ป.ป.ส.ร่วมSPOจับผู้ต้องหาคาบริษัทขนส่ง ขณะเตรียมส่งเฮโรอีนกว่า22กก.ซุกหลอดครีมบำรุงผิว

17632

วันที่ 2 เมษายน 2567 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เผยถึงการจับกุมชายอายุ 70 ปี พร้อมของกลางเฮโรอีน 22.23 กก. ซุกซ่อนในหลอดครีมบำรุงผิว จำนวน 261 กล่อง เตรียมจัดส่งปลายทางประเทศไต้หวัน เหตุเกิดที่ บริษัทขนส่งเอกชน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย โดยการจับกุมนี้เริ่มจากการขยายผลเคสจับกุมที่เกาหลีใต้ เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 27 – 31 มีนาคม 2567 เจ้าหน้าที่สำนักงานอัยการสูงสุด (SPO) พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ประเทศไทย ประจำสำนักงานอัยการสูงสุด (SPO) ประเทศเกาหลีใต้ ตรวจยึดไอซ์ 20 กก. ซุกซ่อนในพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศ จำนวน 3 กล่อง ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจับกุมหญิงไทย และชายชาวจีน (ไต้หวัน) โดยทั้งการตรวจยึดยาเสพติด และการจับกุมนี้เกิดขึ้นที่ประเทศเกาหลีใต้ เจ้าหน้าที่สำนักงานอัยการสูงสุด (SPO) จึงประสานขอความร่วมมือมายัง สำนักงาน ป.ป.ส. ในการสืบสวนขยายผลในคดีดังกล่าว

สำนักงาน ป.ป.ส. ได้สืบสวนจนกระทั่งทราบว่า พัสดุดังกล่าวส่งมาจากบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.หนองคาย โดยมีผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งที่เป็นผู้ดำเนินการจัดส่ง จึงได้เฝ้าติดตามบุคคลดังกล่าวจนกระทั่ง วันที่ 2 เมษายน 2567 สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับข้อมูลการข่าวว่าผู้ต้องสงสัยจะมาส่งสินค้าอีกครั้ง จึงร่วมกับ สภ.ท่าบ่อ จัดชุดปฏิบัติการเข้าจับกุม ชายอายุ 70 ปี ชาว จ.หนองคาย พร้อมเฮโรอีน 22.23 กิโลกรัม ซุกซ่อนในหลอดครีมบำรุงผิว จำนวน 261 กล่อง เหตุเกิดที่ บริษัทขนส่งเอกชน อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาได้รับการจ้างจากเครือข่ายชาว สปป.ลาว ให้นำกล่องพัสดุที่ซุกซ่อนยาเสพติดดังกล่าวมาส่งที่บริษัทขนส่งเอกชน เพื่อส่งต่อให้กับเครือข่ายปลายทาง

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ประเทศเกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศปลายทางที่ได้รับผลการทบจากการส่งยาเสพติดของเครือค้ายาเสพติดข้ามชาติ โดยเฉพาะการส่งผ่านพัสดุภัณฑ์ ซึ่งตนได้มอบหมายสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ประสานกับประจำสำนักงานอัยการสูงสุด (SPO) อย่างต่อเนื่อง เพื่อสืบสวนขยายผลเครือข่ายการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ที่เกี่ยวข้องในการขนส่ง นอกจากนี้ในเคสนี้จะประสานงานกับ สปป. ลาว เพื่อขยายผลถึงตัวผู้บงการอีกต่อหนึ่งด้วย ทั้งนี้การสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศเชิงรุกเป็นนโยบายที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มอบหมายให้ดำเนินการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยความร่วมมือระหว่างประเทศที่ดีจะเป็นตัวแปรที่สำคัญที่ส่งผลต่อการปราบปรามยาเสพติด ที่ปัจจุบันมีรูปแบบเป็นเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ

เลขาธิการ ป.ป.ส. ยังได้แจ้งเตือนหากมีการลักลอบรับ – ส่ง ยาเสพติดผ่านทางพัสดุภัณฑ์ทั้งในและต่างประเทศ มีโทษสูงสุด จำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต ในส่วนของสถานประกอบการขนส่งพัสดุ มีหน้าที่ในการ สอดส่อง ดูแลไม่ให้เกิดการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการ และต้องจัดทำบันทึกพนักงาน บันทึกรายละเอียด ผู้ส่ง/ผู้รับ ด้วยเช่นกัน หากพบว่าปล่อยปะละเลยมีโทษปรับหรือสั่งพักใบอนุญาตสถานประกอบการ ทั้งนี้ หากพบเห็นการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด แจ้งสายด่วน สำนักงาน ป.ป.ส. 1386 ตลอด 24 ชม.

#Thaitabloid #สำนักข่าวไทยแทบลอยด์ #ปปส