ต้อนรับปีใหม่ไทย รอดูชาวสีกากีน้ำดีได้ผงาดเพราะผู้นำมีปณิธาน-ไม่แถ ยึดมั่นกางกฎหมาย ใช้ พ.ร.บ.ตำรวจแต่งตั้งฯ                             

17660


               เทศกาลสงกรานต์หรือปีใหม่ไทยคราวนี้ขอชื่นชมการทำงานของตำรวจที่ควบคุมสถานการณ์สาดน้ำสงกรานต์ในภาพรวมทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัดได้ดีเยี่ยมกว่าหลายปีที่ผ่านมา


                  อาจเป็นเพราะผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติภายใต้การนำของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.)รักษาราชการแทนผบ.ตร.ต่างร่วมมือร่วมใจติวเข้ม กวดขันผู้ใต้บังคับบัญชา ให้ยึดมั่นในบทบาทของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง


                    บวกกับความฝันของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐที่ว่า”เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะใช้บทบาทหน้าที่การเป็นตำรวจในการดูแลประชาชน สร้างภาพลักษณ์ที่ก้าวไปสู่การเป็นตำรวจอาชีพ ผมขอยืนยันว่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้เพื่อนข้าราชการตำรวจทุกคน ขณะเดียวกันอยากจะได้ความร่วมมือกับตำรวจทุกคนด้วย


                 ผมมีความฝันอยากขายให้กับพวกท่าน มีหลายคนที่กล่าวว่าผมขายฝัน ยอมรับว่าผมขายฝัน แต่ที่ขายให้พวกท่าน ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่ต้องเสียเงินซื้อฝันของผม เชื่อว่าฝันของผมไม่ต่างจากฝันของท่าน ที่อยากให้ตำรวจของเราเป็นตำรวจที่ดี เป็นตำรวจที่ประชาชนยอมรับ เป็นตำรวจที่ประชาชนอ้าแขนรับในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ และเชื่อมั่นในการทำงาน สิ่งที่ตามในฝันคือองค์กรของเราจะเป็นที่เชื่อมั่นและศรัทธาของประชาชนและสังคมไทย


            ผมต้องการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติยืนหยัดอยู่บนเกียรติภูมิที่ควรจะเป็น ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป อยากเชิญชวนพวกเราทุกคนช่วยกันก้าวละเล็กก้าวละน้อยเพื่อที่จะเป็นตำรวจที่ดีของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นี่คือความฝันของผม ท่านซื้อหาโดยไม่ต้องจ่ายเงิน ใช้กำลังแรงกำลังใจ ความเสียสละทุ่มเท ความอดทนของทุกท่าน  ผมไม่ต้องการสร้างผลงานให้กับตัวเอง แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นจากน้ำพักน้ำแรงของพวกท่าน จะสะท้อนไปยังองค์กรของเราคือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีที่ยืนอย่างมีศักดิ์ศรีและมีเกียรติภูมิ…”


        ที่ยกมาเปรียบดังปณิธานหรือคำสัญญาที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ให้ไว้กับบรรดาชาวสีกากี ตีความแบบตรงไปตรงมาว่าถ้าตำรวจทุกคนทำความดี มีผลงาน ความก้าวหน้าจะบังเกิดกับตัวเองแบบไม่ต้องมีปัจจัยนำเหมือนอดีตที่ผ่านมา


       ถ้าดูจากสถานการณ์ ณ เวลานี้ เชื่อว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ นั่งรักษาการผบ.ตร.ยาวถึง 30 กันยายนและมีโอกาสผงาดนั่งเบอร์ 1 แบบไร้คู่แข่ง เพราะนั่งรักษาการฯเพียงไม่กี่เดือนผลงานสยบอาชญากรออกมาแบบรัวๆ


        หากย้อนดูตัวช่วยที่จะเสริมให้องค์กรตำรวจกลับมีเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีดังเดิม มีอยู่หลายตัว ประกอบด้วยคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) โดยเฉพาะก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 6 คน ที่ผ่านมาต่างมีบทบาทช่วยคานอำนาจกับฝ่ายบริหารแบบแข็งขัน ในช่วงที่แต่งตั้งโยกย้ายระดับรองผบ.ตร.-สารวัตร(สว.)


      โดยเฉพาะบทบาทที่เร่งเยียวยาให้กับตำรวจที่ถูกโยกย้ายข้ามกองบัญชาการ(บช.)แบบไม่เป็นธรรมในอดีต ได้กลับมานั่ง บช.เดิม แม้จะยังไม่ครบทุกคนที่ร้องขอ แต่ได้ดำเนินการให้เห็นเป็นรูปธรรมในบางส่วนแล้ว จากอดีตที่ไม่เคยมีมาก่อน


      ขณะเดียวกัน กฎหมายตำรวจ 2565 เริ่มบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบ มีคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ(ก.พ.ค.ตร.)แต่งตั้งเรียบร้อยแล้ว แต่ละคนล้วนมีเครดิตที่ดีสังคมเชื่อถือ และได้ประกาศเจตนารมณ์จะช่วยเหลือตำรวจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ พร้อมเปิดช่องทางให้ร้องเรียนแบบหลากหลายเพื่อความรวดเร็วในการแก้ปัญหา


     ดังนั้นเมื่อมีผู้นำองค์กรมีปณิธานอย่างแนวแน่ บวกกับก.ตร.และก.พ.ค.ตร.ที่เปี่ยมคุณภาพ เชื่อว่าภาพลักษณ์ขององค์กรตำรวจที่ถูกตำรวจโตแบบบ่มแก๊ส เรียนลัด วิ่งเต้นเพื่อขอยกเว้นกฎกติกา ฉุดให้ดิ่งเหว  จะถูกกอบกู้กลับคืนมาเป็นที่ศรัทธาของประชาชนในเร็ววันอย่างแน่นอน


    แต่บทบาทของก.ตร.และก.พ.ค.ตร.เป็นเพียงตัวเสริมช่วยประคับประคองให้องค์กรเดินตามกฎ กติกา เพื่อให้บุคลากรเกิดความเชื่อมั่นในความเป็นธรรม แต่บทบาทในปฏิบัติการกอบกู้เกียรติภูมิและศักดิ์ศรีให้เกิดขึ้นโดยพลัน จะอยู่ที่ผู้นำองค์กร ณ ปัจจุบัน ดังนั้นเมื่อ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ขายฝันให้ตำรวจทุกนายซื้อฝันด้วยการทุ่มเท เสียสละในการทำงาน เชื่อว่าการแต่งตั้งโยกย้ายที่จะเกิดขึ้นภายใต้การนำของพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ตำรวจน้ำดีมีผลงานคงได้ผงาดนั่งตำแหน่งสำคัญๆแบบไม่ต้องมีปัจจัยอย่างแน่นอน


        จึงได้แต่หวังว่าหลังปีใหม่ไทยเป็นต้นไปคงได้เห็นองค์ตำรวจพ้นจากวงจรอุบาทว์ ด้วยฝีมือของผู้นำที่มีปณิธานและยึดมั่นในกฎหมายตำรวจอย่างเคร่งครัด


       หากยึดมั่นในลักษณะนี้ตลอดไปเท่ากับปิดประตูตายพวกที่จะโตแบบบ่มแก๊สและเรียนลัดอย่างแน่นอน !!!