา” รวมถึง “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” มาเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนโครงการฯ บนฐานความต้องการของชุมชนและศักยภาพของพื้นที่เป็นสำคัญ เป็นการลดและบรรเทาปัญหาต่างๆในพื้นที่ เสริมสร้างความเข้มแข็งและความมั่นคงในการประกอบอาชีพ สามารถพึ่งพาตนเองได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สำนักงานเกษตรจ.ปัตตานีได้มุ่งเน้นส่งเสริมการรวมกลุ่ม เพื่อการพัฒนาแบบองค์รวมของชุมชนให้มีความเข้มแข็งในอาชีพ ผ่านการถ่ายทอดความรู้ตามหลักวิชาการ ผสมผสานกับองค์ความรู้จากภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่การนำไปปฏิบัติ ยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ลดรายจ่าย เพิ่มผลผลิต เพิ่มรายได้ สามารถใช้ประโยชน์จากดินและน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์แก่เกษตรกรในชุมชนสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

ด้าน น.ส.พนิดา เสสน เกษตรอำเภอปะนาเระ กล่าวว่า ได้เล็งเห็นความสำคัญของ”ถั่วหรั่ง” ที่เคยเป็นพืชเสริมเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรแต่เลือนหายจากพื้นที่จ.ปัตตานี จึงได้ชักชวนเกษตรกร ต.พ่อมิ่ง อ.ปะนาเระ ร่วมกันปลูกถั่วหรั่ง รื้อฟื้นพืชอัตลักษณ์ท้องถิ่นที่ใช้น้ำน้อย มีเกษตรกรสนใจเข้าร่วม 11 ราย ในพื้นที่กว่า 20 ไร่ โดยกำหนดข้อตกลงของกลุ่ม เรื่องการกำหนดแผนการปลูก วิธีการปลูก การดูแลรักษา การใส่ปุ๋ย การจัดทำธนาคารเมล็ดพันธุ์ และการจำหน่ายร่วมกัน จากนั้นได้ร่วมกับศูนย์วิจัยพืชไร่สงขลา กรมวิชาการเกษตร ศึกษาทดสอบเทคโนโลยีการปลูกที่เหมาะสมกับพื้นที่ จนเกิดเป็นการพัฒนาเชิงพื้นที่ควบคู่กันไป ผลลัพธ์จากการส่งเสริมทำให้มีผลผลิตถั่วหรั่งรวม 16,800 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 672,000 บาท มีพ่อค้าคนกลางเข้ามารับซื้อผลผลิตจากหน้าไร่ของเกษตรกรโดยตรงเพื่อนำไปจำหน่ายในจ.ปัตตานีและจังหวัดใกล้เคียง และจากการสนับสนุนของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ในการประชาสัมพันธ์จำหน่ายผลผลิตผ่านทางออนไลน์ ทำให้ถั่วหรั่งเป็นที่รู้จัก และได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น จนผลผลิตไม่เพียงพอต่อการจำหน่าย

น.ส.พนิดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ถั่วหรั่งเป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อยทนต่อความแห้งแล้งได้ดี ไม่พบปัญหาโรคและแมลงเข้าทำลาย สามารถเจริญเติบโตได้ดีแม้ในดินที่มีสภาพความอุดมสมบูรณ์ต่ำ ซึ่งพื้นที่ต.พ่อมิ่ง มีความเหมาะสม เนื่องจากสภาพดินเป็นชุดดินบ้านทอน ลักษณะดินส่วนใหญ่เป็นดินทรายที่มีชั้นดานอินทรีย์ มีลักษณะความเป็นกรดเล็กน้อยถึงปานกลาง คือ ค่า pH ประมาณ5.5-6.0 มีการระบายน้ำค่อนข้างมาก เป็นดินที่เหมาะสมแก่การปลูกถั่วหรั่ง แต่ควรปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยพืชสดเพิ่มเติมด้วย สำหรับเกษตรกรที่สนใจ สามารถหาซื้อพันธุ์ถั่วหรั่งมาปลูกจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ เช่น ศูนย์วิจัยพืชไร่สงขลา กรมวิชาการเกษตร โทร. 074205980

ด้าน นางเจ๊ะวอ มาแฮ เกษตรกรผู้ปลูกถั่วหรั่ง กล่าวว่า ปลูกถั่วหรั่งในพื้นที่ 2 ไร่ ระยะเวลาเก็บเกี่ยวผลผลิตประมาณ 110 – 120 วัน ได้ผลผลิตฝักสดประมาณ 1,680 กิโลกรัม ขายราคากิโลกรัมละ 40 บาท คิดเป็นรายได้ 67,200 บาท หักต้นทุนการผลิตเป็นค่าเตรียมดินและเมล็ดพันธุ์ 3,000 บาท ได้กำไร 64,200 บาท และจากการได้รับคำแนะนำจากเกษตรอำเภอปานะเระ รวมทั้งได้รับการสนับสนุนองค์ความรู้หลักการใช้ปุ๋ยที่ถูกต้อง ส่งผลให้ได้ผลผลิตมากและขายได้ราคาดี ตนรู้สึกดีใจและภูมิใจมากที่มีรายได้ และมีองค์ความรู้ที่นำมาแลกเปลี่ยนเพื่อนบ้าน โดยมีเทคนิคการปลูกถั่วหรั่ง ด้วยการสลับแถวในการหยอดเมล็ดต่อหลุมเพื่อให้พุ่มของถั่วไม่แน่นเกินไป ทำให้ได้ผลผลิตมากขึ้นและการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกถั่วหรั่ง นอกจากเป็นการรื้อฟื้นพืชอัตลักษณ์ท้องถิ่นให้กลับมาได้รับความนิยมบริโภคแล้ว ยังทำให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้เพิ่มขึ้น มีความมั่นคงในอาชีพ และส่งผลต่อความสงบสุขในพื้นที่

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #เกษตรกร